xs
xsm
sm
md
lg

InClips:ด่วน!! ตอลิบานส่งขีปนาวุธโจมตี “สนามบินคาบูล” ไม่ต่ำกว่า 6 ลูก กะสอย “เจมส์ แมททิส” ลงเครื่องเยือนอัฟกานิสถาน เจ็บ 5 - ทุกเที่ยวบินยกเลิกทั้งหมด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/เอพี - ตอลิบานแถลงอ้างรับผิดชอบเหตุโจมตีท่าอากาศยานกรุงคาบูลวันนี้(27 ก.ย) ยืนยันเจ้ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเป็นเป้าหมาย เกิดขึ้นหลังเจมส์ แมททิส เดินทางออกไปจากสนามบินแล้ว ระบุจรวดถูกยิงเข้ามาอย่างน้อย 6 ลูก มีตัวเลขพลเรือนบาดเจ็บ 5 ราย ส่วนแมททิสปลอดภัย ด้านเที่ยวบินเข้าออกถูกสั่งยกเลิกชั่วคราว ส่วนก่อการร้าย IS ระบุ ทางกลุ่มลงมือ ใช้จรวดรุ่น SPG-9 และปืนใหญ่โจมตี

NBC NEWS รายงานวันนี้(27ก.ย)ว่า ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัชราฟ กานี ยืนยันว่า ในเหตุโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลวันพุธ(27 ก.ย)นั้น รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เจมส์ แมททิส ได้เดินทางออกไปก่อนหน้าแล้ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

แต่อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เอพีรายงานว่า การโจมตีทำให้มีพลเรือน 5 คนได้รับบาดเจ็บ โดยโฆษกกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถาน นาจีบ ดานิช(Najib Danish) เปิดเผยว่า มีหญิงรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บขั้นสาหัส หลังจากจรวดลูกหนึ่งเกิดตกใส่บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินคาบูล และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ5 ราย

ซึ่งทางโฆษกชี้ว่า กองกำลังอัฟกันได้เข้าปิดล้อมพื้นที่บริเวณที่ต้องสงสัยว่า จรวดเหล่านี้อาจถูกยิงออกมาแล้ว โดยในการรายงานของ NBC NEWS ดานิชชี้ว่า มีการปิดล้อมบ้าน 2 หลังใกล้สนามบินเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัย ส่วนปฎิบัติการค้นหาได้ดำเนินอยู่ในพื้นที่เวลานี้โดยหน่วยตำรวจอัฟกัน

สื่อสหรัฐฯรายงานว่า แมททิสได้เดินทางเข้าอัฟกานิสถานในวันพุธ(27 ก.ย) ด้วยกำหนดการแบบไม่เปิดเผย พร้อมกับเลขาธิการองค์การนาโต เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก(Jens Stoltenberg) ซึ่ง NBC NEWS ชี้ว่า ถือเป็นการเยือนอัฟกานิสถานครั้งแรกของแมททิสนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศแนวทางนโยบายอัฟกานิสถานใหม่

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าหมายกำหนดเดินทางของบอสใหญ่เพนตากอนจะปิดลับ ***แต่ทว่า แหล่งข่าวผู้บัญชาการรบตอลิบาน 2 คน ได้ออกมายืนยันว่า “แหล่งข่าวภายในกองกำลังความมั่นคงอัฟกันของพวกเขา และที่ท่าอากาศยานนานาชาติคาบูลได้ให้ข้อมูล”***

“ทางเรายิงจรวดมา 6 ลูกด้วยเป้าหมายต้องการโจมตีเครื่องบินของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และเครื่องของเจ้าหน้าที่นาโต” หนึ่งในผู้บัญชาการรบตอบลิบานกล่าว และเสริมว่า “เราได้รับการบอกเล่าโดยสายข่าวว่า ได้มีการสูญเสียบางส่วนเกิดขึ้นกับฐานของพวกเขา แต่เราไม่แน่ใจไปถึงเจมส์ แมททิส”

ด้านโฆษกกลุ่มตอลิบาน ซาบิฮูลลาห์ มูจาฮิด(Zabihullah Mujahid) ออกมายืนยันถึงความรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ โดยชี้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธตอบลิบานจริง และกล่าวว่า เป้าหมายการโจมตีครั้งนี้คือ “เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอื่นๆ”

แต่อย่างไรก็ตาม NBC NEWS ชี้ว่า ถึงแม้ทางกลุ่มตอลิบานออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่อาจไม่ใช่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง ซึ่งสื่อรัสเซีย RT รายงานว่า กลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาอ้างความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

เอพีรายงานว่า ทาง IS อ้างผ่านสำนักข่าวอัลมัคของตัวเองว่า ใช้จรวดรุ่น SPG-9 และปืนใหญ่โจมตี

ซึ่งในการแถลงข่าวในกรุงคาบูล แมททิสประกาศว่า “หากว่ามีการโจมตีเกิดขึ้นจริง ...” และกล่าวต่อว่า “หากว่านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาได้กระทำลงไป คนเหล่านี้จะต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังความมั่นคงอัฟกันอย่างแน่นอน”

และเลขาธิการทั่วไปองค์การนาโต สโตลเตนเบิร์ก ได้แถลงเสริมว่า “การลงมือโจมตีที่ตั้งสนามบินพลเรือนนั้นถือเป็นสัญญาณความอ่อนแอให้เห็น ไม่ใช่ความเข้มแข็ง”

ด้านประธานาธิบดีอัฟกานิสถานยืนยัน เหตุโจมตีสนามบินคาบูลว่าเกิดขึ้นจริง และชี้ว่า ในขณะนี้กองกำลังพิเศษอัฟกันเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

เอพีรายงานว่า ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติคาบูล ทูเมอร์ ชาห์ ฮาเมดี( Tumor Shah Hamedi) รายงานว่า หลังจากเกิดเหตุโจมตีแล้ว เที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากท่าอากาศยานถูกระงับชั่วคราว

ซึ่งในการแถลงร่วมระหว่างแมททิสและสโตลเตนเบิร์ก คนทั้งคู่ยืนยันว่าจะยังคงให้การสนับสนุนกานีต่อไปเพื่อทำให้ “อัฟกานิสถานไม่เป็นสวรรค์ของกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ”

โดยทางแมททิสชี้ว่า ทางวอชิงตันสนับสนุนในแนวทางการเจรจาเกิดขึ้นระหว่างกานีและกลุ่มตอลิบาน และยืนยันว่าทางสหรัฐฯจะส่งกองกำลังเพิ่มเติมอีก 3,000 นายเพื่อช่วยในการฝึกให้กับทางอัฟกานิสถาน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในประเทศราว 8,400 นาย เอพีกล่าว

ส่วนเลขาธิการใหญ่นาโตได้ส่งสัญญาณว่า ทางนาโตจะยังคงกองกำลังต่อในอัฟกานิสถาน โดยชี้ว่า หากถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานเร็วจนเกินไป อาจส่งผลทำให้อัฟกานิสถานตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต และสุดท้ายจะกลับกลายเป็นแหล่งสวรรค์สำหรับกลุ่มก่อการร้ายอีกครั้ง

ซึ่งทางสโตลเตนเบิร์กยังยืนยันว่า นาโตยังคงรับปากที่จะให้การช่วยเหลือด้านการเงินสนับสนุนกองกำลังทางความมั่นคงอัฟกันไปจนถึงปี 2020 และจะยังคงให้เงินช่วยเหลือแก่อัฟกานิสถานในแต่ละปีจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์





กำลังโหลดความคิดเห็น