ปธน.จีนพบปะ “ปูติน” เห็นพ้องยกระดับความร่วมมือด้านต่างๆ ร้องแก้วิกฤตโสมแดงด้วยการเจรจา

ซินหวา/เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบปะหารือประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่วังเครมลินเมื่อวันอังคาร (4 ก.ค.) เห็นพ้องกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้มแข็งยิ่งขึ้นและเพิ่มความร่วมมือในเรื่องสำคัญอื่นๆ รวมถึงประเด็นเกาหลีเหนือ ที่ทั้งสองออกถ้อยแถลงเรียกร้องทุกฝ่ายลงนามในแผนลดความตึงเครียดของปักกิ่ง

การพบปะกันในมอสโกครั้งนี้ มีความตั้งใจมุ่งเน้นส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะมีการลงนามในข้อตกลงต่างๆมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การหารือถูกบดบังโดยประเด็นเกาหลีเหนือ หลังจากเปียงยางอ้างว่าประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก

สี กล่าวว่าจีนและรัสเซียคือพันธมิตรแห่งความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม และเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ทั้งสองต้องสื่อสารและร่วมมือกันอย่างเข้มข้นสำหรับจัดการกับประเด็นสำคัญต่างๆ

ผู้นำของจีนบอกต่ออีกว่า ทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มความร่วมมือ สนับสนุนกันและกันอย่างเหนียวแน่นในการเดินหน้าสู่เส้นทางแห่งการพัฒนาและปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคงแห่งชาติ และผลประโยชน์แห่งการพัฒนาของแต่ละชาติ

นอกจากนี้แล้ว สี บอกว่าพวกเขาได้เห็นพ้องกันถึงความจำเป็นในการยกระดับการสื่อสารทางนโยบายและร่วมกันดำเนินการในประเด็นสำคัญๆของภูมิภาคและระดับโลก เพื่อจัดการกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ รวมถึงสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก

ด้าน ปูติน บอกว่าเขาเห็นพ้องที่ทั้งสองประเทศควรยกระดับการสนับสนุนซึ่งกันและกันและร่วมมือกันมากขึ้นในประเด็นต่างๆ ของโลกและภูมิภาค

“คำถามทางเศรษฐกิจเป็นแก่นกลางความสนใจของเราเสมอ แต่เรายังประสานงานความร่วมมือความพยายามของเราในเวทีนานาชาติด้วย” ปูตินบอกกับสี ในช่วงต้นของการหารือ ขณะที่ สี ยกย่องเอกลักษณ์เฉพาะในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย โดยเขาบอกว่าทั้งสองชาติ “เป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นเพื่อนที่ไว้วางใจได้และเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้”

ทั้งสองผู้นำยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันในประเด็นคาบสมุทรเกาหลี และซีเรีย โดยพวกเขาเห็นพ้องผลักดันหาทางออกอย่างเหมาะสมในประเด็นคาบสมุทรเกาหลีผ่านแนวทางด้านการทูตและการเจรจา

ในส่วนกรณีที่ สหรัฐฯ ประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธชั้นบรรยากาศระดับสูง (THAAD) ในเกาหลีใต้ ทางประธานาธิบดีสีและปูติน บอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อความกังวลต่อความสมดุลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค และรัสเซียกับจีน ขอย้ำถึงจุดยืนคัดค้านการติดตั้ง THAAD ในเกาหลีใต้

หลังการหารือในมอสโกครั้งนี้ ทั้งสองผู้นำมีกำหนดมุ่งหน้าไปร่วมประชุมจี 20 ที่เมืองฮัมบูร์กของเยอรมนี โดยทั้งสองต่างมีคิวพบปะแบบเผชิญหน้ากับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเป็นการพบปะกันครั้งแรกระหว่าง ปูติน กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้

ทั้งนี้ ไม่นานหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่าง ปูตินกับสี ทางกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้ผนึกกำลังทางการทูตในวันอังคาร (4 ก.ค.) เรียกร้องเกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ลงนามในแผนลดความตึงเครียดของจีน ที่ออกแบบมาเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของเปียงยาง

ถ้อยแถลงระบุว่ารัสเซียกับจีนมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ในการแก้ไขคลี่คลายความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีนั้น จำเป็นที่ฝ่ายสหรัฐฯและเกาหลีใต้ต้องยุติการร่วมซ้อมรบขนาดใหญ่ๆ พร้อมๆกับที่เกาหลีเหนือระงับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ โดยความเคลื่อนไหวทั้งสองมีเป้าหมายเพื่อเปิดทางสำหรับการเจราพหุภาคี

เกาหลีเหนือระบุในวันอังคาร (4 ก.ค.) ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการทดสอบขีนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก วิถีโคจรที่พวกผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าพิสัยการยิงอาจไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ

ในขณะเดียวกันมอสโกและปักกิ่งยังใช้ถ้อยแถลงร่วมเดียวกัน เรียกร้องวอชิงตันระงับการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ แม้วอชิงตันอ้างว่ามีความจำเป็นเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

ถ้อยแถลงระบุว่า วอชิงตันกำลังใช้เกาหลีเหนือเป็นข้ออ้างสำหรับขยายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของตนเองในเอเชีย และเรียกก่อความเสียหายแก่สมดุลทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค