xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ เสียงอ่อนเจรจาฉันมิตร ‘สี จิ้นผิง’ คุยกัน ชม.ครึ่ง มุ่งร่วมมือจัดการ ‘โสมแดง’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<i>ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (ซ้าย) และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน (ขวา) จับมือกันก่อนเจรจาหารือทวิภาคีในการประชุมข้างเคียง ของการประชุมซัมมิตกลุ่มจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ (8 ก.ค.) </i>
รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ใช้น้ำเสียงมุ่งหาความปรองดอง ในระหว่างพบปะหารือเมื่อวันเสาร์ (8 ก.ค.) กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยที่ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำงานร่วมกันต่อไปใน 2 ประเด็นปัญหาซึ่งกำลังบีบคั้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อันได้แก่ ภัยคุกคามจากโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และความขุ่นเคืองจากการค้าทวิภาคี

ระหว่างการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ประกาศว่าจะต้องเล่นงานลงโทษจีนสำหรับวิธีปฏิบัติทางการค้าที่เขาเห็นว่าไม่ถูกต้อง ทว่าหลังจากขึ้นครองทำเนียบขาวแล้ว เขาก็ใช้โวหารวาทะที่อ่อนลงมา โดยกล่าวว่าต้องการที่จะทำงานกับจีนในประเด็นเรื่องโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ

เมื่อผู้นำทั้งสองพบปะหารือกันเป็นครั้งแรกในเดือนเมษายน ณ รีสอร์ตในมลรัฐฟลอริดาของทรัมป์ พวกเขาก็ดูจะเข้ากันได้ดี ทรัมป์เรียกสีว่าเป็น “คนดี” ขณะเขารบเร้าประธานาธิบดีจีนให้ใช้อิทธิพลบารมีของปักกิ่งในการบีบคั้นเกาหลีเหนือให้ระงับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของตน

แต่ระยะหลังๆ มานี้ ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจบางระดับต่อบทบาทของจีนในเรื่องเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังเปียงยางทดสอบยิงขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่ามีพิสัยทำการครอบคลุมไปถึงมลรัฐอะแลสกา และหลายๆ ส่วนของชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาทีเดียว

ในอีกด้านหนึ่ง คณะบริหารของทรัมป์เองก็อนุมัติการขายอาวุธระลอกใหม่ให้ไต้หวัน, ประกาศใช้มาตรการแซงก์ชั่นลงโทษพลเมืองจีน 2 คน และบริษัทเดินทะเลของแดนมังกรรายหนึ่ง, รวมทั้งใส่ชื่อจีนในบัญชีประเทศค้ามนุษย์ระดับเลวร้ายที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น วอชิงตันยังกล่าวหาธนาคารจีนแห่งหนึ่งว่าเป็นผู้ฟอกเงินให้เปียงยาง

ทำเนียบขาวยังกำลังอภิปรายกันในเรื่องว่าจะใช้การปฏิบัติการทางการค้าอย่างไรบ้างเพื่อเล่นงานปักกิ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับเหล็กกล้าส่งออกของแดนมังกร และเพียงแค่สองสามวันก่อนหน้าการประชุมซัมมิตของกลุ่มจี 20 (กลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก) ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ทรัมป์ก็บ่นพึมเรื่องที่ตัวเลขปริมาณการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือได้เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าทรัมป์ไม่ได้แสดงความไม่พอใจเหล่านี้ให้เห็นในวันเสาร์ (8 ก.ค.) เมื่อเขากับสีพบปะหารือกันตามคำเชิญของประธานาธิบดีจีน ในการประชุมข้างเคียงช่วงปิดท้ายของซัมมิต จี20 ที่เยอรมนี
<i>ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในฐานะเจ้าภาพ ต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก่อนการเจรจาหารือทวิภาคี เมื่อวันเสาร์ (8 ก.ค.) </i>
“เป็นเกียรติมากที่ได้คุณเป็นเพื่อน” ทรัมป์พูดเช่นนี้กับสี รวมทั้งกล่าวว่าเขามีความซาบซึ้งใจเกี่ยวกับการกระทำต่างๆ ที่สีได้ทำไปแล้วในเรื่องเกาหลีเหนือ

“เกี่ยวกับเรื่องเกาหลีเหนือนั้น เราจะต้องบรรลุความสำเร็จในท้ายที่สุด มันอาจจะใช้เวลายาวนานกว่าที่ผมปรารถนา มันอาจจะใช้เวลายาวนานกว่าที่พวกคุณปรารถนา แต่มันจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนในตอนท้ายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ (8)

หลังจากนั้น รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ สตีเวน มนูชิน ได้พูดกับพวกผู้สื่อข่าวขณะอยู่บน แอร์ฟอร์ซ วัน เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน ในเที่ยวบินเดินทางกลับอเมริกาว่า การพบปะระหว่างทรัมป์กับสีคราวนี้กินเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และผู้นำทั้งสองได้ “หารือกันอย่างเป็นสาระแก่นสาร” เกี่ยวกับวิธีการในการจัดการกับเกาหลีเหนือด้วยกัน

“ในส่วนของจีนนั้น เรามีการหารือกันอย่างตรงไปตรงมามากเกี่ยวกับเรื่องเกาหลีเหนือ เรามีการหารือกันอย่างตรงไปตรงมามากเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือกันทางทหารและด้านความมั่นคง” มนูชินกล่าว

