เอเอฟพี/รอยเตอร์ - เพนตากอนมั่นใจว่าจะสามารถปกป้องสหรัฐฯจากจรวดใดๆของเกาหลีเหนือที่ยิงเข้ามา จากคำยืนยันของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเมื่อวันพุธ(5มิ.ย.) หลังเปียงยางประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก
นาวาเอก เจฟฟ์ เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่าเมื่อวันอังคาร(4มิ.ย.) ที่ผ่านมา คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ตรวจตราการยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ "ที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน" จากฐานยิงในเมืองพังฮยอน สถานที่ซึ่งไม่เคยเกี่ยวข้องกับโปรแกรมขีปนาวุธของโสมแดงมาก่อน
เบื้องต้นเพนตากอนคิดว่าจรวดดังกล่าวเป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง แต่ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าพิสัยทำการของมันน่าจะเกินกว่า 5,500 กิโลเมตร ซึ่งทำให้มันมีศักยภาพโจมตีได้ไกลถึงรัฐอะแลสกา และทางกระทรวงกลาโหมต้องเรียกขานมันใหม่ว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM)
ในเดือนพฤษภาคม กองทัพสหรัฐฯยิงทดสอบจรวดสกัดกั้นภาคพื้นเป็นครั้งแรก จากฐานทัพอากาศแวนเดนเบิร์ก และประสบความสำเร็จพุ่งทำลายเป้าหมายที่เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปเสมือนจริงได้อย่างแม่นยำ "เรามั่นใจในศักยภาพของเราในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามอย่างจำกัด มันเป็นภัยคุกคามที่เพิ่งเริ่ม" นาวาเอกเดวิส กล่าว โดยพูดถึงระบบป้องกันขีปนาวุธ
ขณะเดียวกัน นาวาเอกเดวิส ได้ประณามการทดสอบล่าสุดของเกาหลีเหนือ โดยชี้ว่ามันก่อความเสี่ยงต่างๆ ทั้งด้านการเดินเรือ การสัญจรทางอากาศและแม้แต่ดาวเทียม แม้ไม่ทราบความเสียหายจากขีปนาวุธก็ตาม โดยอ้างรายงานที่ระบุว่ายานนำส่งขีปนาวุธลูกดังกล่าวตกลงสู่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
สหรัฐฯมีศักยภาพป้องกันขีปนาวุธต่างๆนานา ประกอบด้วยระบบที่หลากหลายที่ถูกออกแบบมาเพื่อสอยขีปนาวุธชนิดต่างๆในพิสัยการยิงแต่ละระยะ "เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพการป้องกันขีปนาวุธนำวิถีของเรา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงพัฒนามัน" นาวาเอกเดวิสกล่าว "สิ่งที่เราแสวงหามาตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาศักยภาพนี้ก็คือความสามารถในการแซงหน้าภัยคุกคาม"
เขาเน้นย้ำว่าเกาหลีเหนือยังอยู่ห่างจากการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์ โดยบอกว่าเปียงยางยังไม่ได้แสดงถึงศักยภาพของยานนำส่งจรวดคืนสู่ชั้นบรรยากาศ "แต่ชัดเจนว่าพวกเขากำลังดำเนินการในเรื่องนี้"
อีกด้านหนึ่ง มูน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เรียกร้องในวันพุธ(5มิ.ย.) ให้นานาชาติกำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงที่สุดต่อเกาหลีเหนือ หลังเปียงยางยิงขีปนาวุธข้ามทวีป พร้อมประณามเกาหลีเหนือว่า "ยั่วยุครั้งใหญ่"
"มันคือภัยคุกคามและการยั่วยุครั้งใหญ่ เกาหลีเหนือควรหยุดในทันทีและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะยกระดับมาตรการคว่ำบาตร" มูนกล่าวระหว่างเยือนเบอร์ลิน ก่อนพบปะพูดคุยกับอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนความเคลื่อนไหวเล่นงานเปียงยางเช่นกัน