เอเอฟพี – หนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯต้องการตัวมากที่สุดอาจหลบหนีออกจากการสู้รบนาน 5 สัปดาห์กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ในเมืองตอนใต้ของฟิลิปปินส์ซึ่งเริ่มต้นจากปฏิบัติการจับกุมตัวเขา กองทัพระบุในวันนี้ (24)
อิสนิลอน ฮาปิลอน นักรบอาวุโสชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้นำของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ได้ถูกพบเห็นในพื้นที่สู้รบในเมืองมาราวี พล.ท.คาร์ลิโต กัลเวซ หัวหน้ากองบัญชาการมินดาเนาตะวันตกของกองทัพ กล่าว
ความพยายามของทการรัฐบาลที่จะจับกุมฮาปิลอนในมาราวีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมเป็นชนวนการออกอาละวาดของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่โบกสะบัดธงสีดำของกลุ่มไอเอสและได้รับการสนับสนุนจากนักรบต่างชาติบางคนที่ยึดบางส่วนของเมืองชาวมุสลิมแห่งนี้
ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศกฎอัยการศึกในมาราวีและภูมิภาคมินดาเนาทั้งหมด สั่งปฏิบัติการยับยั้งสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นความพยายามของกลุ่มไอเอสที่จะสร้างอาณาเขตในพื้นที่นี้
“เขา (ฮาปิลอน) ไม่ได้ถูกพบเห็นในพื้นที่นี้เลย เราได้รับรายงานบางส่วนว่าเขาสามารถหลบหนีไปได้ ตอนนี้เรายังคงกำลังยืนยันรายงานนี้อยู่” กัลเวซ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ DZBB
เมื่อถามว่าฮาปิลอนกำลังอยู่ระหว่างหลบหนีหรือไม่ “ใช่ เพราะว่าตามรายงานเขาสูญเสียไพร่พลไปมาก คนของเขาส่วนใหญ่ มากกว่าครึ่งหนึ่ง เสียชีวิต”
ฮาปิลอนถูกตั้งข้อหาในวอชิงตันฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวชาวอเมริกันสามคนในฟิลิปปินส์เมื่อปี 2011 และมีค่าหัว 5 ล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯที่มีชื่อเขาในบัญชีผู้ก่อการร้ายที่ต้องการตัวมากที่สุด
เขาเป็นผู้นำกลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟในฟิลิปปินส์ที่ประกาศสวามิภักด์กับกลุ่มไอเอส
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระบุว่า เขาได้รับการยอมรับจากพวกไอเอสในฐานะ “อามีร์” หรือผู้นำกลุ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่กลุ่มนี้ต้องการก่อตั้งอาณาจักรคอลิฟะห์
กองทัพระบุว่า กลุ่มของฮาปิลอยร่วมมือกับกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่งคือ มูเตกรุ๊ป เพื่อทำการปิดล้อมมาราวีที่ตอนนี้ดำเนินเข้าเดือนที่สองแล้ว
ในวันเสาร์ (24) กองกำลังความมั่นคงยังคงกำเนินการโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ใส่พื้นที่ต่างๆ ของมาราวีที่ยังคงถูกควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ในขณะที่ทหารปะทะกับกลุ่มติดอาวุธตามบ้านทีละหลัง
แต่โฆษกกองทัพ พล.จ.เรสติติวโต พาดิลลา กล่าวว่า เขาคาดว่า การสู้รบจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
“คนพวกนี้ไม่กลัวตาย การประเมินของเราคือพวกเขาจะสู้จนตัวตาย” พาดิลลา กล่าวกับสถานีวิทยุ DZBB เช่นกัน
เขากล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธกำลังหาที่หลบภัยในหลุมหลบภัยและอุโมงค์ที่ถูกสร้างไว้โดยชาวมาราวีเพื่อปกป้องตัวเองจากสงครามชนเผ่าและความไม่สงบจากการก่อกบฏมุสลิมในมินดาเนา
กลุ่มติดอาวุธเกือบ 300 คนและทหารรัฐบาล 67 คนเสียชีวิตในการสู้รบนี้ อ้างจากข้อมูลรัฐบาล
กัลเวซกล่าวว่า มีข้อบ่งชี้หนักแน่นว่า สองหรือสามในพี่น้องมูเต ในหมู่ผู้มีบทบาทสำคัญในการปิดล้อมนี้ ถูกสังหารแล้ว รวมถึง โอมาร์คายัม มูเต ที่เชื่อว่าเป็นผู้นำสูงสุดของกลุ่มนี้