xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำคิมขู่ยิง “จรวดพิสัยกลาง” เฉียดฐานทัพสหรัฐฯ บนเกาะกวม ด้านวอชิงตันโพสต์อ้างโสมแดงทำ “นุกย่อส่วน” สำเร็จ-อาจมีคลังแสงนิวเคลียร์ถึง 60 ลูก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - เกาหลีเหนือขู่จะยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายบนเกาะกวม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยื่นคำขู่วานนี้ (8 ส.ค.) ว่าจะบดขยี้โครงการนิวเคลียร์โสมแดงด้วย “ไฟและเพลิงแค้น” โดยคำแถลงของทรัมป์ ถูกประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังสื่อสหรัฐฯ เผยข้อมูลข่าวกรองว่าเปียงยางผลิตหัวรบนิวเคลียร์ย่อส่วนได้สำเร็จแล้ว

ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์จากสนามกอล์ฟส่วนตัวที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ว่า “เกาหลีเหนือควรจะเลิกข่มขู่สหรัฐฯ จะดีกว่า” ไม่เช่นนั้น “พวกเขาจะต้องเจอกับไฟและเพลิงแค้น ชนิดที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน”

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง สำนักข่าวเคซีเอ็นเอซึ่งเป็นกระบอกเสียงของเปียงยางก็รายงานว่า เกาหลีเหนือกำลังพิจารณายิงขีปนาวุธพิสัยกลางโจมตีเป้าหมายใกล้ๆ ฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ บนเกาะกวม

“เรากำลังพิจารณาแผนปฏิบัติการยิงถล่มพื้นที่รอบๆ เกาะกวมด้วยขีปนาวุธพิสัยกลาง-ไกล ฮวาซอง-12” เคซีเอ็นเอรายงาน พร้อมระบุว่าแผนนี้อาจเกิดขึ้น “เมื่อใดก็ได้” ทันทีที่ผู้นำ คิม จองอึน มีคำสั่งลงมา

ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่านี่คือการตอบโต้คำขู่ของ ทรัมป์ หรือไม่

ก่อนหน้านั้น หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ได้ตีแผ่บทวิเคราะห์จากสำนักงานข่าวกรองกลาโหม (Defense Intelligence Agency) ซึ่งอ้างความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่เชื่อว่า เกาหลีเหนืออาจมี “อาวุธนิวเคลียร์สำหรับติดตั้งบนจรวด” อยู่ในครอบครองแล้ว รวมถึงจรวดพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ด้วย นับว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาเอง

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานชิ้นนี้ แต่วอชิงตันโพสต์ระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 คนที่ทำงานคลุกคลีกับผลวิเคราะห์นี้ได้ยืนยันข้อสรุปอย่างกว้างๆ ขณะที่ซีเอ็นเอ็นก็ออกมายืนยันข้อมูลเช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เคยคาดการณ์ว่าเกาหลีเหนือยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อยในการพัฒนา ICBM ที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ แต่การคำนวณนี้ถูกหักล้างไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเปียงยางนำจรวด ICBM ออกมายิงทดสอบถึง 2 ลูกเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำคิมแสดงให้โลกรู้ว่าพวกเขามีศักยภาพก้าวไกลถึงขั้นนี้

จรวด ICBM ลูกแรกถูกยิงในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่ง คิม ยกให้เป็นของขวัญวันชาติสำหรับพวก “คนเลวอเมริกัน” ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจรวดลูกนี้อาจมีพิสัยเดินทางไกลถึงรัฐอะแลสกา

ICBM ลูกที่ 2 ถูกยิงในคืนวันศุกร์ที่ 28 ก.ค. และพุ่งแหวกอากาศไปไกลยิงกว่าลูกแรก ครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าแม้แต่ “รัฐนิวยอร์ก” ที่อยู่ทางตะวันออกของสหรัฐฯ ก็อยู่ในข่ายเสี่ยงภัยด้วย

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า คิม จองอึน “กำลังเป็นภัยคุกคามเกินกว่าระดับปกติ... อย่างที่ผมพูดไปแล้วว่า พวกเขาจะต้องเจอกับไฟและเพลิงแค้น หรือถ้าจะพูดกันตรงๆ ก็คือ แสนยานุภาพของสหรัฐฯ”

คำพูดของทรัมป์ ถือเป็นการยกระดับท่าทีของสหรัฐฯ อย่างเฉียบพลัน ทั้งที่วอชิงตันยืนยันมาโดยตลอดว่ามุ่งคลี่คลายปัญหาเกาหลีเหนือด้วยวิธีเจรจามากกว่าปฏิบัติการทางทหาร

เอลเลียต เอนเกิล ส.ส.พรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎร ออกมาตำหนิคำพูดของ ทรัมป์ ว่าฟังดู “ไร้สติ” และเป็นการขีดเส้นแดง “ไร้สาระ” ที่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า คิม จอง อึน จะต้องข้ามอย่างแน่นอน

“ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่การตอบสนองอย่างเพ้อคลั่งของประธานาธิบดีทำให้ดูเหมือนว่า เขาคิดจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ตอบโต้คำขู่ของระบอบเกาหลีเหนือ” เอนเกิลระบุ

ด้านพันโท คริส โลแกน โฆษกเพนตากอน ยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังแสวงหาหนทางปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสันติ แต่ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหาร

“เราพร้อมที่จะปกป้องตนเองและพันธมิตร และใช้ศักยภาพทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อต่อกรกับภัยคุกคามเกาหลีเหนือที่ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ” โลแกนกล่าว

วอชิงตันโพสต์ยังอ้างผลวิเคราะห์ข่าวกรองซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนืออาจมีระเบิดนิวเคลียร์ในคลังแสงถึง 60 ลูก ซึ่งมากกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น