รอยเตอร์ – รีพับลิกันและเดโมแครตบรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ซึ่งเท่ากับเป็นการสกัดตั้งแต่เนิ่นๆ หากทรัมป์จะยกเลิกหรือผ่อนคลายการลงโทษรัสเซีย
กฎหมายต่อต้านกิจกรรมของอิหร่านที่บ่อนทำลายเสถียรภาพ ซึ่งผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ถูกเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากสมาชิกจากพรรครีพับลิกันเสนอรวมมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือไว้ในร่างกฎหมายนี้ด้วย
สำนักงานของ เควิน แมกคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน เผยว่า สภาล่างมีกำหนดจะลงมติในวันอังคาร (25 ก.ค.) เพื่อรับรองร่างกฎหมายใหม่ที่ครอบคลุมการลงโทษทั้งรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ เพื่อบังคับให้ประเทศเหล่านี้รับผิดชอบในการกระทำอันเป็นอันตรายของตัวเอง
ภายใต้ร่างกฎหมายที่เสนอ ทรัมป์ต้องส่งรายงานต่อรัฐสภาเกี่ยวกับข้อเสนอดำเนินการที่จะส่งผลให้นโยบายต่างประเทศของอเมริกาต่อรัสเซียมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการลงโทษหรือการคืนทรัพย์สินทางการทูตในแมรีแลนด์และนิวยอร์ก สืบเนื่องจากที่อดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา สั่งขับเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
หลังจากนั้น รัฐสภาจะมีเวลา 30 วันในการไต่สวนและลงมติว่า จะรับรองหรือคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ขณะที่สมาชิกรัฐสภาจำนวนมากหวังว่า ร่างกฎหมายใหม่จะเป็นการส่งสัญญาณถึงทรัมป์ให้คงจุดยืนแข็งกร้าวกับรัสเซีย
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ออกปากว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ที่เยอรมนีเมื่อต้นเดือนนี้ ถูกวิจารณ์มาตลอดว่า พยายามปรับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซีย นอกจากนี้ คณะบริหารชุดปัจจุบันยังกำลังระส่ำระสายอย่างหนักจากการสอบสวนความเป็นไปได้ว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประมุขทำเนียบขาวเมื่อปีที่แล้ว
ร่างกฎหมายฉบับใหม่ยังเป็นความตั้งใจของสมาชิกทั้งสองพรรคในการลงโทษรัสเซียจากกรณีการเข้าผนวกไครเมียที่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน รวมทั้งการแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งปูตินยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ขณะที่ทรัมป์ยืนยันว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดกับมอสโกแน่นอน
แนนซี เปโลซี ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาล่าง กล่าวว่า พฤติกรรมเกะกะระรานและรับไมได้ของรัสเซียในการเลือกตั้งสหรัฐฯ และในยุโรป กดดันให้คองเกรสต้องผ่านมาตรการลงโทษตามกฎหมายออกมาบังคับใช้โดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เปโลซีกังวลว่า การผนวกมาตรการแซงก์ชันเกาหลีเหนือเข้าไว้ด้วย อาจทำให้การอภิปรายและลงมติของวุฒิสภาต้องล่าช้าออกไป
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เตือนว่า แนวโน้มการเลือกปฏิบัติอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะต่อความพยายามของอียูในการแตกแขนงแหล่งพลังงานออกจากรัสเซีย นอกจากนี้บรัสเซลส์ยังเรียกร้องให้วอชิงตันร่วมมือกับพันธมิตร G7 ในการลงโทษรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม แมกคาร์ทีและเอ็ด รอยซ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์สภาผู้แทนฯ ของอเมริกา แถลงว่า ร่างกฎหมายใหม่จะช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรป ด้วยการคงการเข้าถึงแหล่งพลังงานสำคัญนอกรัสเซีย
ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเดโมแครตในสภาสูง สำทับว่า การใช้มาตรการลงโทษอย่างแข็งกร้าวเป็นสิ่งสำคัญ และแสดงความหวังว่า สภาสูงและสภาล่างจะดำเนินการกับร่างกฎหมายนี้อย่างรวดเร็วและไม่แบ่งพรรค
เบน คาร์ดิน สมาชิกคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต สำทับว่า ร่างกฎหมายใหม่ผ่านความเห็นชอบหลังการเจรจาอย่างดุเดือด รัฐสภาสหรัฐฯ ที่เกือบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ต้องการส่งสาส์นในนามของชาวอเมริกันและพันธมิตรที่มีเนื้อหาชัดเจนถึงปูติน และต้องการให้ทรัมป์ช่วยส่งสาส์นนี้ถึงประมุขวังเครมลิน