เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่ออสเตรเลียวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของนักศึกษาสหรัฐฯ วัย 22 ปี ออตโต วอร์มเบียร์ (Otto Warmbier) ที่เสียชีวิตแล้วในวันจันทร์ (19 มิ.ย.) หลังจากถูกปล่อยจากเกาหลีเหนือในสภาพเป็นผักไร้การตอบสนอง แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯชี้ วอชิงตันรับรายงานข่าวกรองลับพบ วอร์มเบียร์ถูกทำร้ายร่างกายทารุณกรรม ผลสแกน MRI เกาหลีเหนือยืนยัน สมองของเหยื่ออเมริกันได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก เกิดขึ้นไม่นานหลังจากถูกคุมตัว แต่ผลการตรวจร่างกายของสหรัฐฯกลับไม่พบ “ร่องรอยถูกทำร้าย-กระดูกแตก”
ABC NEWS สื่อออสเตรเลียรายงานวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า เงื่อนงำการเสียชีวิตของนักศึกษาสหรัฐฯจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียที่ถูกเกาหลีเหนือคุมตัวนาน 17 เดือนยังคงเป็นปริศนา ซึ่งเป็นที่รู้ว่าล่าสุดชายหนุ่มผู้นี้ที่เป็นนักศึกษาระดับเกียร์ตินิยม และได้เดินทางเข้าเกาหลีเหนือในฐานะนักท่องเที่ยวซึ่งถูกจัดโดยบริษัทการท่องเที่ยวจีน Young Pioneer Tours ในระหว่างการเดินทางศึกษาต่อต่างประเทศที่ฮ่องกงในขณะนั้น ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวานนี้ (19) ที่โรงพยาบาลซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ หลังจากเขาถูกปล่อยตัวออกมาจากเกาหลีเหนือในสภาพสมองตายไร้การตอบสนองเมื่อวันที่ 13 มิ.ย
ล่าสุดพบว่าบริษัทท่องเที่ยวจีนนี้ประกาศที่จะไม่มีการนำนักท่องเที่ยวสหรัฐฯ เดินทางเข้าเกาหลีเหนืออีกต่อไป โดยอ้างว่าจากการประเมินพบว่ามีความเสี่ยงสูงเกินไป
การเสียชีวิตของวอร์มเบียร์สร้างความเสียใจไปทั่วประเทศ หนึ่งในสว.ผู้ทรงอิทธิพลของสหรัฐฯในปีกพรรครีพับลิกัน ส.ว.รัฐแอริโซนา จอห์น แม็กเคน ออกมาประณามและกล่าวโทษว่า “เกาหลีเหนือ” เป็นอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิต และยืนยันว่าวอชิงตันไม่สมควรเพิกเฉยต่อการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ อ้างอิงจากสื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียน
ความเห็นของแม็กเคนสอดคล้องกับแถลงการณ์ของครอบครัววอร์มเบียร์ ซึ่งผู้เป็นบิดาและมารดาของวอร์มเบียร์ ชายหนุ่มวัย 22 ปีบุคคลที่รัก และเป็นนักสู้อย่างแท้จริงในสายตาของบิดาของเขา ที่เชื่อมั่นว่า “ออตโต” ลูกชายได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่รอดในในเรือนจำของเกาหลีเหนือ
โดยในแถลงการณ์ของครอบครัวกล่าวว่า “เป็นที่น่าโชคร้ายที่การปฏิบัติอย่างป่าเถื่อนและทรมานได้เกิดขึ้นกับลูกชายของพวกเราในระหว่างที่อยู่ภายใต้เงื้อมมือของเกาหลีเหนือ และทำให้รู้ได้ว่า ไม่มีผลลัพท์เป็นอื่นนอกเหนือจากความเศร้าเสียใจที่พวกเราต้องได้รับในวันนี้”
โดยในรายงานของ ABC NEWS สื่อออสเตรเลียเชื่อว่า สาเหตุของการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของออตโต วอร์มเบียนั้น น่าจะเกิดมาจากการถูกทารุณกรรมทางร่างกายอย่างร้ายแรงในขณะถูกคุมตัว
โดยเปียงยางอ้างว่า วอร์มเบียต้องอยู่ในขั้นโคม่า หลังจากเขารับประทานยานอนหลับ เกิดขึ้นในขณะที่ชายหนุ่มผู้นี้ล้มป่วยด้วยโรคอาหารพิษต่อระบบประสาท หรือโรคโบทูลิซึม (Botulism)
ทั้งนี้ อ้างอิงจากเว็บไซต์หมอชาวบ้าน MGR ออนไลน์พบว่า โรคอาหารพิษต่อระบบประสาท หรือที่รู้จักในไทยคือ โรคพิษหน่อไม้ปี๊บ นั้น เกิดจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย (ที่มีชื่อว่า คลอสทริเดียม โบทูลินัม) ซึ่งปนเปื้อนในอาหาร โดยในกรณีของไทย เชื้อแบคทีเรีย คลอสทริเดียม โบทูลินัมถูกพบเปื้อนอยู่ในหน่อไม้ปี๊บ แต่กับกรณีของนักศึกษาอเมริกันรายนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผย
แต่อย่างไรก็ตาม การรับพิษสำหรับโรคนี้เกิดได้ 3 ทาง คือ (1) กินอาหารที่ปนเปื้อนพิษ (อาหารเป็นพิษ) (2) เชื้อเข้าทางบาดแผลแบบเดียวกับโรคบาดทะยัก ที่อาจรวมไปถึงการฉีดยาเสพติดด้วยเข็มที่ไม่สะอาด และ (3) กินอาหารที่ปนเปื้อนสปอร์ ซึ่งคณะแพทย์สหรัฐฯ ที่ได้ตรวจร่างกายวอร์มเบียร์แถลง ไม่พบเชื้อโบทูลิซึมในระบบร่างกายของเขา และทำให้ตัดประเด็นการเสียชีวิตจากโรคนี้
ในรายงานเพิ่มเติมของABC NEWS ที่ได้อ้างอิงถึงหลักฐานที่สำคัญ จากการรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส์ ที่ได้ระบุว่า คณะแพทย์จากศูนย์การแพท์มหาวิทยาลัยซินซินแนติ ได้ให้ความเห็น ***โดยอ้างไปถึงผลสแกน MRI จำนวน 2 ชิ้นที่ถูกส่งออกมาจากเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นว่า ระบบสมองของออตโต วอร์มเบียร์ได้รับการบาดเจ็บขั้นร้ายแรง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนเมษายน 2016 หรือไม่นานหลังอยู่ในการควบคุมตัวของเกาหลีเหนือ***
หรือเท่ากับว่าวอร์มเบียร์ต้องอยู่ในสภาพเป็นผักสมองตายไม่ต่ำกว่า 14 เดือนก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน แต่ทว่าทางเปียงยางไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะให้รับทราบถึงการอยู่ในอาการโคม่าของวอร์มเบียร์
ทั้งนี้ วอร์มเบียร์ วัย 22 ปี ถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานเกาหลีเหนือในช่วงต้นเดือนมกราคม 2016 ในระหว่างที่เขากำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ และในรายงานของรอยเตอร์ อ้างอิงจากแถลงการณ์ของครอบครัววอร์มเบียร์ระบุว่า วอร์มเบียร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เริ่มเข้าสู่อาการโคม่าในเดือนมีนาคม 2016 ไม่นานหลังจากเขาถูกพิพากษาใช้แรงงานหนัก 15 ปีในเกาหลีเหนือ
และในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 วอร์มเบียมีภาพปรากฏตัวต่อสาธารณะ ในการออกมาขออภัยในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำเมื่อต่อความผิดที่อ้างว่า ชายหนุ่มผู้นี้ได้แอบขโมยป้ายโฆษณาทางการเมืองที่ถูกติดในพื้นที่สำหรับเจ้าหน้าที่โรงแรมยัวกัคโด อินเตอร์เนชันแนล (Yanggakdo International Hotel) ของเกาหลีเหนือ โดยในขณะนั้น สื่อนิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างอิงจากวิดีโอคลิปของสื่อเอพี ที่มีเสียงของออตโต วอร์มเบียร์ กล่าวขออภัยว่า “ผมได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต”
ในแถลงการณ์ของครอบครัววอร์มเบียร์ อ้างอิงจากสื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียน กล่าวว่า ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อกับลูกชาย ออตโต วอร์มเบียร์ ได้ และทางเกาหลีเหนือไม่เปิดโอกาสให้กงสุลสหรัฐฯเดินทางเข้าพบวอร์มเบียร์ในคุก
และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า เมื่อครอบครัวพบกับวอร์มเบียร์อีกครั้งในวันที่ 13 มิ.ยที่ผ่านมา พบว่าลูกชายคนนี้อยู่ในสภาพไม่ตอบสนอง หรือรับรู้ใดๆแล้ว โดยพ่อและแม่ของวอร์มเบียร์บรรยายว่า วอร์มเบียร์ไม่สามารถพูดได้ มองไม่เห็น และไม่รับรู้ต่อเสียงคำสั่ง ซึ่งคนทั้งคู่ชี้ว่า ดูเหมือนลูกชายของคนทั้งคู่ได้รับความทรมานเป็นอย่างมาก
ABC NEWS สื่ออสเตรเลียรายงานว่า มีการตั้งทฤษฎีความเป็นไปได้ของการเสียชีวิตของวอร์มเบียร์คือ (1)การถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักในระหว่างอยู่ในเรือนจำของเกาหลีเหนือ
