รอยเตอร์ – ทรัมป์อ้างมีอำนาจเต็มที่ในการอภัยโทษ ขณะที่คณะบริหารกำลังอลเวงหนักจากการสอบสวนความเป็นไปได้ที่ทีมหาเสียงของตนเองอาจสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นทรัมป์ยังทวิตบ่นเรื่องเซสชันส์ ขณะที่วอชิงตันโพสต์รายงานว่า หน่วยข่าวกรองอเมริกันแอบได้ยินทูตรัสเซียรายงาน “เบื้องบน” ว่าได้คุยกับรัฐมนตรียุติธรรมของอเมริกาเกี่ยวกับการหาเสียงของทรัมป์
ตลอดเช้าวันเสาร์ (22 ก.ค.) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตระบายความขุ่นเคืองทั้งเรื่องรัฐมนตรียุติธรรม ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษที่เป็นแกนนำการสอบสวนกรณีมอสโก และสมาชิกรีพับลิกันในรัฐสภาที่ล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิกและเสนอร่างกฎหมายแทนที่โอบามาแคร์ หรือกฎหมายปฏิรูประบบสุขอนามัยที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา เป็นผู้ผลักดัน
แต่ทวิตที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ การแสดงความคิดเห็นเรื่องการอภัยโทษ เนื่องจากบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ทรัมป์อาจพิจารณาทางเลือกต่างๆ หากการสอบสวนไม่ได้เป็นไปตามที่มุ่งหวัง
ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่า อาจพิจารณาอภัยโทษให้แก่ใคร แต่ดูเหมือนทวิตดังกล่าวมุ่งตอบโต้รายงานของหนังสือพิมพ์ วอชิงตัน โพสต์ เมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) ที่อ้างอิงเจ้าหน้าที่ทั้งในอดีตและปัจจุบันว่า ทรัมป์และทีมกฎหมายกำลังพิจารณาการใช้อำนาจของประธานาธิบดีในการอภัยโทษผู้ช่วย สมาชิกครอบครัว รวมถึงตัวเอง
วอชิงตัน โพสต์ รายงานอีกว่า หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้ทำการดักฟังและได้ยิน เซอร์เก คิสลิยาค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน แจ้งผู้บังคับบัญชาว่า ได้หารือเรื่องการหาเสียงของทรัมป์กับ เจฟฟ์ เซสชันส์ เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นเซสชันส์ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม
ทั้งนี้ ระหว่างให้การต่อวุฒิสภาเพื่อให้ได้รับการรับรองในตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม เซสชันส์ไม่ได้เปิดเผยว่า เคยติดต่อกับคิสลิยาค แต่หลังจากข่าวรั่วไหลเขาได้แก้ตัวว่าคุยกันจริงแต่ไม่เกี่ยวกับการหาเสียงของทรัมป์
ต่อมาในเดือนมีนาคม เซสชันส์ถอนตัวจากการสอบสวนกรณีรัสเซีย และระหว่างการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์บ่นอุบถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ เขาจะไม่เลือกเซสชันมาเป็นรัฐมนตรียุติธรรม
ทวิตของทรัมป์ระบุว่า แม้ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีอำนาจอย่างเต็มที่ในการอภัยโทษ แต่ทำไมต้องคิดถึงเรื่องนี้ในเมื่ออาชญากรรมอย่างเดียวที่เกิดขึ้นคือการปล่อยข่าวปลอมเพื่อทำลายคณะบริหาร และข่าวปลอมเหล่านั้นต้องยุติเสียที
ทรัมป์ยังตั้งคำถามว่า เหตุใดเซสชันส์และ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ จึงไม่สอบสวนเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) หรือฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้วจากพรรคเดโมแครต กรณีที่คลินตันใช้อีเมลส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน นักวิชาการหลายคนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจตามกฎหมายของประธานาธิบดีในการอภัยโทษ ทั้งนี้ หากในอนาคตทรัมป์ประกาศอภัยโทษตัวเอง ศาลสูงสุดอาจต้องวินิจฉัยเรื่องนี้โดยอิงกับรัฐธรรมนูญ
แม้ขณะนี้ ทรัมป์ยังไม่ได้ถูกกล่าวหากระทำความผิดเกี่ยวกับกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่การสอบสวนเริ่มขมวดปมเข้าใกล้ประมุขทำเนียบขาวเข้าไปทุกที
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการตุลาการวุฒิสภาระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ และพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ ตกลงเจรจาว่าจะยอมให้คณะกรรมาธิการฯ ซักถามเกี่ยวกับกรณีรัสเซียหรือไม่
ทรัมป์ จูเนียร์, มานาฟอร์ต กับจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ พบปะหารือกับนาตาเลีย เวเซลนิตสกายา ทนายความหญิงของรัสเซีย เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ที่อาคาร “ทรัมป์ ทาวเวอร์” ในนิวยอร์ก การนัดหมายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเวเซลนิตสกายาเสนอให้ข้อมูลที่สามารถทำลายคลินตันได้แก่ทรัมป์ จูเนียร์