ชุมพร - ชาวบ้านโวย ผวาซากรถบัสเก่า ศาลพระภูมิชำรุด กองพะเนินเป็นภูเขาทิ้งรกร้างนานกว่า 5 ปี บนชายหาดท่องเที่ยว เผยมีกลุ่มคนทยอยนำมาไว้ใช้ทำโครงการของบจากภาครัฐ พาไปทิ้งทะเล สร้างบ้านปลาปะการังเทียม
วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ท่าเทียบเรือคลองเสม็ด หมู่ที่ 5 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นชายหาดสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามขึ้นชื่อของจังหวัดชุมพร หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว ว่า มีกลุ่มคนนำซากรถบัสเก่า ศาลพระภูมิชำรุดไปกองสะสมทิ้งไว้บนชายหาดจำนวนมากเป็นเวลานานกว่า 5 ปี จนบดบังทัศนียภาพความสวยงามของชายหาด และเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวว่าเป็นหาดผีสิง จนไม่กล้าลงไปเที่ยวชมความสวยงามของชายหาดดังกล่าว
จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวเป็นท่าเทียบเรือประมง และเรือท่องเที่ยวจอดอยู่จำนวนมาก มีชายหาดทรายโค้งสวยงาม พบว่า บนชายหาดใกล้กับท่าเทียบเรือ มีซากรถบัสสภาพเก่าสนิมเขรอะผุพังทั้งคันจอดอยู่ในพงหญ้าที่ขึ้นรก จำนวน 2 คัน ภายในซากรถบัสมีแมลง และสัตว์มีพิษหลบซ่อนอาศัยอยู่หลายชนิด นอกจากนั้น บริเวณเนินหาด และข้างสันเขื่อนกันน้ำเซาะ มีศาลพระภูมิเก่าชำรุดหลายพันชิ้นถูกนำมาทิ้งกองพะเนินเป็นภูเขาทับถมอยู่หลายจุด มีหญ้าขึ้นปกคลุมรกรุงรัง ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพความสวยงามของชายหาดท่องเที่ยวที่สวยงามจนหมดสิ้น
ชาวประมงรายหนึ่ง (ขอสงวนนาม) ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ซากรถบัสดังกล่าวเดิมมีอยู่ จำนวน 4 คัน มีกลุ่มบุคคลนำมาทิ้งไว้นานกว่า 5 ปี ที่ผ่านมา ทยอยนำไปทิ้งเป็นบ้านปลาปะการังเทียมกลางทะเลแล้ว 2 คัน เหลืออีก 2 คัน เป็นการทำในลักษณะโครงการของบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐ เมื่อได้งบมาแล้วก็จะนำไปทิ้งทะเลครั้งหนึ่ง โดยใช้ชื่ออย่างสวยหรูว่า เป็นบ้านปลาปะการังเทียม อ้างว่าทำเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน ส่วนศาลพระภูมิเก่าชำรุดก็ทำในลักษณะเดียวกัน โดยไปตระเวนเก็บมาจากริมถนนที่ชาวบ้านทิ้งไว้ จากนั้นก็นำมากองสะสมไว้ในบริเวณเดียวกัน เมื่อได้งบประมาณจากหน่วยงานรัฐ ก็จะทยอยนำไปทิ้งทะเลเช่นเดียวกัน
ชาวบ้านคนดังกล่าว ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยแต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะโครงการดังกล่าวแต่ละครั้งจะมีการจัดพิธีประชาสัมพันธ์ใหญ่โต เชิญข้าราชการระดับสูงหลายหน่วยงานมาร่วมพิธี และเป็นประธานเปิดโครงการ และยังมีการนำคณะสื่อจากกรุงเทพมหานคร มาทำประชาสัมพันธ์โครงการเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องว่าเป็นจุดท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของจังหวัด จึงอยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องใช้มาตรการทางกฎหมายที่นำสิ่งเหล่านี้มากองทิ้งไว้จนมองดูสกปรกรกรุงรัง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างมาก และขอนำไปไว้ที่อื่นไม่ใช่เอามากองไว้แบบนี้
ด้าน นายกฤษฏา โลพิศ นายกเทศบาลตำบลสะพลี กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมเจ้าท่า แต่มอบหมายให้พื้นที่เป็นผู้ดูแล ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทางเทศบาลตำบลสะพลี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตนได้พูดคุยกับกลุ่มต่างๆ ที่นำรถบัส และศาลพระภูมิเก่ามากองไว้บนชายหาดเพื่อให้ดำเนินการนำออกไปโดยเร็ว โดยเฉพาะศาลพระภูมิเก่า ที่มีการระดมกันเก็บมาจากทั่วทั้งจังหวัด ทำให้มีจำนวนมากจนเกินกำลังของกลุ่มต่างๆ ที่จะดำเนินการเองได้ ซึ่งการแก้ปัญหาหลังจากพ้นหน้าฤดูลมมรสุมนี้ ทางเทศบาลตำบลสะพลี จะเข้าไปดำเนินการร่วมกับกลุ่มต่างๆ ที่ทำโครงการดังกล่าว เพื่อขนไปทิ้งยังจุดที่เหมาะสมกลางทะเล จากนั้นก็จะปรับปรุงตกแต่งสภาพภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าวให้มีความสวยงาม ใช้เป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจต่อไป