รอยเตอร์ - รัฐบาลสิงคโปร์มีคำสั่งเนรเทศแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 2 ราย หลังพบพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่สื่อถึงความฝักใฝ่ลัทธิสุดโต่ง ทำให้ขณะนี้มีแม่บ้านอิเหนาถูกขับไล่รวมทั้งสิ้น 9 รายตั้งแต่ปี 2015 ท่ามกลางความหวั่นวิตกเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เดสมอนด์ ลี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ (Second Minister for Home Affairs) แถลงต่อรัฐสภาวานนี้ (4 ก.ค.) ว่า แม่บ้านอิเหนาวัย 25 และ 28 ปี ไม่ได้มีแผนก่อเหตุรุนแรงในสิงคโปร์ และไม่พบหลักฐานว่าทั้งคู่เคยปลุกปั่นยุยงเพื่อนร่วมอาชีพ
“เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เธอทั้งสองเป็นผู้สนับสนุนไอเอสที่รับแนวคิดสุดโต่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์” ลี ชี้แจงต่อสมาชิกรัฐสภา ซึ่งขอทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับภัยคุกคามจากชาวต่างชาติที่คลั่งไคล้ลัทธิหัวรุนแรง
สิงคโปร์ย้ำเตือนมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่า เกาะศูนย์กลางการเงินอาเซียนแห่งนี้กำลังตกเป็นเป้าหมายของนักรบอิสลามิสต์ และเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง
เมื่อเดือน มิ.ย. รัฐบาลสิงคโปร์ได้แถลงข่าวการจับกุม ชัยเคาะห์ อิซซาห์ ซาห์ราห์ อัล-อันซารี วัย 22 ปี ซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์รายแรกที่ถูกจับฐานสนับสนุนไอเอส โดยเจ้าหน้าที่พบว่าเธอมีแผนจะเดินทางไปแต่งงานกับนักรบญิฮาดในซีเรีย
ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่าได้สั่งเนรเทศชาวต่างชาติเกือบ 70 รายที่พบหลักฐานว่าฝักใฝ่กลุ่มติดอาวุธในช่วง 2 ปีก่อนหน้า ในจำนวนนี้เป็นแม่บ้าน 5 คน
รัฐบาลอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกเผยเมื่อปีที่แล้วเช่นกันว่า สามารถจับกุมพลเมือง 6 รายที่มีสายสัมพันธ์กับไอเอส และวางแผนก่อวินาศกรรมในสิงคโปร์
อิทธิพลของไอเอสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อกลุ่มติดอาวุธที่สวามิภักดิ์ต่อไอเอสบุกยึดเมืองมาราวี (Marawi) บนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ในเดือน พ.ค. และดึงนักรบต่างชาติหลายสิบรายเข้าร่วมปฏิบัติการด้วย
