เอเจนซีส์ - “ทรัมป์” เดือด โต้ “สื่อปลอม” หลังมีรายงานประมุขทำเนียบขาวแอบคุย “ปูติน” รอบสองระหว่างซัมมิตจี 20 แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจนกระทั่งกลายเป็นข่าวแล้ว ทำเนียบขาวจึงค่อยยืนยัน ขณะเดียวกัน กรณีอื้อฉาวลูกชายคนโตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดอดคุยทนายความรัสเซียในช่วงหาเสียงเมื่อกลางปีที่แล้ว มีการแฉเพิ่มเติมอีกว่ายังมีผู้ร่วมวงสนทนาคนที่ 8 ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์กับมหาเศรษฐีทรงอิทธิพลในแดนหมีขาวที่สนิทสนมกับครอบครัวทรัมป์มานาน
ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว และไมเคิล แอนตัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ออกมายืนยันเมื่อวันอังคาร (18 ก.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พูดคุยอีกครั้งหนึ่งกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 7 เดือนนี้
การสนทนาคราวหลังนี้ เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ผู้นำสองประเทศได้พบปะเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยที่เดิมทีนั้นกำหนดเอาไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่ปรากฏว่ากลับยืดออกไปเป็นสองชั่วโมงกว่า
นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์และปูตินจับมือและทักทายกันไม่กี่คำ หลังจากเดินทางถึงที่ประชุมจี20 ในเมืองฮัมบูร์กเมื่อวันที่ 7
แอนตัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติไม่ได้ระบุว่า การสนทนาที่เป็นข่าวล่าสุดกินเวลานานเท่าใด แต่บอกว่า เป็นการพูดคุยกันธรรมดาหลังเสิร์ฟของหวาน ซึ่งไม่ถือว่า เป็นการประชุมไม่ว่าแบบเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ตาม
สำหรับเรื่องที่สื่อระบุว่า ในการสนทนารอบสองนี้ ทรัมป์พูดคุยอยู่กับฝ่ายรัสเซียเพียงคนเดียว ไม่ได้มีล่ามไปด้วย แต่ใช้บริการล่ามของปูติน
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผู้หนึ่งแจกแจงเว่า ตามกฎกติกามารยาทที่กระทำกันนั้น ผู้นำและคู่สมรสของแต่ละประเทศสามารถพาล่ามไปร่วมงานเลี้ยงได้เพียง 1 คน เนื่องจากในงานเลี้ยงนี้ ทรัมป์นั่งติดกับภรรยาของนายกรฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น จึงพาล่ามภาษาญี่ปุ่นไป ล่ามผู้นี้สื่อสารภาษารัสเซียไม่ได้ ดังนั้นในตอนที่ทรัมป์คุยกับปูติน จึงต้องใช้ล่ามของฝ่ายรัสเซียที่พูดภาษาอังกฤษได้แทน เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังสำทับว่า ระหว่างงานเลี้ยง ทรัมป์พูดคุยกับผู้นำหลายชาติ ไม่เฉพาะกับปูตินเท่านั้น
ทว่า เอียน เบรมเมอร์ ซึ่งเป็นคนแรกๆ ที่แฉเรื่องนี้ อ้างว่าได้ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว 2 คน บอกว่า ทรัมป์คุยกับปูตินเกือบชั่วโมงระหว่างนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับผู้นำชาติอื่นๆ
เบรมเมอร์ ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ข่าวต่างประเทศและประธานบริษัทที่ปรึกษา ยูเรเซีย กรุ๊ป ยังบอกอีกว่า ผู้ร่วมงานเลี้ยงหลายคนต่างประหลาดใจที่ทรัมป์คุยกับปูติน และว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีท่าทีกระตือรือร้นอย่างมาก
ทางด้านทรัมป์ทวิตอย่างหัวเสียเมื่อคืนวันอังคารว่า ข่าวปลอมเรื่องดินเนอร์ลับกับปูติน “ชวนคลื่นไส้” และว่า นักข่าวทุกคนรู้ดีว่า นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล เชิญผู้นำและคู่สมรสทุกชาติที่เข้าประชุมจี20 ไปงานเลี้ยงอาหารค่ำ
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทรัมป์-ปูตินเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดนับจากช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ที่ทรัมป์ชมประมุขวังเครมลินไม่ขาดปาก และยังส่งเสริมให้ปูตินเจาะระบบอีเมลฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต แม้บรรดาผู้ช่วยของเขาออกมาแก้ข่าวพัลวันว่า เป็นการพูดเล่นก็ตาม
ที่สำคัญ หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังสรุปว่า รัฐบาลรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เพื่อช่วยทรัมป์ ซึ่งทั้งทรัมป์และมอสโกต่างออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง
ขณะเดียวกัน คณะสอบสวนชุดต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐบาลกลางและรัฐสภาสหรัฐฯต่างเพ่งเล็งกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของประธานาธิบดี ยอมรับว่า พบกับทนายความรัสเซีย ในช่วงการหาเสียงกลางปีที่แล้ว เนื่องจากได้รับการยืนยันว่า จะมีข้อมูลที่สามารถทำลายคลินตันมามอบให้ ทั้งนี้สื่อรายงานล่าสุดว่าพบตัวละครเพิ่มขึ้นมาเป็นคนที่ 8 ซึ่งเข้าร่วมการพบปะหารือคราวนั้นด้วย
โดยวันอังคาร (18) สกอตต์ บัลเบอร์ ทนายความของไอค์ คาเวแลดเซ ยืนยันชื่อลูกความของตนเองกับรอยเตอร์ หลังจากซีเอ็นเอ็นรายงานว่า อัยการที่ทำงานกับโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษกระทรวงยุติธรรม ซึ่งคุมเรื่องการสอบสวนรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ระบุว่า คาเวแลดเซ คือบุคคลที่ 8 ในวงสนทนาระหว่างทรัมป์ จูเนียร์ กับนาตาเลีย เวเซลนิตสกายา ทนายความรัสเซีย และยืนยันว่า คาเวแลดเซพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวน
บัลเบอร์นั้นเคยเป็นตัวแทนของทรัมป์ในคดีฟ้องร้องบิลล์ มาเฮอร์ นักแสดงตลกและพิธีกรรายการเมื่อปี 2013 เรียกร้องให้มาเฮอร์บริจาคเงิน 5 ล้านดอลลาร์ให้มูลนิธิการกุศล ถ้าทรัมป์พิสูจน์ได้ว่า พ่อของตัวเองไม่ใช่อุรังอุตัง
ส่วนคาเวแลดเซเป็นรองประธานกรรมการโครคัส กรุ๊ป ที่บริหารโดยอาราส อกาลารอฟ นักธุรกิจทรงอิทธิพลในรัสเซียที่สนิทสนมกับตระกูลทรัมป์ และช่วยจัดการให้ทรัมป์ จูเนียร์พบกับเวเซลนิตสกายาเมื่อกลางปีที่แล้ว
บัลเบอร์บอกว่า ลูกความของเขาถูกขอให้ไปเป็นล่ามให้เวเซลนิตสกายา แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า ทนายความรัสเซียพาล่ามของตัวเองไปด้วย
ทั้งนี้ นอกจากทรัมป์ จูเนียร์, เวเซลนิตสกายาและล่าม รวมทั้งคาเวแลดเซแล้ว การหารือครั้งนั้นยังมีอีก 4 คนร่วมวงด้วย ได้แก่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์, พอล มานาฟอร์ต อดีตประธานทีมหาเสียงของทรัมป์, ร็อบ โกลด์สโตน นักประชาสัมพันธ์และตัวแทนของอกาลารอฟ และไรนาต อัคเม็ตชิน ล็อบบี้ยิสต์รัสเซีย-อเมริกัน