เอเอฟพี - เจเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยเจรจากับทูตรัสเซียให้มีการเปิด “ช่องทางสื่อสารลับ” ระหว่างทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ถูกคนนอกดักฟัง ก่อนที่ ทรัมป์ จะสาบานตนเป็นประธานาธิบดีในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อค่ำวานนี้ (26 พ.ค.)
วอชิงตันโพสต์ซึ่งอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนที่สามารถเข้าถึงข่าวกรอง ระบุด้วยว่า คุชเนอร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคนสนิทของทรัมป์ ทั้งก่อนและหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ พูดเลยเถิดไปถึงขั้นขอใช้สำนักงานการทูตของรัสเซียในสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการถูกสอดแนม
รายงานล่าสุดของโพสต์ให้รายละเอียดที่น่าตกตะลึงไม่น้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานทรัมป์กับมอสโก ซึ่งหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่าได้ใช้อิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว เพื่อสกัดดาวรุ่งผู้สมัครตัวเต็งอย่าง ฮิลลารี คลินตัน และหนุนให้ ทรัมป์ ได้ครองบัลลังก์ทำเนียบขาว
แน่นอนว่าเรื่องนี้คงจะทำให้ ทรัมป์ ถูกซักฟอกยกใหญ่ หลังเดินทางกลับจากเยือนตะวันออกกลางและยุโรปในช่วงสุดสัปดาห์
วอชิงตันโพสต์อ้างว่า คุชเนอร์ ได้เอ่ยถึงการเปิดช่องทางสื่อสารลับกับทูตรัสเซียเมื่อวันที่ 1 หรือ 2 ธ.ค.ปีที่แล้ว ณ อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ในนครนิวยอร์ก โดยมี “ไมเคิล ฟลินน์” ร่วมอยู่ในวงสนทนาด้วย
ฟลินน์ ผู้นี้ต่อมาจะกลายเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ และจะถูกไล่ออกหลังทำงานได้เพียง 24 วัน โทษฐานไม่แจ้งรายละเอียดบทสนทนาระหว่างตนเองกับทูตรัสเซียให้รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ทราบอย่างตรงไปตรงมา
วอชิงตันโพสต์ ระบุว่า เซียร์เก คิลส์ยัก เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. แสดงท่าทีตกตะลึงกับข้อเสนอของคุชเนอร์ แต่ก็ได้แจ้งให้รัฐบาลเครมลินรับทราบ
ล่าสุด ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว
นอกจากข้อครหาของคุชเนอร์ ซึ่งดึงครอบครัวทรัมป์เข้าไปอยู่ในวังวนข่าวฉาวแล้ว ทำเนียบขาวยังต้องเตรียมรับมือกับการแฉข้อมูลใหม่ๆ ที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
เจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สัญญาว่าจะเข้าให้ปากคำ “แบบเปิดเผย” ต่อคณะกรรมการข่าวกรองวุฒิสภากรณีความสัมพันธ์ทรัมป์-รัสเซีย ในช่วงหลังวันหยุด Memorial Day ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (29)
ทั้งนี้ มีรายงานจากซีบีเอสนิวส์ว่า ทรัมป์ อาจพิจารณา “ยกเครื่อง” ฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาวหลังเดินทางกลับถึงวอชิงตัน
คุชเนอร์ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หนุ่มวัย 36 ปีที่แต่งงานกับ อิวองกา ทรัมป์ บุตรสาวคนโตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเป็นคนสนิทที่ ทรัมป์ ไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่ง เขามีส่วนให้คำปรึกษาแก่ ทรัมป์ ทุกเรื่อง ตั้งแต่แผนสันติภาพในตะวันออกกลางเรื่อยไปจนถึงการวางระบบบริหารในสหรัฐฯ
วอชิงตันโพสต์รายงานก่อนหน้านี้ว่า พนักงานสอบสวนสหรัฐฯ กำลังพุ่งเป้าตรวจสอบการพบปะระหว่าง คุชเนอร์ กับทูตหมีขาว และผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่งของรัสเซียที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมาตั้งแต่ปี 2014
อย่างไรก็ดี วอชิงตันโพสต์และสื่ออื่นๆ ย้ำว่า แหล่งข่าวของพวกเขาไม่ได้พูดว่า คุชเนอร์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก และลูกเขยทรัมป์ก็ยังไม่ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดใดๆ
เจมี กอเรลิก ทนายของคุชเนอร์ ระบุว่า บุตรเขยผู้นำสหรัฐฯ ยินดีเข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรสเกี่ยวกับการพบปะเหล่านี้
นอกจาก คุชเนอร์ แล้วยังมีอดีตที่ปรึกษาและทีมงานของ ทรัมป์ อีกอย่างน้อย 4 คนที่มีรายงานว่ากำลังถูกเอฟบีไอตรวจสอบ ได้แก่ ไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ, พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้อำนวยการทีมหาเสียง, คาร์เตอร์ เพจ อดีตที่ปรึกษาทีมหาเสียง และ โรเจอร์ สโตน ซึ่งเคยให้คำปรึกษาแก่ทรัมป์เป็นครั้งคราว
เวลานี้กระบวนการสอบสวนของเอฟบีไออยู่ในการดูแลของโรเบิร์ต มุลเลอร์ อดีต ผอ.เอฟบีไอซึ่งได้รับอำนาจกว้างขวางในการติดตามสอบสวนเรื่องทรัมป์กับรัสเซีย หลังจากที่ โคมีย์ ถูกสั่งปลดสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 9 พ.ค.