เอเอฟพี - สหรัฐฯ ฝากคำเตือนไปยังเกาหลีเหนือวานนี้ (9 ส.ค.) ว่าการดึงดันพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อาจนำไปสู่การล่มสลายของระบอบคิม จองอึน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาคุยข่มว่าคลังแสงนิวเคลียร์สหรัฐฯ นั้นทรงอานุภาพที่สุด ด้านโสมแดงด่ากลับ ทรัมป์ เป็นคนที่ “ไม่รู้จักเหตุผล”
สงครามน้ำลายระหว่างวอชิงตันและเปียงยางเกิดขึ้น หลังจากที่ ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงด้วยการขู่ผู้นำคิมว่าจะต้องเจอกับ “ไฟและเพลิงแค้นที่โลกไม่เห็นพบเห็นมาก่อน”
ท่าทีแข็งกร้าวของผู้นำสหรัฐฯ สร้างความกังวลต่อจีนและพันธมิตรอเมริกาในภูมิภาค ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งฮวบท่ามกลางความหวั่นวิตกของนักลงทุนซึ่งแห่ไปกว้านซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า
เช้าวันนี้ (10) เกาหลีเหนือออกมาโต้คารมกับสหรัฐฯ อีกครั้งด้วยการด่าทรัมป์ว่าเป็นคนที่ “ไม่รู้จักเหตุผล” และยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนโจมตี “เกาะกวม” ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก
“การพูดคุยกันดีๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ไร้เหตุผล และต้องใช้กำลังเท่านั้นถึงจะรู้เรื่อง” สำนักข่าวเคซีเอ็นเออ้างถ้อยแถลงของ พล.อ.คิม รัก กยอม จากกองทัพโสมแดง
นายพลผู้นี้ระบุว่า แผนโจมตีเป้าหมายใกล้เกาะกวมจะร่างเสร็จราวๆ กลางเดือน ส.ค. โดยจะใช้จรวด 4 ลูกยิงข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่น และแผนดังกล่าวจะถูกส่งให้ผู้นำคิม จองอึน พิจารณา “เพื่อเป็นสัญญาณเตือนถึงสหรัฐฯ”
จรวด 4 ลูกของเกาหลีเหนือจะข้ามผ่านจังหวัดชิมาเนะ ฮิโรชิมา และโคจิของญี่ปุ่น และจะตกลงสู่ทะเลห่างจากเกาะกวมประมาณ 30-40 กิโลเมตร คิดเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 3,356.7 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 17 นาทีกับอีก 45 วินาที
เกาะกวมซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกเป็นจุดประจำการทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล เครื่องบินทหาร และเรือดำน้ำ ที่มักจะถูกส่งออกไปยังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อโชว์แสนยานุภาพของอเมริกา
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ กองทัพสหรัฐฯ ก็ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วเหนือเสียง 2 ลำจากเกาะกวมออกไปบินร่อนเหนือคาบสมุทรเกาหลีเพื่อข่มขวัญเกาหลีเหนือ
ชิน จอง-วุก นักวิเคราะห์จากกลุ่ม Korea Defence and Security Forum ชี้ว่า เกาะกวมอยู่ภายในรัศมีโจมตีของขีปนาวุธ ฮวาซอง-12 ซึ่งเคยถูกนำมาโชว์ในพิธีสวนสนามของกองทัพเปียงยางเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
“เกาหลีเหนือน่าจะเชื่อมั่นในศักยภาพของจรวด ฮวาซอง-12 หลังการยิงทดสอบเมื่อเดือน พ.ค. ประสบความสำเร็จตามเป้า” ชิน บอกกับเอเอฟพี
เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งย้ำเสมอถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นจากการทำสงครามกับเกาหลีเหนือ ก็เริ่มหันมาใช้ภาษาที่ดุเดือดคล้ายกับทรัมป์ โดยเตือนให้เปียงยางหยุดโดดเดี่ยวตัวเอง และลดละความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์
“เกาหลีเหนือควรงดเว้นจากการกระทำใดๆ ก็ตามที่อาจนำไปสู่การล่มสลายของระบอบปกครอง และการทำลายล้างซึ่งจะเกิดกับประชาชนของพวกเขาเอง” แมตทิส ระบุ
บอสใหญ่เพนตากอนเตือนด้วยว่า ระบบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือยังมีศักยภาพเทียบไม่ได้กับของสหรัฐฯ และเปียงยางจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่นอนหากมีการรบพุ่งกันจริงๆ
ทันทีที่เกาหลีเหนือขู่โจมตีเกาะกวม ทรัมป์ ก็ได้ทวีตข้อความโอ้อวดว่าคลังแสงนิวเคลียร์ของอเมริกานั้น “แข็งแกร่ง และมีอานุภาพร้ายกาจยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา”
“หวังว่าเราจะไม่ต้องนำแสนยานุภาพเหล่านี้ออกมาใช้ แต่จะไม่มีวันไหนที่สหรัฐฯ ไม่เป็นชาติที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก!”
ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดี “กำลังส่งสารที่รุนแรงไปยังเกาหลีเหนือ ด้วยภาษาที่เกาหลีเหนือเข้าใจ” และเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล ทรัมป์ ล้วนมีจุดยืนตรงกัน