ทีมทรัมป์จ่ายก้อนโตให้ทนายลูกชาย ก่อนถูกสื่อแฉเรื่องฉาวแอบคุยรัสเซีย

รอยเตอร์ – ทีมหาเสียงทรัมป์จ่ายเงิน 50,000 ดอลลาร์ให้สำนักงานกฎหมายที่เป็นตัวแทนทรัมป์ จูเนียร์ ไม่กี่วันก่อนที่เรื่องลูกชายคนโตของประธานาธิบดีแอบพบทนายความรัสเซียจะกลายเป็นข่าวครึกโครม และเปิดประเด็นใหม่ที่ตอกย้ำข้อกล่าวหาทีมทรัมป์สมคบกับรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำทำเนียบขาวปลายปีที่แล้ว

ข้อมูลการจ่ายเงินให้สำนักงานกฎหมายของ อลัน เอส. ฟิวเตอร์ฟาส ลงวันที่ 27 มิถุนายน ปรากฏในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (15 ก.ค.) โดยระบุว่า เป็นค่าบริการปรึกษาทางกฎหมาย

โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายคนโตของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่า พบกับทนายความหญิงรัสเซียในนิวยอร์กระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปีที่แล้ว หลังได้รับการบอกเล่าว่า ทนายผู้นี้จะนำข้อมูลที่สามารถทำลายฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของทรัมป์จากพรรคเดโมแครตไปมอบให้

เงินดังกล่าวสั่งจ่ายให้บริษัทของฟิวเตอร์ฟาสไม่กี่วันก่อนที่เรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวครึกโครม ที่ทำให้ทั้งทำเนียบขาวและทรัมป์ทาวเวอร์วิ่งวุ่นหาทางแก้ไขสถานการณ์

อย่างไรก็ดี เอกสารดังกล่าวไม่ได้ระบุว่า ฟิวเตอร์ฟาสได้รับการว่าจ้างให้เป็นตัวแทนใคร

เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (10 ก.ค.) มีการเปิดเผยว่า ฟิวเตอร์ฟาสรับหน้าที่เป็นทนายความให้ทรัมป์ จูเนียร์ หลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานรายละเอียดการพบปะระหว่างลูกชายประธานาธิบดีกับทนายความรัสเซีย แต่ตัวฟิวเตอร์ฟาสไม่ได้เปิดเผยว่า ได้รับการว่าจ้างเมื่อใด

นอกจากนั้น ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังจ่ายเงินกว่า 538,000 ดอลลาร์ให้โจนส์ เดย์ บริษัทกฎหมายที่เป็นตัวแทนของทีมหาเสียงของทรัมป์ระหว่างการเลือกตั้ง และจ่ายค่าบริการปรึกษาทางกฎหมายให้ทรัมป์ คอร์เปอเรชันของทรัมป์เอง 89,561 ดอลลาร์ ลงวันที่ 30 มิถุนายน

ปัจจุบัน ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษและคณะกรรมาธิการหลายชุดของรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังสอบสวนกรณีที่หน่วยงานข่าวกรองกล่าวหาว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งสืบสวนความเป็นไปได้ว่า เครมลินสมรู้ร่วมคิดกับทีมหาเสียงของทรัมป์หรือไม่

มอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และทรัมป์ รวมทั้งลูกชายคนโต ยืนยันว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีกฎว่า ผู้สมัครและผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมืองสามารถใช้เงินทุนสำหรับการหาเสียงเป็นค่าธรรมเนียมทางกฎหมายที่เกิดขึ้นจากสถานะการเป็นผู้สมัครได้

นอกจากนั้น ทรัมป์ยังว่าจ้าง มาร์ก คาโซวิตซ์ ที่ปรึกษากฎหมายที่ใช้บริการกันมายาวนาน เป็นที่ปรึกษากฎหมายพิเศษภายนอก โดยรายละเอียดค่าใช้จ่ายของทีมหาเสียงไม่ปรากฏการจ่ายเงินให้คาโซวิตซ์แต่อย่างใด

ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า ไท ค็อบบ์ ทนายความมากประสบการณ์ในวอชิงตัน จะรับหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายพิเศษ ซึ่งแหล่งข่าววงในระบุว่า ค็อบบ์จะดูแลการรับมือการตรวจสอบเกี่ยวกับรัสเซียให้แก่ทำเนียบขาว

ค็อบบ์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทกฎหมาย โฮแกน โลเวลล์ ถูกคาดหมายว่า จะเป็นตัวกลางระหว่างทำเนียบขาวกับรัฐสภา ตลอดจนถึงทนายความภายนอก ขณะที่การสอบสวนนี้ยังดำเนินอยู่

จากเอกสารที่เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ยังระบุว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทีมหาเสียงของทรัมป์ที่เริ่มแคมเปญหาเสียงล่วงหน้าแล้ว ระดมทุนได้ประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ และใช้ไปแล้ว 4.4 ล้านดอลลาร์

เงินเหล่านี้จำนวนมากระดมมาในรูป “สมอลล์ ดอลลาร์” หรือเงินบริจาคไม่ถึง 250 ดอลลาร์ต่อคน โดยทรัมป์และทีมหาเสียงมักอวดอ้างว่า ผู้บริจาครายย่อยจำนวนมากเหล่านี้เป็นเครื่องการันตีถึงการได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน

ทรัมป์ยื่นเรื่องลงสมัครเลือกตั้งใหม่ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ทำให้ทีมหาเสียงของเขาสามารถระดมเงินบริจาคและนำเงินไปใช้จ่ายได้ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี