เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานพิเศษคุกลับ CIA ถึงสภาพภายใน “แบล็กไซต์” ของอัฟกานิสถานในสมัยรัฐบาลบูชผู้ลูก พบ กูล รามานห์(Gul Rahman)ผู้ต้องขังถูกทรมานหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต CIA สอบปากคำ 18 ช.ม ต่อวัน บังคับให้สวมแต่แพมเพิร์สตัวเดียว หรือเทปผ้าพัน หรือปล่อยให้เปลือยท่ามกลางอุณหภูมิหิมะตก ผู้ต้องขังล้มป่วยหลังอิดโรยอย่างหนัก อุณหภูมิร่างกายลดต่ำ ก่อนที่ถูกบังคับปลุกถี่ยิบตลอด 48 ช.ม และหมดลมหายใจคาขื่อ ในขณะที่ 2 นักจิตวิทยาเจมส์ มิตเชล( James Mitchell )และจอห์น “บรูซ” เจสเซน( John “Bruce” Jessen) ผู้คิดค้นเทคนิกการทรมานนักโทษ “ทำลายระบบประสาทสัมผัส” กลับลอยนวล
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(10 ต.ค) ถึงการเปิดเผยเอกสารลับของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงสภาพภายในของ “เดอะแบล็กไซต์” คุกลับ CIA ตั้งซ่อนอยู่ในอัฟกานิสถานใกล้กับกรุงคาบูลในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2002
สื่ออังกฤษเริ่มการรายงานโดยชี้ไปที่การเสียชีวิตของอดีตนักโทษของ CIA คือ “ กูล รามานห์” (Gul Rahman) ซึ่งการเปิดเผยนี้ เดอะการ์เดียนชี้ว่า เกิดขึ้นหลังจากครอบครัวของราห์มาน และอดีตนักโทษคุกลับ CIA อีก 2 รายยื่นฟ้องศาลสหรัฐฯคือ คือ โมฮาเหม็ด เบน ซวด(Mohamed Ben Soud ) และ ซูไลมาน อับดุลลาห์ ซาลี (Suleiman Abdullah Sali )
และในที่สุดนำไปสู่การตกลงไกล่เกลี่ยในเดือนสิงหาคมล่าสุดต่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังการคิดค้นเทคนิกทรมานนักโทษคุกลับ CIA ซึ่งพบว่าคนทั้งคู่ เจมส์ มิตเชล( James Mitchell )และจอห์น “บรูซ” เจสเซน( John “Bruce” Jessen) เป็นนักจิตวิทยาที่ทาง CIA และเพนตากอน ว่าจ้างในการคิดค้นวิธีการทรมานนักโทษที่อื้อฉาวในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บูช
ทั้งนี้พบว่าคุกลับอัฟกานิสถานแห่งนี้อยู่ภายใต้ “รหัสโคบอลต์” ในการเปิดเผยพบว่า ราห์มานถูกสหรัฐฯใช้วิธีทรมานทางจิตวิทยา ในการทำให้ ***นักโทษไม่มีความสามารถรับรู้ทางประสาทสัมผัส*** โดยการส่งการ์ดเข้าปลุกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้นักโทษเหนื่อยอ่อน และอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่อออกแบบให้มีความมืดตลอดเวลา และมีเสียงดังเพื่อรบกวนการรับรู้ทางสายตาและทางหู
กูล ราห์มาน ต้องถึงแก่ชีวิตในเวลาต่อมาจากสาเหตุที่อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติเนื่องจากตัวเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สวมสิ่งใดภายใต้สภาพอากาศฤดูหนาวของอัฟกานิสถานที่มีหิมะตก เกิดขึ้นหลังจากที่ถูก CIA สอบปากคำอย่างต่อเนื่อง 18 ช.มต่อวัน
เดอะการ์เดียนเปิดเผย โดยอ้างข้อความของเคเบิลติดต่อว่า ราห์มานนั้นได้รับการปฎิบัติภายใต้การถูกทรมานขั้นสูงสุด ด้วยการจำกัดอาหาร อาบน้ำเย็นจัด ห้ามสวมเสื้อผ้า และการถูกสั่งห้ามนอน 48 ช.ม ส่งผลทำให้ตัวเขามีอาการสับสน และมึนงงตลอดเวลาจากสาเหตุร่างกายขาดความร้อน
สื่ออังกฤษชี้ว่า ผลจากการที่นำไปสู่การดำเนินคดีทางศาล ทำให้ทาง CIA และเพนตากอนยอมที่ต้องเปิดเผยเอกสารลับจำนวน 247 ฉบับในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีเบื้องต้น โดยเอกสารเหล่านี้มีกำหนดในการเปิดเผยชั้นความลับต่อสาธารณะเพื่อเป็นเอกสารพยานประกอบคดี
โดยทางเดอะการ์เดียนชี้ว่า ***บรูซ เจสเซน และ มิตเชล เลือกที่จะยอมไกล่เกลี่ยเพื่อเลี่ยงการที่ต้องขึ้นสู่ศาล และเปิดเผยความจริงทั้งหมดต่อหน้าคณะลูกขุน***
ในบรรดาเอกสารลับที่ทาง CIA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยอมเปิดเผยคือ เดอะการ์เดียกล่าวว่า ชิ้นที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งคือรายงานจากผู้ตรวจสอบ CIA ที่ส่งไปยัง เจมส์ พาวิตต์ (James Pavitt) ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านปฎิบัติการ เมื่อวันที่ 28 ม.ค 2003 ถึงเคสการเสียชีวิตของกูล ราห์มาน เป็นรายงานที่มีทั้งหมด 32 หน้า พร้อมกับการให้สัมภาษณ์ของเจสเซน นักจิตวิทยาผู้คิดค้นวิธีทรมาน และเจ้าหน้าที่ CIA ระดับล่างที่ถูกส่งให้ไปคุมคุกลับ CIA อัฟกานิสถาน
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ภายในคุกลับแห่งนี้ พบว่ามีห้องขังจำนวนทั้งหมด 20 ห้อง ที่ล้วนทำด้วยคอนกรีตแบบลักษณะเป็นกล่องปิดทึบ ในขณะที่ห้องขัง 16 ห้องจากทั้งหมด ผู้ถูกคุมตัวจะถูกล่ามติดกับห่วงเหล็กที่ฝังกับผนังคอนกรีต
ส่วนที่เหลืออีก 4 ห้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องขังที่ถูกใช้กับราห์มาน ผู้ถูกคุมตัวด้านในจะต้องอยู่ในท่าลักษณะยืน โดยที่ข้อมือของผู้ถูกคุมตัวจะถูกล่ามไว้กับขื่อที่ล็อกเหนือศีรษะ โดยห้องทั้ง 4 นี้นักจิตวิทยาของ CIA ออกแบบให้สำหรับการทรมานนักโทษเพื่อให้ไม่มีการนอนหลับพักได้ โดยการส่งคนมาปลุกทุกระยะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ร่างกายมีสภาพอ่อนเพลีย และไม่สามารถฟื้นตัวจากการนอนหลับตามปกติ
นอกจากนี้ยังพบว่า ในการทรมานของนักโทษพิเศษในห้องเหล่านี้ การ์ดจะบังคับให้ผู้ถูกคุมตัวต้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า โดยอนุญาตให้สวมแค่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเท่านั้น และในกรณีที่ไม่สามารถหาได้ ทางผู้คุมอเมริกันจะใช้ “เทปผ้า” กับนักโทษแทน หรือบางทีจะปล่อยให้ผู้ถูกควบคุมถูกล่ามในสภาพเปลือยเปล่า ภายในห้องขังที่ไม่มีฉนวนกันความร้อนในหน้าหนาวจัดของอัฟกานิสถาน
ในขณะเดียวกัน สภาพห้องผู้ต้องขังใน 16 ห้องแรก พบว่ามีการตั้งถังพลาสติกไว้ด้านใน
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า พบว่า เจสเซนได้ใช้เวลา 10 วันที่คุกลับอัฟกานิสถาน ซึ่งตั้งใกล้กับกรุงคาบูล เมื่อพฤศจิกายน 2002 และ 5 วันหลังจากที่เขาเดินทางกลับไปแล้ว กูล ราห์มาน ถูกพบเป็นศพในสภาพแข็งตาย
ซึ่ง จอห์น บรูซ เจสเซน ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่สอบสวน CIA ในเดือนมกราคม 2003 ถึงสภาพคุกลับอัฟกานิสถานว่า “บรรยากาศดีมากๆ” เกิดขึ้น 2 เดือนหลังจากที่เขาได้ทำการสอบปากคำราห์มาน และเสริมต่อว่า “สกปรกอย่างน่ารังเกียจ แต่ปลอดภัยดี”
ทั้งนี้พบว่า คุกลับ CIA ในอัฟกานิสถานแห่งนี้เปิดทำการตั้งแต่กันยายน 2002 และภายในแค่เดือนเดียว CIA สามารถทำให้สถานที่แห่งนี้สามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยมีผู้ควบคุมคุกลับอย่างเป็นทางการ อ้างอิงตามการเปิดเผยชื่อในเชิงอรรถของรายงานต่อสภาคองเกรสคือ แมทธิว เซอร์เบล(Matthew Zirbel)
ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า เซอร์เบลไม่มีประสบการด้านการบริหารเรือนจำมาก่อน และพบว่าเขาไม่ทราบถึงภารกิจของตัวเองจนกระทั่ง 3 วันหลังจากที่เดินทางมาถึงอัฟกานิสถานแล้ว
เบื้องปมการเสียชีวิตนักโทษรายนี้เป็นที่สะพรึงกลัวและเป็นปริศนา เพราะในการเปิดเผยก่อนหน้า ชี้ว่า กูล ราห์มาน ถูกส่งมาตัวจากปากีสถานมายังคุกลับ CIA แต่ในเอกสารใหม่ที่ถูกเปิดเผยล่าสุดกลับชี้ว่า ชายผู้นี้อาจจะยังมีชีวิตหากว่า เจสเซนไม่เดินทางไปเยี่ยมคุกที่เขาถูกควบคุม โดยพบว่าราห์มานถูกเจสเซนสอบปากคำ 6 ครั้งในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ในขณะที่ผู้คิดค้นกระบวนการทรมานของ CIA อีกรายคือ มิตเชล ได้อ้างในคดีความที่ถูกฟ้องร้องว่า คนทั้งคู่(เจสเซน และเมิตเชล) พยายามที่จะทำให้ความทรมานที่กูล ราห์มานได้รับนั้นลดลง
แต่ทว่าในเคเบิลติดต่อของ CIA กลับชี้ว่า เจสเซนเป็นคนแสดงความต้องการที่จะใช้วิธีการทรมานแบบพิเศษที่เรียกว่า "Enhanced interrogation techniques" ของเขากับราห์มานกับสำนักงานใหญ่ และต้องการให้มีการเพิ่มการทรมานแก่นักโทษรายนี้หลังจากที่เขาเดินทางกลับออกไปแล้วหลังพบว่าไม่ได้รับความร่วมมือ แต่ราห์มานกลับเสียชีวิต
ซึ่งในช่วงที่ราห์มานถูกขังและเสียชีวิตนั้นตรงกับหน้าหนาวของอัฟกานิสถาน โดยผู้ถูกคุมตัวรายนี้ได้ร้องต่อ CIA ว่า ตัวเขาหนาวมาก และไม่สามารถที่จะคิด หรือรู้สึกอะไรได้เพราะหนาวจัด สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ซูปเปอร์ไวเซอร์รายหนึ่งของ CIA ที่ได้เดินทางไปถึงคุกลับในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ราห์มานถูกส่งตัว กล่าวยืนยันว่า “มันหนาวมากใน (โคบอลต์)เมื่อเขาเดินทางมาถึง...และคิดว่าชายผู้นี้มีปัญหาสภาพอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติเกิดขึ้น เพราะเห็นราห์มานในสภาพสวมถุงเท้าแค่คู่เดียว และผ้าอ้อมสำเร็จรูปตลอดเวลา”
ซึ่งจากการเปิดเผยของการ์ดพบว่า กูล ราห์มานในขณะที่ยังมีชีวิต ต้องอยู่ในสภาพเปล่าเปลือยอยู่ตลอดเวลา หรือสวมเพียงแค่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเท่านั้น
การเสียชีวิตของราห์มานเกิดขึ้นในวันที่ 19 พ.ย 2002 หรือ 5 วันหลังจากที่เจสเซนเดินทางออกไปเมื่อวันที่ 14 พ.ย โดยในเวลา 15.00 น. การ์ดผู้คุมพบ กูล ราห์มาน ถูกโยงกับผนังคอนกรีตในสภาพท่านั่งที่มีร่างกายเปลือยเปล่าตั้งแต่ส่วนเอวเป็นต้นไป ***ซึ่งพบว่าในช่วงค่ำคืนนั้น ผู้คุมได้เข้าปลุกราห์มาน 4 ครั้ง ในเวลา 20.00 น. เวลา 22.00 น. เวลา 04.00 น. ของวันต่อไป และเวลา 08.00 น.***
โดยพบว่าในเวลา 04.00 น. ตามเวลานาฬิกาภายในเรือนจำ ท่ามกลางสภาพอากาศ -0.55 องศาเซลเซียสของด้านนอก การ์ดมองไปที่ห้องขังของราห์มานและส่งสัญญาณด้วยการผิวปาก ในเวลา 08.00 น. ผู้คุมอเมริกันรายงานว่า “พบว่าราห์มานยังคงนั่ง มีชีวิต และอยู่ในสภาพที่ตัวสั่น ส่วนตาเบิกโพลงและกระพริบ” ซึ่งร่างของราห์มานที่สั่นนั้นไม่ดูเหมือนผิดปกติในความเห็นของ CIA อเมริกา เพราะผู้ถูกคุมตัวรายอื่นในคุกลับแห่งนี้ล้วนอยู่ในสภาพที่ร่างกายสั่นสะท้านทั้งสิ้น
แต่กลับพบว่า ในอีก 2 ช.ม (10.00 น.)หลังจากนั้น การ์ดได้ย้อนกลับไปตรวจ กูล ราห์มาน อีกครั้ง พบว่าเขาได้นอนล้มไปอีกด้าน และเมื่อผู้คุมใช้กระบองเคาะไปที่ประตู แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวออกมาจากตัวนักโทษรายนี้....