เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาปกป้องลูกชายคนโตของตนเมื่อวันพุธ (12 ก.ค.) ว่า “บริสุทธิ์” ภายหลังมีการเปิดเผยอีเมลที่ฟ้องว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ สนับสนุนความพยายามของรัสเซียในการช่วยเหลือให้พ่อได้เข้าครองทำเนียบขาว อีกทั้งตัวเขายอมรับด้วยว่า “อยากได้” ข้อมูลอื้อฉาวจากวังเครมลินเพื่อมาทำลายล้าง ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งคนสำคัญของบิดา อันเป็นพฤติการณ์ที่อาจถูกระบุว่าเข้าข่ายสมคบกับมอสโกแทรกแซงการเลือกตั้งของอเมริกา
หลังจากที่ถูกกดดันอย่างหนัก ทรัมป์ จูเนียร์ ได้นำเอาอีเมลสนทนาต่อเนื่องกันในวันที่ 3 มิถุนายน 2016 ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (11) โดยที่ในอีเมลดังกล่าว ร็อบ โกลด์สโตน นักประชาสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับครอบครัวทรัมป์ ระบุชัดเจนว่า เขารู้มาจากอิมิน อการารอฟ ศิลปินเพลงป็อปที่เขาดูแลอยู่ว่า มีนักกฎหมายของรัฐบาลรัสเซียคนหนึ่งเสนอมอบ “ข้อมูลข่าวสารระดับสูงมากและอ่อนไหว” ซึ่งเป็น “ส่วนหนึ่งของความสนับสนุนของรัสเซียและรัฐบาลของประเทศนั้นที่ให้แก่มิสเตอร์ทรัมป์”
ทรัมป์ จูเนียร์ ที่ปัจจุบันบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวแทนพ่อ ตอบกลับอีเมลฉบับดังกล่าวภายในเวลาไม่ถึง 20 นาทีว่า “ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอก ผมก็อยากได้” และจัดแจงการนัดพบกับนาตาเลีย เวเซลนิตสกายา ซึ่งในอีเมลฉบับดังกล่าว โกลด์สโตนระบุว่า เป็นนักกฎหมายของรัฐบาลรัสเซียทันที
หลังจากเปิดเผยอีเมล ทรัมป์ จูเนียร์ ยังไปให้สัมภาษณ์รายการของโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ว่า เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพ่อเนื่องจากการนัดหมายครั้งนั้น ลงท้ายแล้วก็ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับคลินตัน
ทรัมป์ จูเนียร์ยังบอกอีกว่า เขาเชื่อว่า เวเซลนิตสกายาเป็นแค่ทนายความธรรมดา ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า ถ้ามองย้อนกลับไป เขาอาจจัดการเหตุการณ์ดังกล่าวต่างจากที่เกิดขึ้นจริงเล็กน้อย แต่เขาแก้ตัวว่า ถึงอย่างไรเขาก็มองว่า นี่เป็นการวิจัยเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับคู่แข่งทางการเมือง
ทว่า สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ทรัมป์ จูเนียร์พูดจากลับไปกลับมา จากครั้งแรกที่มีข่าวออกมาแล้วเขายืนยันว่า คุยกับเวเซลนิตสกายาเรื่องโครงการรับบุตรบุญธรรมระหว่างรัสเซียกับอเมริกาที่มีปัญหาอยู่เท่านั้น
ทางด้านเวเซลสิตสกายาให้สัมภาษณ์เอ็นบีซี นิวส์ว่า พวกของทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงพอล มานาฟอร์ต ประธานแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ในขณะนั้น และจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยประธานาธิบดี ที่ร่วมวงหารือกับเธอด้วยนั้น ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับคลินตันอย่างมาก
ทั้งนี้ หน่วยงานด้านข่าวกรองหลายแห่งของอเมริกาต่างสรุปว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย อนุมัติการปฏิบัติการขนาดใหญ่เพื่อช่วยเหลือให้ทรัมป์ได้เปรียบในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงการเจาะระบบข้อมูลของพรรคเดโมแครตและปล่อยอีเมลที่ทำให้พรรคดังกล่าวรวมทั้งคลินตันกระอักกระอ่วน
หลังการเปิดเผยอีเมลของทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งถือเป็นหลักฐานรูปธรรมที่ชัดเจนที่สุดว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์ยินดีรับความช่วยเหลือจากเครมลินเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งนั้น ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกคำแถลงในวันอังคาร (11) ปกป้องว่า ลูกชายของตนเป็นคนมีคุณภาพสูง และเขาขอปรบมือชมเชยความความโปร่งใสของทรัมป์จูเนียร์ด้วย
จากนั้นในตอนเช้าวันพุธ (12) ประธานาธิบดีทรัมป์ทวิตชมเชยลูกชายว่า “ทำได้ดี” ในการให้สัมภาษณ์ฟอกซ์ นิวส์ และบอกอีกว่า “เขาเป็นคนเปิดเผย, โปร่งใส, และบริสุทธิ์ นี่คือการล่าแม่มดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง เศร้า!”