โดยทางสื่อได้อ้างอิงข้อมูลของ แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯที่ปรากฎอยู่บนนิวยอร์กไทม์ส ระบุว่าวอชิงตันได้รับรายงานข่าวกรองลับชี้ว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียรายนี้ถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างถูกควบคุมตัวในเรือนจำของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับการออกมาให้ข้อมูลของคณะแพทย์นย์การแพท์มหาวิทยาลัยซินซินเนติที่ได้รับผลการตรวจ MRI ของวอร์มเบียร์จากเกาหลีเหนือ โดยออกมาชี้ว่า ดูเหมือนก่อนหน้า วอร์มเบียร์ได้สญเสียเนื้อเยื่อสมองที่เกิดขึ้นในทุกส่วนของสมอง ที่เชื่อว่าน่าจะเกิดมาจากสาเหตุการหยุดหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตไม่ทำงาน (Cardiopulmonary arrest) ที่ตัดการส่งเลือดเข้าไปหล่อเลี้ยงอวัยวะสมอง
แต่ทางคณะแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุเบื้องต้นของการบาดเจ็บของวอร์มเบียร์ได้ ซึ่งในรายงานของนิวยอร์กไทม์ส คณะแพทย์ได้ยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยการบาดเจ็บทางร่างกายที่เกิดมาจากการถูกทำร้ายอย่างหนัก หรือสภาพกระดูกแตกแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือได้ขึ้นชื่อว่ามีความป่าเถื่อนในการปฏิบัติต่อนักโทษ โดยนิวยอร์กไทม์รายงาน 1 วันหลังจากการเดินทางมาถึงของวอร์มเบียร์ว่า ถึงแม้ว่าช่วงหลังสงครามเกาหลี ประเทศเกาหลีเหนือจะร้างลาจากการทรมานนักโทษชาวอเมริกันที่อยู่ในการควบคุมตัว แต่ทว่าเคสของวอร์มเบียร์นั้นได้กลายเป็นสิ่งทีต้องกังวล
ในการเปิดเผยของอดีตเชลยเกาหลีเหนือที่ถูกจับกุมในปี 2009 หลังเดินข้ามพรมแดนจากฝั่งจีนเข้าเกาหลีเหนือในสภาพโบกคัมภีร์ไบเบิลไปมาในอากาศเป็นสัญลักษณ์แสดงออกถึงสันติ โรเบิร์ต ปาร์ก (Robert Park) มิชชันนารีคริสเตียนได้เปิดเผยถึงการถูกทารุณกรรมอย่างแสนสาหัสในคุกของเกาหลีเหนือ
เขากล่าวว่า จนถึงขั้นที่เขามีความต้องการฆ่าตัวตาย
ในการให้สัมภาณษณ์กับสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ในขณะนั้น โรเบิร์ต ปาร์กกล่าวว่า หลังจากที่ถูกย้ายไปกรุงเปียงยางแล้ว เขาถูกเจ้าหน้าที่หญิงเปียงยางใช้ไม้กระหน่ำตีอวัยวะเพศของเขา และทำให้เขาต้องร้องต่อกลุ่มเจ้าหน้าที่หญิงเหล่านั้นให้สังหารเขาแทนเสีย
และหลังจากที่ปาร์กได้รับอิสรภาพในเวลาต่อมา เขามีปัญหาสภาพทางจิตอย่างหนัก และได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค PTSD (Post-traumatic Stress Disorder) หรือโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง และปาร์กถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย
นอกจากทฤษฎีของการถูกทำร้ายที่ถูกขัดแย้งด้วยผลการแพทย์ที่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือกระดูกหักแล้ว ABC NEWS รายงานว่า มีอีกความน่าจะเป็นอีกกรณีต่อการเสียชีวิตของออตโต วอร์มเบียร์คือ (2)การได้รับยาโดสเกินขนาดจนถึงขั้นทำให้เกิดภาวะสมองตาย
วอชิงตันโพสต์ชี้ว่า อาการภาวะหัวใจหยุดเต้นนั้นมีสาเหตุเกิดมาจากการหยุดหายใจ โดยนายแพทย์สหรัฐฯ จอร์แดน โบโนโม(Jordan Bonomo)ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง สันหลัง และระบบประสาท และการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน ออกมาให้ข้อมูลว่า ภาวะร่างกายที่ถูกพิษหรือบาดเจ็บขั้นร้ายแรงนั้นมาสู่ปัญหาการหยุดหายใจได้
ผู้เชี่ยวชาญรายนี้เชื่อว่า การได้รับยาเกินขนาดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหยุดหายใจได้ด้วยเช่นกัน
