เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์เรียกร้องวันนี้ (30 พ.ค.) ให้กลุ่มกบฏฝักใฝ่ไอเอสที่บุกยึดเมืองมาราวีบนเกาะมินดาเนายอมวางอาวุธ และมอบตัวเพื่อเห็นแก่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ หลังสู้รบยืดเยื้อกันมานานถึง 8 วันเต็ม และล่าสุดกองทัพก็ได้มีการส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีเข้าไปยิงจรวดถล่มฐานที่มั่นของพวกกบฏอย่างต่อเนื่อง
ทางการฟิลิปปินส์ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนจากเหตุการณ์สู้รบที่ปะทุขึ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (23) หลังพวกกบฏมาอูเต (Maute) ได้ถือธงสีดำของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกอาละวาดทำลายทรัพย์สิน และยึดเมืองมาราวีซึ่งมีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่มาก
ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ตอบสนองวิกฤตความมั่นคงครั้งนี้ด้วยการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วเกาะมินดาเนาซึ่งมีประชากรราว 20 ล้านคน พร้อมเตือนว่ากลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่กำลังรวมตัวเพื่อปฏิบัติการภายใต้ธงไอเอสถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อประเทศชาติ
อย่างไรก็ดี นักรบมาอูเตซึ่งกองทัพฟิลิปปินส์ประเมินว่ามีจำนวนไม่เกิน 100 คนกลับต้านทานการโจมตีทั้งทางอากาศและบนท้องถนนมาได้นานถึง 8 วันเต็ม จนรัฐบาลต้องตัดสินใจออกมาเรียกร้องให้พวกเขาวางอาวุธเสีย
“เราจะให้โอกาสพวกที่ยังแฝงตัวอยู่ในเมืองยอมแพ้เสีย นี่คือโอกาสที่พวกคุณจะได้วางอาวุธ” พลจัตวา เรสติตูโต ปาดิลลา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุ DZBB
“พวกคุณยอมแพ้เสีย จะได้ไม่มีใครเดือดร้อนมากไปกว่านี้ ไม่ต้องมีอาคารบ้านเรือนถูกทำลายมากไปกว่านี้”
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง เออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกประธานาธิบดี ว่าเหตุใดจึงมีการร้องขอให้พวกกบฏวางอาวุธ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า “เพื่อลดความสูญเสีย และลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน”
รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่ายังมีชาวบ้านราว 2,000 คนติดอยู่ในเขตอิทธิพลของกบฏมาอูเต ขณะที่สภากาชาดสากลก็แสดงความเป็นห่วงว่าคนเหล่านี้อาจถูกลูกหลงจากการทิ้งระเบิดหรือการยิงปะทะ
กบฏมาอูเตยังจับบาทหลวงคริสต์และชาวบ้านอีกอย่างน้อย 14 คนเป็นตัวประกันตั้งแต่วันแรกๆ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมของคนเหล่านั้น
เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพฟิลิปปินส์ได้ยิงจรวดถล่มฐานที่มั่นของกบฏมาอูเตตลอดช่วงเช้าวันนี้ (30) ขณะที่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในเมืองมาราวีรายงานว่า เห็นกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นมาจากอาคารหลายหลังที่ถูกโจมตี
ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธพวกนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักรบต่างชาติ ทั้งชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
กบฏมาอูเตได้ออกอาละวาดเข้ายึดเมืองมาราวีเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการกองทัพที่จู่โจมหมายเข้าจับกุม อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มอาบูไซยาฟที่ขึ้นชื่อเรื่องการจับตัวประกันเรียกค่าไถ่และสังหารชาวต่างชาติ และเป็นบุคคลที่รัฐบาลมะนิลาเชื่อว่าเป็นตัวแทนของไอเอสในฟิลิปปินส์
ฮาปิลอน ผู้นี้มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ก่อการร้ายที่สหรัฐฯ ต้องการตัวมากที่สุด และเชื่อกันว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่มาราวีโดยได้รับการคุ้มกันจากกบฏมาอูเตที่สวามิภักดิ์ต่อไอเอส
เหตุสู้รบครั้งนี้ยังทำให้นักโทษกว่า 100 คนสบโอกาสหลบหนีออกจากเรือนจำ 2 แห่งในเมืองมาราวี โดยกองทัพเชื่อว่านักโทษบางรายอาจหันไปจับอาวุธสู้รบร่วมกับพวกกบฏด้วย