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในวันพุธ (12) ผู้นำสหรัฐฯ ยังงดออกงานเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ในวันอังคาร (11) ทำเนียบขาวงดตอบคำถามเกี่ยวกับทรัมป์ จูเนียร์ และบอกให้ผู้สื่อข่าวไปซักไซ้กับที่ปรึกษากฎหมายของลูกชายประธานาธิบดีแทน
นอกจากนี้ รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ยังพยายามลอยตัวจากเรื่องอื้อฉาวนี้ โดยออกคำแถลงว่า ไม่รู้ไม่เห็นใดๆ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะได้รับการทาบทามลงสมัครคู่กับทรัมป์
ด้าน วุฒิสมาชิก รอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า อีเมลที่เผยแพร่ออกมาทำให้หมดคำถามว่า ทีมหาเสียงของทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับมหาอำนาจต่างชาติบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยของอเมริกาหรือไม่ แต่ต้องถามใหม่ว่า การสมรู้ร่วมคิดนี้ถลำลึกไปไกลแค่ไหนแล้ว
แม้แต่ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรีพับลิกันพรรคเดียวกับทรัมป์ ยังเตือนว่า ทั้งอีเมลและการนัดพบของทรัมป์ จูเนียร์ล้วนเป็นปัญหา
ศาสตราจารย์เจนส์ เดวิด โอห์ลิน จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ชี้ว่า ประเด็นที่จะต้องติดตามต่อไปคือ ทรัมป์เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยส่วนตัวหรือไม่ ขณะที่คำถามที่ว่า ทีมหาเสียงของเขาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นดูเหมือนได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้วว่า เกี่ยวแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายหลายคนยังบอกอีกว่า แม้อีเมลไม่ได้บ่งชี้หลักฐานการกระทำผิดกฎหมายใดๆ แต่ทรัมป์ จูเนียร์ อาจตกที่นั่งลำบาก หากเจ้าหน้าที่สอบสวนพบว่า เขาสนับสนุนการกระทำผิดทางอาญา เช่น การเจาะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของเดโมแครต หรือการละเมิดกฎหมายบริจาคเงินสนับสนุนการหาเสียงด้วยการรับของกำนัลจากนิติบุคคลต่างชาติ
ขณะนี้ มีแนวโน้มว่า ลูกชายคนหัวปีของทรัมป์จะถูกคณะกรรมาธิการข่าวกรองทั้งของสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา เรียกขึ้นให้การ และซีเอ็นอ็นยังรายงานว่า โรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำลังคุมการสอบสวนคดีอาญาเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียนั้น มีแผนเชิญทรัมป์ จูเนียร์ไปให้การเช่นกัน
นอกจากนั้นเมื่อวันอังคาร ชาร์ลส์ กราสส์ลีย์ ประธานคณะกรรมาธิการตุลาการวุฒิสภา ยังตั้งคำถามกับคณะบริหารของทรัมป์ว่า เหตุใดเวเซลนิตสกายาจึงเดินทางเข้าอเมริกาได้ ทั้งที่เอกสารอนุญาตหมดอายุแล้ว