xs
xsm
sm
md
lg

โสมแดงแจงยิบแผนถล่ม “เกาะกวม” หลัง “ทรัมป์” โวนุกมะกันเหนือชั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประชาชนเดินผ่านจอมอนิเตอร์ที่กำลังเผยแพร่รายงานข่าวเกี่ยวกับคำขู่รอบใหม่ของเกาหลีเหนือในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(10ส.ค.)
เอเจนซีส์ - “เกาหลีเหนือ” ท้าทายคำขู่โอ่อวดแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของ “ทรัมป์” ด้วยการเปิดเผยแผนรายละเอียดยิบ จะยิงขีปนาวุธ 4 ลูกบินเหนือญี่ปุ่นมุ่งหน้าไปสู่เกาะกวม ดินแดนของสหรัฐฯ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมระบุเสนอให้ผู้นำคิมพิจารณากลางเดือนนี้ ทางด้านผู้เชี่ยวชาญชี้งานนี้ประมาทไม่ได้ และที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ แม้เป็นเพียงการทดสอบ แต่วอชิงตันอาจมองเป็นการยั่วยุและพยายามสกัดหรือตอบโต้ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลียิ่งลุกเป็นไฟ

เกาหลีเหนือออกมาโต้คารมกับสหรัฐฯ อีกครั้งในเช้าวันพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ด้วยการด่าทรัมป์ว่าเป็นคนที่ “ไม่รู้จักเหตุผล” และยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนโจมตี “เกาะกวม” ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก

“การพูดคุยกันดีๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ไร้เหตุผล และต้องใช้กำลังเท่านั้นถึงจะรู้เรื่อง” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ อ้างถ้อยแถลงของ พล.อ.คิม รัก กยอม จากกองทัพโสมแดง

นายพลผู้นี้ระบุว่า แผนโจมตีเป้าหมายใกล้เกาะกวม “เพื่อเป็นสัญญาณเตือนถึงสหรัฐฯ” นี้ จะร่างเสร็จราวๆ กลางเดือน ส.ค. แล้วส่งต่อให้คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือพิจารณา เขาแจกแจงว่า ตามแผนนี้ จรวด “ฮวาซอง -12” จำนวน 4 ลูกของเกาหลีเหนือจะเหินฟ้าข้ามผ่านจังหวัดชิมาเนะ ฮิโรชิมา และโคจิของญี่ปุ่น และจะตกลงสู่ทะเลห่างจากเกาะกวมประมาณ 30-40 กิโลเมตร คิดเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 3,356.7 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 17 นาทีกับอีก 45 วินาที

เกาะกวมนั้นอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้กว่า 3,000 กิโลเมตร มีประชากรราว 163,000 คน ถือเป็นฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯในแปซิฟิกฝั่งตะวันตก โดยเป็นจุดประจำการทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เครื่องบินทหาร และเรือดำน้ำ ที่มักจะถูกส่งออกไปยังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อโชว์แสนยานุภาพของอเมริกา
ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งรวมตัวกันหน้าทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ(9ส.ค.) ที่ผ่านมา เรียกร้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้แนวทางเจรจาอย่างสันติกับเกาหลีเหนือ
การประกาศของโสมแดงครั้งนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตข้อความคุยอวดว่า คลังแสงอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกานั้น “แข็งแกร่งกว่าอย่างห่างชั้น และก็มีอานุภาพมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต”

ก่อนหน้านั้นวันเดียว ทรัมป์ยังสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก ด้วยการส่งข้อความท้าทายอย่างสุดห้าวไปถึงผู้นำคิม โดยดูเหมือนเป็นการหยิบยืมถ้อยคำโวหารของฝ่ายเปียงยางเองมาใช้ เมื่อเขากล่าวว่า เกาหลีเหนือจะต้องเผชิญกับ “ไฟและเพลิงแค้นชนิดที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน”

ถึงแม้เกาหลีเหนือขู่ทำลายอเมริกาและพันธมิตรให้ราบคาบเป็นประจำ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เปิดเผยรายละเอียดล่วงหน้าชัดเจนแบบวันพฤหัสบดีนี้มาก่อน เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเปียงยางประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปสองครั้งซ้อนในเดือนที่ผ่านมา

ลี ชุนกึน นักวิจัยอาวุโสของสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของรัฐบาลเกาหลีใต้ ชี้ว่า มีความเสี่ยงที่จรวดอาจไปตกใกล้กวม มากกว่าที่เกาหลีเหนือวางแผนไว้ ซึ่งจะทำให้อเมริกามองว่า เป็นการโจมตีอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มมากที่สุดว่า วอชิงตันจะพยายามทำลายขีปนาวุธโสมแดงก่อนที่จะเข้าไปใกล้กวม ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ลุกลามอันตรายในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ชา โด-ฮยอง นักวิจัยรับเชิญของสถาบันเอเชียเพื่อการศึกษานโยบาย ที่ตั้งอยู่ในโซล ก็มองว่า กระทั่งถ้าหากขีปนาวุธเกาหลีเหนือไม่ตกในน่านน้ำกวม แต่อเมริกาก็อาจไม่อดทนต่อการยั่วยุนี้เนื่องจากถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ

แต่ มาซาโอะ โอโกโนกิ ศาสตราจารย์กิตติคุณจากมหาวิทยาลัยเคโอของญี่ปุ่น เชื่อว่า เปียงยางเพียงต้องการเตือนล่วงหน้าว่า จะย้ายเป้าหมายการทดสอบขีปนาวุธจากทะเลญี่ปุ่นเป็นน่านน้ำรอบๆ กวมเท่านั้น ไม่ได้ต้องการโจมตีจริงแต่อย่างใด
ชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านจอมอนิเตอร์ที่กำลังเผยแพร่รายงานข่าวเกี่ยวกับคำขู่รอบใหม่ของเกาหลีเหนือในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(10ส.ค.)
ทางด้าน สายการบินชั้นนำที่บินผ่านบริเวณดังกล่าวยืนยันว่า ยังไม่มีแผนเปลี่ยนเส้นทางบิน

เช่นเดียวกัน เอ็ดดี้ คาลโว ผู้ว่าการกวม เชื่อว่า ยังไม่มีภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือมากกว่าที่ผ่านมา

ปัจจุบัน กองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ มีเรือ 6 ลำที่ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ “เอจิส” อยู่ในบริเวณที่สามารถเข้าสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือได้ ส่วนญี่ปุ่นมีเรือแบบเดียวกันนี้อีก 4 ลำ ขณะที่กวมมีระบบต่อต้านขีปนาวุธขั้นสูง “ทาด” แบบเดียวกับที่เพิ่งติดตั้งในเกาหลีใต้

รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า ญี่ปุ่นมีความชอบธรรมในการสกัดขีปนาวุธที่มีเป้าหมายโจมตีกวม กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญท้วงว่า ขณะนี้ โตเกียวยังไม่มีศักยภาพที่จะทำเช่นนั้นได้

ทางด้านจิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกมาเตือนอย่างเด็ดขาดเมื่อวันพุธ (9) ว่าเปียงยางควรยุติการดำเนินการใดๆ ก็ตามที่อาจทำให้ประเทศล่มสลายและประชาชนได้รับความเสียหายหรือบาดเจ็บล้มตาย

วอชิงตันเตือนมาตลอดว่า พร้อมใช้กำลังถ้าจำเป็นเพื่อหยุดยั้งโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่ขณะนี้ ยังเลือกใช้การดำเนินการทางการทูตก่อน ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพิ่งออกมาตรการแซงก์ชันครั้งใหม่และรุนแรงที่สุดต่อเกาหลีเหนือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5)

ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า แผนการโจมตีกวมที่เปิดเผยล่าสุดยังอาจทำให้อเมริกาตกอยู่ในสถานะหนีเสือปะจระเข้ กล่าวคือถ้าไม่พยายามสกัดจรวดโสมแดงก็จะกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ และเปียงยางจะยิ่งหลงลำพองและทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเต็มรูปแบบ

แต่ถ้าพยายามสกัดแล้วไม่ได้ผลก็จะกลายเป็นว่า ระบบต่อต้านขีปนาวุธของอเมริกานั้นไร้น้ำยา


กำลังโหลดความคิดเห็น