รอยเตอร์ - สหรัฐฯ พร้อมใช้ปฏิบัติการทางทหารยุติโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือหากถึงคราวจำเป็น แต่ยังหวังให้นานาชาติร่วมมือกันแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการทางการทูตลงโทษโสมแดง หลังการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ซึ่งอาจโจมตีได้ถึงรัฐอะแลสกาเมื่อวันอังคาร (4 ก.ค.)
นิกกี ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า การกระทำของเกาหลีเหนือ “ทำให้การยุติปัญหาด้วยการทูตหมดความเป็นไปได้ลงทุกขณะ” และสหรัฐฯ พร้อมที่จะปกป้องตนเอง รวมถึงชาติพันธมิตร
“กองทัพที่เกรียงไกรคือหนึ่งในศักยภาพของเรา เราจะใช้มันถ้าจำเป็น แต่ก็หวังว่าคงจะไม่ต้องเลือกเดินทางนั้น” ฮาลีย์ กล่าว
ทูตหญิงสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้จีนซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือใช้ความพยายามมากกว่านี้ในการควบคุมพฤติกรรมของเปียงยาง
ดานา ไวท์ โฆษกเพนตากอน อ้างถ้อยแถลงของ เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวขณะหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (5) ว่า สหรัฐฯ ยังคง “มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว” ที่จะคุ้มกันแดนอาทิตย์อุทัยจากภัยคุกคามภายนอก และพร้อม “ขยายมาตรการป้องปรามด้วยศักยภาพทั้งหมดที่สหรัฐฯ มีอยู่”
คำยืนยันของ แมตทิส ต่อรัฐมนตรีกลาโหม โทโมมิ อินาดะ มีขึ้นระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ หลังกองทัพเกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปสำเร็จเป็นครั้งแรก
การเปิดตัวขีปนาวุธ ICBM นับว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของโครงการขีปนาวุธโสมแดง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า จรวดรุ่นนี้สามารถเดินทางไปถึงอะแลสกา ฮาวาย หรือแม้กระทั่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ
เปียงยางอ้างว่า ขีปนาวุธ “ฮวาซอง-14” สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้ด้วย ซึ่งถือเป็นโจทก์ท้าทายที่สุดสำหรับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยให้สัญญาว่าจะขัดขวางไม่ให้เกาหลีเหนือส่งขีปนาวุธมาโจมตีอเมริกาได้สำเร็จ
ทรัมป์ เรียกร้องให้จีนแสดงบทบาทผู้นำกล่อมโสมแดงให้ละทิ้งความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์
ฮาลีย์ ระบุว่า สหรัฐฯ จะเสนอมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือฉบับใหม่ต่อที่ประชุมยูเอ็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และหากรัสเซียหรือจีนไม่สนับสนุนมติดังกล่าว “สหรัฐฯ ก็จะจัดการปัญหาด้วยตัวเอง”
เธอยังไม่เปิดเผยว่าสหรัฐฯ จะเสนอมาตรการคว่ำบาตรอย่างไรบ้าง แต่ระบุทางเลือกเอาไว้คร่าวๆ ว่า “นานาชาติอาจปิดกั้นช่องทางที่รัฐบาลเกาหลีเหนือใช้ดึงดูดสกุลเงินแข็งเข้าประเทศ จำกัดการขนน้ำมันเข้าไปป้อนกองทัพและโครงการอาวุธของพวกเขา เพิ่มการปิดล้อมทางทะเลและอากาศ และลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์”
นักการทูตหลายคนยอมรับว่า ที่ผ่านมาจีนไม่ได้ตั้งใจคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างจริงจัง และยังขัดขวางไม่ให้ยูเอ็นใช้วิธีลงโทษสถานหนัก เช่น ห้ามขนส่งน้ำมัน (oil embargo), แบนสายการบินและแรงงานโสมแดง หรือใช้บทลงโทษกับธนาคารจีนและบริษัทอื่นๆ ที่ทำธุรกิจกับเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกันระบุว่า สหรัฐฯ อาจใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่อบริษัทจีนที่ทำธุรกิจกับเปียงยาง โดยเฉพาะสถาบันการเงิน
หลิว เจียอี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น แถลงต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงว่า การยิงขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปถือว่าละเมิดมติยูเอ็นอย่างร้ายแรง และเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้”
“เราขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น หลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุหรือถ้อยคำเกรี้ยวกราด แสดงเจตนารมณ์ที่จะเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไข และร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อลดความตึงเครียด”