เอเอฟพี - ทำเนียบขาวแถลงเตือนวานนี้ (21 ก.ค.) ให้รัฐบาลอิหร่านเร่งปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกคุมขังทุกราย ไม่เช่นนั้นอาจเจอมาตรการคว่ำบาตรเพิ่ม
“ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศบทลงโทษใหม่ๆ ที่รุนแรงต่อเตหะราน หากพลเมืองอเมริกันที่ถูกจำคุกอย่างไม่เป็นธรรมในสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านไม่ได้รับการปล่อยตัวให้เดินทางกลับบ้าน” ทำเนียบขาวระบุ
คำเตือนจากสหรัฐฯ มีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจาก ทรัมป์ ตัดสินใจละทิ้งคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงเลือกตั้ง และยอมให้ข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านมีผลบังคับต่อไป โดยหันไปเพิ่มเติมบทลงโทษด้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์แทน
มาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้การจับกุมชาวอเมริกันถือเป็นปมปัญหาใหม่ที่คาดว่าจะโหมกระพือความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับรัฐบาลทรัมป์
เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.ค.) ศาลอิหร่านได้พิพากษาจำคุกนักศึกษาชาวอเมริกันเชื้อสายจีนเป็นเวลา 10 ปี ฐาน “แทรกซึม” เข้ามาในอิหร่านเพื่อสืบข่าวกรอง
ซีเย่ว์ หวัง (Xiyue Wang) วัย 37 ปี เป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มีความสนใจเป็นพิเศษด้านประวัติศาสตร์ยูเรเชียช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 และเดินทางไปอิหร่านเพื่อศึกษาวิจัยเรื่องราชวงศ์กอญัร (Qajar) เขายังทำงานให้กับศูนย์ชาร์มินและบิจานมอสซาวาร์-เราะห์มานีเพื่ออิหร่านและอ่าวเปอร์เซียศึกษา (Sharmin and Bijan Mossavar-Rahmani Center for Iran and Persian Gulf Studies) แห่งมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ซึ่งถูกทางการอิหร่านกล่าวหาว่าเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของตะวันตกและอิสราเอล
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ทรัมป์ ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับชะตากรรมของชาวอเมริกันที่ถูกคุมขังในต่างแดน และรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากกับการเสียชีวิตของออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันที่ถูกศาลเกาหลีเหนือลงโทษใช้แรงงานหนัก และเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านเมื่อเดือนที่แล้วในสภาพโคม่า ก่อนจะเสียชีวิตในอีกไม่กี่วันให้หลัง
“ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ และรัฐบาลสหรัฐฯ จะพยายามให้มากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยชาวอเมริกันที่ถูกกักขังอย่างไม่เป็นธรรมให้ได้กลับบ้าน” ทำเนียบขาวแถลง
“สหรัฐอเมริกาขอประณามกลุ่มบุคคลและประเทศที่จับคนเป็นตัวประกัน และกักขังพลเมืองของเราไว้โดยปราศจากทั้งเหตุผลอันชอบธรรม และกระบวนการไต่สวนทางกฎหมาย”
ถ้อยแถลงของทำเนียบขาวระบุชื่อ ซีเย่ว์ หวัง, ซิอามัก นามาซี นักธุรกิจชาวอเมริกัน-อิหร่าน และ บาเกอร์ นามาซี บิดาของเขาที่ถูกจำคุกในอิหร่าน รวมไปถึง โรเบิร์ต เลวินสัน อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และพนักงานสัญญาจ้างของซีไอเอ ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เดือน มี.ค.ปี 2007
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างวอชิงตันกับเตหะรานขาดสะบั้นลงหลังการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเมื่อเดือน เม.ย.ปี 1980
ความตึงเครียดซึ่งเคยบรรเทาเบาบางลงในยุคของบารัค โอบามา เริ่มร้อนระอุขึ้นหลังจากที่ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อิหร่านและกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน บวกเยอรมนี ได้ลงนามข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ปี 2015 โดยกำหนดให้อิหร่านยอมลดทอนกิจกรรมนิวเคลียร์ลงเพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ ยังคงเคารพข้อตกลงฉบับนี้อยู่ แม้ ทรัมป์ จะเคยขู่ขณะหาเสียงเมื่อปีที่แล้วว่าจะฉีกมันทิ้งก็ตาม