เอเจนซีส์ – ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา เมินเสียงประณามจากนานาชาติ ประกาศในวันจันทร์ (31 ก.ค.) ถึงชัยชนะในการเลือกตั้งสภารัฐธรรมนูญ ซึ่งมุ่งแก้ไขกฎหมายหลักของประเทศเพื่อที่รัฐบาลจะสามารถยุบสภาที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่ ขณะที่อเมริกาขู่เพิ่มมาตรการแซงก์ชันเวเนซุเอลา และฝ่ายค้านประกาศเดินหน้าประท้วง แม้ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนเฉพาะในวันอาทิตย์ (30) วันเดียว
ในวันอาทิตย์ (30) ผู้ประท้วงชาวเวเนซุเอลาบุกเข้าโจมตีคูหาเลือกตั้งและทำลายแนวกั้นบนถนนสายต่างๆ ทั่วประเทศ กระตุ้นให้กองกำลังความมั่นคงตอบโต้ด้วยความรุนแรง โดยมีรายงานการใช้กระสุนจริงในบางพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์วุ่นวายและการคว่ำบาตรจากประชาชนจำนวนมาก ทิบิเซย์ ลูเซนา สมาชิกคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 พันธมิตรของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ที่ถูกอเมริกาลงโทษ ออกมาประกาศเมื่อวันจันทร์ (31 ก.ค.) ว่า มีผู้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภารัฐธรรมนูญแห่งชาติกว่า 8 ล้านคน หรือ 41.5% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน มาดูโรประกาศชัยชนะระหว่างปราศรัยต่อผู้สนับสนุนหลายร้อยคนกลางกรุงคารากัส และบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดในรอบ 18 ปีของเวเนซุเอลา ซึ่งหมายถึงช่วงเวลานับจากที่อดีตประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ผู้ล่วงลับ เริ่มครองอำนาจ
ประธานาธิบดีที่ยึดถือแนวทางสังคมนิยมผู้นี้กำลังเดิมพันวาระการทำงาน 4 ปีของตนเอง กับสภารัฐธรรมนูญที่มีสมาชิก 545 คน ซึ่งจะได้รับอำนาจให้ยุบรัฐสภาที่ฝ่ายค้านควบคุมอยู่ และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ทว่า ผลสำรวจโดยบริษัทจัดทำโพล ดาตานาลิซิส กลับพบว่า ชาวเวเนซุเอลากว่า 70% คัดค้านการก่อตั้งสภาใหม่ และ 80% ต่อต้านมาดูโร
หลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหภาพยุโรป แคนาดา อเมริกา และมหาอำนาจในละตินอเมริกาอย่างอาร์เจนตินา บราซิล และเม็กซิโก ประณามการเลือกตั้งของเวเนซุเอลา
ฮาเธอร์ นอเอิร์ต โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงประณามการเลือกตั้งสภารัฐนูญแห่งชาติของเวเนซุเอลา โดยระบุว่ามีเป้าหมายเพื่อล้มล้างและแทนที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่มาจากการเลือกตั้ง และบ่อนทำลายสิทธิในการกำหนดอนาคตของตนเองของประชาชน และสำทับว่า อเมริกาจะเพิ่มมาตรการลงโทษรัฐบาลมาดูโรอย่างรุนแรงและฉับไว
เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาแซงก์ชันการขายน้ำมันดิบไลต์ครูดให้พีดีวีเอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา อันจะทำให้เครือข่ายการกลั่นน้ำมันของรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ยิ่งอ่อนแอหนัก
ทางด้านฝ่ายค้านเวเนซุเอลากล่าวหาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ฉ้อฉล และเหล่านักวิจารณ์ระบุว่า สภาใหม่จะทำให้มาดูโรสามารถชะลอการเลือกตั้ง ตลอดทั้งกำหนดกฎการเลือกตั้งใหม่ป้องกันไม่ให้ตนเองถูกโหวตให้ลงจากอำนาจ
นอกจากนั้นยังมีข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายสิบคนที่ระบุว่า ลูกจ้างรัฐ 2.8 ล้านคนได้รับทั้งข้อความตัวอักษรและโทรศัพท์ขอให้ออกไปเลือกตั้งและรายงานเมื่อลงคะแนนเรียบร้อยแล้ว โดยมีคำขู่ว่า ผู้ฝ่าฝืนจะถูกไล่ออก
เฮนริเก คาพริเลส ผู้นำอาวุโสฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ชาวเวเนซุเอลาร่วมกันท้าทายอำนาจมาดูโรต่อด้วยการประท้วงการเลือกตั้งและการสังหารหมู่ของรัฐบาล
คาพริเลสชักชวนประชาชนเดินขบวนทั่วประเทศในวันจันทร์และประท้วงใหญ่ในการากัสวันพุธ (2) ซึ่งเป็นวันสถาปนาสภารัฐธรรมนูญ แม้ว่ามาดูโรจะออกกฤษฎีกาห้ามการประท้วงระหว่างและหลังการเลือกตั้ง โดยขู่จำคุกผู้ฝ่าฝืนสูงสุด 10 ปีก็ตาม
ขณะเดียวกัน อัยการเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คนในเหตุรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตตลอด 4 เดือนที่มีการประท้วงเพิ่มเป็นกว่า 120 คน
นอกจากนี้ยังมีตำรวจ 7 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแสวงเครื่องที่มุ่งโจมตีขบวนจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่
รายงานระบุว่า กองกำลังความมั่นคงแห่งชาติใช้ยานยนต์หุ้มเกราะ กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา สลายผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมถนนสายต่างๆ ในกรุงคารากัส
นอกจากนั้น ยังมีชาวเวเนซุเอลารวมตัวประท้วงในต่างแดน เป็นต้นว่า ไมอามี มาดริด และอีกหลายเมืองในละตินอเมริกา
ทั้งนี้ ชาวเวเนซุเอลาจำนวนมากอพยพออกนอกประเทศนับจากประเทศที่เคยเป็นผู้ผลิตน้ำมันที่มั่งคั่งแห่งนี้ กลับตกหลุมพรางวิกฤตเศรษฐกิจจากการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนและราคาสินค้าอย่างเข้มงวดกว่า 2 ทศวรรษ และปัจจุบันต้องเผชิญปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค เงินเฟ้อพุ่งทะยาน การจลาจล และการปล้นจี้