เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีเล่นงานรัฐมนตรียุติธรรม เจฟฟ์ เซสชันส์ ต่ออีกในวันอังคาร (25 ก.ค.) ว่า “อ่อนแอมาก” ในการติดตามสอบเรื่องข่าวกรองรั่วไหว และในการไล่ล่าฮิลลารี คลินตัน เรื่องอีเมลสมัยที่เธอเป็นเจ้ากระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้หลังจากวอชิงตันโพสต์รายงานว่า ประมุขทำเนียบขาวและคนสนิท กำลังเตรียมการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรียุติธรรม เพื่อปูทางปลดที่ปรึกษากฎหมายพิเศษและล้มกระดานการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ
“รัฐมนตรียุติธรรม เจฟฟ์ เซสชันส์ มีจุดยืนที่อ่อนแอมาก เรื่องอาชญกรรมของฮิลลารี คลินตัน … และเรื่องพวกปล่อยข่าวกรองรั่ว!” ทรัมป์ทวิตข้อความเช่นนี้ในตอนเช้าวันอังคาร (25)
ก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ (24) ทรัมป์ก็ได้ทวีตวิจารณ์ว่าเซสชันส์เป็นรัฐมนตรียุติธรรม “มากปัญหา” และตั้งคำถามที่เขาเคยพูดแล้วหลายครั้งว่า เหตุใดคณะกรรมาธิการและทีมสอบสวนชุดต่างๆ รวมทั้งเซสชันส์จึงไม่สอบสวนฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตเมื่อปีที่แล้ว ว่ามีสัมพันธ์โยงใยกับรัสเซียหรือไม่
ปกติแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ก็ตามที่อาจทำให้ถูกมองว่า ต้องการมีอิทธิพลต่อการสอบสวนที่ดำเนินอยู่หรือกรณีที่มีแนวโน้มว่าจะมีการสอบสวน
แต่นั่นไม่ใช่ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพื่อนเก่าอย่างเซสชันส์ ซึ่งประกาศหนุนหลังเขาตั้งแต่ช่วงต้นๆ ที่เขาประกาศตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
ผู้นำเมืองลุงแซมคนปัจจุบันแสดงความโกรธเคืองเซสชันส์หนักขึ้นทุกที ขณะที่การสอบสวนของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนำโดย ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ผู้เป็นอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทีมหาเสียงของทรัมป์สมคบกับรัสเซียเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และพัวพันมาถึงบุคคลใกล้ตัวอดีตเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์จากนิวยอร์กผู้นี้
สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้พูดระหว่างให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า ถ้ารู้มาก่อนว่า เซสชันส์จะถอนตัวจากการควบคุมการสอบสวนคดีนี้ คงไม่แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรียุติธรรม
การที่เซสชันส์ตัดสินใจถอนตัวเช่นนี้ เกิดขึ้นหลังจากถูกเปิดโปงว่า ระหว่างไปให้ปากคำต่อวุฒิสภาที่กำลังพิจารณารับรองการแต่งตั้งเขาเป็นรัฐมนตรีนั้น เขายืนยันว่าไม่เคยพบเจ้าหน้าที่รัสเซีย ทว่าที่จริงแล้วเขาเคยติดต่อกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ขณะทำงานอยู่ในทีมหาเสียงของทรัมป์
แต่ถึงแม้ถูกกดดันขนาดนี้ พวกคนใกล้ชิดของเซสชันส์บอกว่า เซสชันส์ยังคงยืนยันว่า ไม่มีแผนลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
กระนั้น หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ฉบับวันจันทร์ (24) รายงานว่า บรรดาที่ปรึกษาทรัมป์กำลังหาทางกำจัดเซสชันส์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปลดมุลเลอร์ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งให้คุมการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งอเมริกัน และรวบรัดตัดตอนยุติการสอบสวนไป
ทั้งนี้ มุลเลอร์ได้รับแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าว หลังจากมีเสียงไม่พอใจอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องที่ เจมส์ โคมีย์ ถูกทรัมป์ปลดกลางอากาศจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) โดยโคมีย์กล่าวว่าทรัมป์ไม่พอใจที่เขาเดินหน้าสอบเรื่องนี้
เกี่ยวกับคนที่อาจจะเข้ามาแทนเชสชันส์นั้น เว็บไซต์ “แอกซีออส”รายงานว่า ทรัมป์กำลังพิจารณา รูดี้ จูลิอานี อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก
ทว่า จูเลียอานีออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว พร้อมสนับสนุนว่า เซสชันส์ทำถูกแล้วที่ถอนตัวจากการสอบสวนกรณีรัสเซีย
ในวันจันทร์ (24) จาเรด คุชเนอร์ ลูกเขยและที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์ เข้าให้การแบบปิดลับกับคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง และหลังจากนั้นเขาได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนในความพยายามใดๆ ของเครมลินในการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ แม้ว่า เขาจะได้พบเจ้าหน้าที่รัสเซียรวม 4 ครั้งเมื่อปีที่แล้วก็ตาม
คุชเนอร์ยังยืนยันว่า ตนเองและทุกคนในทีมหาเสียงของทรัมป์ ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซีย
ก่อนเข้าให้การ ลูกเขยคนโปรดของทรัมป์ได้เผยแพร่คำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมีเนื้อความให้ภาพตัวเองว่า ไม่เคยมีประสบการณ์การเมืองมาก่อนเมื่อได้รับเลือกเป็นที่ปรึกษาระดับสูงในแคมเปญหาเสียงของพ่อตาเมื่อปีที่แล้ว
คำแถลงแจกแจงรายละเอียดการพบปะกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยเซีย์ร์เก คิสลิยาค เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน ที่พบกับคุชเนอร์ 2 ครั้งในเดือนเมษายนและธันวาคม, เซียร์เก กอร์คอฟ ประธานเวเนชอิโคโนมแบงก์ของรัฐบาลรัสเซีย รวมถึงกรณีที่เป็นข่าวล่าสุดคือ นาตาเลีย เวเซลนิตสกายา ทนายความรัสเซียที่นัดพบโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของทรัมป์ โดยอ้างว่า มีข้อมูลที่สามารถดิสเครดิตคลินตันไปมอบให้
ในคำแถลงนี้ คุชเนอร์ยืนยันว่า การพบปะเหล่านั้นดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม และไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ดี คุชเนอร์ไม่ได้แจ้งรายละเอียดการพบปะเหล่านั้นตั้งแต่แรกในแบบฟอร์มการรับรองเพื่อเข้าถึงชั้นความลับ (security clearance) สำหรับการเข้าทำงานในทำเนียบขาว และหลังจากนั้นเขายังขอแก้ไขข้อมูลในแบบฟอร์มหลายครั้ง
แหล่งข่าววงในการประชุมระหว่างคุชเนอร์กับคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาเผยว่า ลูกเขยทรัมป์อธิบายเรื่องนี้ว่า ทนายความและเจ้าหน้าที่ของตนจัดการแบบฟอร์มดังกล่าวไม่เหมาะสม แต่ก็แจ้งเอฟบีไอทันทีเมื่อรับรู้ว่า ได้ส่งแบบฟอร์มไปทั้งที่ยังกรอกข้อมูลไม่เสร็จ และจัดการแก้ไขใหม่จนเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนั้น ในคำแถลงลายลักษณ์อักษร คุชเนอร์ยังระบุว่า แบบฟอร์มฉบับแรกไม่ได้พลาดเฉพาะรายละเอียดการติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัสเซียเท่านั้น แต่รวมถึงการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทุกประเทศ