รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์กล่าวในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า เขาจะจัดการกับการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดและว่า กฎอัยการศึกบนเกาะมิดาเนาจะคงอยู่เป็นเวลาหนึ่งปีหากจำเป็น
ดูเตอร์ยุติการเยือนรัสเซียกลางคันและประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนาทางตอนใต้เมื่อวานนี้ (23) หลังจากการสู้รบรุนแรงระหว่างที่กองกำลังความมั่นคงบุกจู่โจมแหล่งกบดานของกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
“ถึงประชาชนของผมที่เผชิญกับกฎอัยการศึก มันจะไม่ต่างจากสิ่งที่ประธานาธิบดีมาร์กอสเคยทำ ผมจะไม่ปรานี” ดูเตอร์เตกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้ช่วยเลานุการด้านการสื่อสารของเขาในขณะกำลังบินกลับมายังมะนิลา
“หากมันจะต้องใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อทำมันให้สำเร็จ เราก็จะทำ หากมันจบในเดือนเดียว ผมก็จะยินดี ถึงประชาชนของผม อย่าหวาดกลัวเกินไป ผมกำลังกลับบ้าน ผมจะจัดการปัญหานี้ทันทีที่ผมไปถึง” ดูเตอร์เตกล่าว
ทหารและตำรวจสองคนถูกสังหารและมีได้ผู้รับบาดเจ็บ 12 คนท่ามกลางความดกลาหลในมาราวี เมืองชาวมุสลิมที่มีประชากรราว 200,000 คน พื้นที่ซึ่งสมาชิกของกลุ่มมาอูเตยึดครองอาคารหลายแห่งและจุดไฟเผาโรงเรียน โบสถ์ และเรือนจำ
ฟิลิปปินส์เผชิญกับกฎอัยการศึกนานสิบปีภายใต้ผู้นำเผด็จการ เฟอร์ดินาน มาร์กอส นับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 และความทรงจำของการรณรงค์ฟื้นฟูประชาธิปไตยและปกป้องสิทธิมนุษยชนยังคงเหมือนเพิ่งผ่านมาไม่นานสำหรับคนจำนวนมา
กองทัพระบุว่า พวกเขาหวังว่า พวกเขาจะสามารถยุติความขัดแย้งได้เร็วกว่ากำหนด
“ความตั้งใจของกองกำลังความมั่นคง กองทัพฟิลิปปินส์ คือต้องการจบเรื่องนี้โดยเร็วเพื่อให้เราสามารถฟื้นคืนความสงบสุขในพื้นที่” เอ็ดการ์ อเรวาโล โฆษกกองทัพ ระบุในการให้สัมภาษณ์กับช่องข่าวเอเอ็นซี
เป้าหมายของการบุกจู่โจมเมื่อวานนี้ (23) คือการจับกุม อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำของกลุ่มอาบูไซยาฟที่ขึ้นชื่อเรื่องการกระทำเยี่ยงโจรสลัด ลักพาตัว และตัดศีรษะชาวตะวันตก กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เสนอเงินรางวัลนำจับฮาปิลอนสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์
กลุ่มติดอาวุธมาอูเตและอาบูไซยาฟประกาศสวามิภักดิ์กับกลุ่มไอเอส และทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพอย่างรุนแรง ในขณะที่ดูเตอร์เตพยายามกวาดล้างพวกหัวรุนแรงและป้องกันไม่ให้แนวคิดอิสลามิสต์สุดโต่งแพร่กระจายในแดนตากาล็อก
ดูเตอร์เตือนหลายครั้งว่า มินดาเนา ภูมิภาคยากแค้นขนาดเท่าเกาหลีใต้ มีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนด้วยนักรบไอเอสที่ถูกขับไล่ออกมาจากอิรักและซีเรีย
อเรวาโลยืนกรานว่า ไม่มีกลุ่มไอเอสในฟิลิปปินส์
“กลุ่มพวกนี้ที่กำลังแสดงตัวเป็นไอเอส พวกเขาเพียงแค่กำลังต้องการแรงสันบสนุนจากไอเอสที่จนถึงตอนนี้พวกเขายังคงไม่ได้รับ นั่นคือเหตุผลว่าทำมะวกเขายังคงกระทำความป่าเถื่อนอยู่” อเรวาโล กล่าว