“ผมคิดว่าประธานาธิบดีทรัมป์พูดอย่างชัดเจนมากๆ กับประธานาธิบดีสีว่า เขาเน้นหนักโฟกัสประเด็นปัญหานี้ และต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าและทำให้เกิดความคืบหน้า และผมคิดว่าประธานาธิบดีสีได้ให้ทัศนะมุมมองที่น่าสนใจมากจากจุดยืนของพวกเขา” มนูชินกล่าวต่อ

ทางด้านสำนักข่าวซินหวาของทางการจีน ได้รายงานข่าวการหารือระหว่างผู้นำทั้งสองคราวนี้ โดยระบุว่า สีได้บอกกับทรัมป์ว่า สายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯที่มีความแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ได้โน้มนำให้เกิดเสถียรภาพและความมั่งคั่งรุ่งเรืองขึ้นมาในท่ามกลางความขัดแย้งสู้รบต่างๆ ในโลก และได้ก่อให้เกิด “ความก้าวหน้าใหม่ๆ” ในบางด้านบางขอบเขต “ถึงแม้ยังคงมีประเด็นปัญหาที่อ่อนไหวอยู่บ้างบางประการ” สีกล่าว

ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความสำคัญในเรื่องการพูดจากับเกาหลีเหนือ และกล่าวด้วยว่า กำลังกองทัพเรือจีนจะเข้าร่วมการซ้อมรบทางทหารของชาติริมฝั่งแปซิฟิกที่นำโดยสหรัฐฯในปีหน้า

รายงานของซินหวากล่าวว่า สีเน้นกับทรัมป์ถึงเรื่องจุดยืนของจีนที่ยึดมั่นต้องการให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ และมุ่งทำให้คาบสมุทรนี้มีสันติภาพและเสถียรภาพ
<i>คณะผู้แทนของจีนนำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (ฝั่งขวา) เจรจาหารือกับคณะผู้แทนสหรัฐฯนำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (ฝั่งซ้าย) ในการประชุมข้างเคียง ของการประชุมซัมมิตกลุ่มจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ (8 ก.ค.) </i>
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ถึงแม้จีนแสดงความขุ่นเคืองการที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ประณามสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ว่ากำลังทำให้เกิดความตึงเครียดร้ายแรงยิ่งขึ้น จากการจัดซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง

“จีนได้พูดมาแล้วหลายครั้งเกี่ยวกับจุดยืนเชิงหลักการของตน นั่นก็คือ ในเวลาเดียวกับที่ประชาคมระหว่างประเทศกำลังแสดงการตอบโต้อันจำเป็นต่อพฤติการณ์ของเกาหลีเหนือซึ่งมีลักษณะเป็นการต่อต้านมติต่างๆ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้น พวกเขาก็จะต้องใช้ความพยายามเพิ่มมากขึ้นในการส่งเสริมสนับสนุนการพูดจาหารือ และในการบริหารจัดการและการควบคุมสถานการณ์” ซินหวาอ้างคำพูดของสี

สียังเน้นย้ำเรื่องที่จีนคัดค้านการที่สหรัฐฯนำเอาระบบต่อต้านขีปนาวุธในพื้นที่บรรยากาศขั้นสูง (THAAD) ไปติดตั้งประจำการในเกาหลีใต้ ซึ่งวอชิงตันและโซลบอกว่ามีความจำเป็นเพื่อใช้ป้องกันขีปนาวุธเกาเหลีเหนือ ทว่าปักกิ่งและก็รวมถึงมอสโกด้วย มองว่าระบบเรดาร์ของ “ทาด” สามารถเจาะล้วงเข้าไปถึงความเคลื่อนไหวภายในดินแดนของจีนและรัสเซียได้ด้วย

อย่างไรก็ดี ซินหวารายงานว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกันที่จะธำรงรักษาการติดต่อสื่อสารและความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในประเด็นปัญหาอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีเอาไว้

ในเวลาต่อมา กระทรวงการต่างประเทศจีนยังได้เผยแพร่คำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (9) กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ บอกว่า ระหว่างการเจรจาหารือกันคราวนี้ สีกับทรัมป์ “มีความเข้าใจกันและกันเพิ่มมากขึ้น” ในประเด็นปัญหาว่าด้วยเกาหลีเหนือ และ “ต่างยืนยันถึงทิศทางกว้างๆ ของการใช้วิถีทางสันติต่างๆ เพื่อแก้ไขคลี่คลายประเด็นปัญหานี้”

นอกเหนือจากเรื่องโสมแดง ระหว่างแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันเสาร์ (8) ทรัมป์บอกว่าได้หยิบยกเรื่องที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าจีนขึ้นมาพูด ในระหว่างการเจรจาหารือกันคราวนี้ด้วย โดยที่ทรัมป์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็น “ประเด็นปัญหาใหญ่มากๆ” ที่เขาจะต้องแก้ไขจัดการ

“ผมทราบว่าสำหรับจีนด้วยแล้ว ซึ่งเป็นชาติคู่ค้าที่ยิ่งใหญ่รายหนึ่งนั้น เราสามารถที่จะทำอะไรบางอย่าง ซึ่งจะมีความถูกต้องเป็นธรรมและเป็นเรื่องต่างตอบแทนกันได้” ทรัมป์บอก

ทั้งนี้พวกเจ้าหน้าที่อาวุโสจากทั้งสองประเทศมีกำหนดที่จะพบหารือกันในกรุงวอชิงตันวันที่ 19 เดือนนี้ เพื่อเจรจากันในประเด็นปัญหาต่างๆ ทางเศรษฐกิจและการค้า

กำลังโหลดความคิดเห็น