เอเอฟพี - เครื่องบินขับไล่ซีเรียถูกสหรัฐฯ ยิงตกในจังหวัดร็อกเกาะห์เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.) หลังกลุ่มพันธมิตรอเมริกาอ้างว่าอากาศยานลำดังกล่าวได้ทิ้งระเบิดใส่พวกนักรบที่ช่วยต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ขณะที่อิหร่านจัดหนักยิงขีปนาวุธถล่มรังไอเอสในซีเรียเพื่อแก้แค้นที่ถูกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อต้นเดือนนี้
สงครามกลางเมืองซีเรียซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 6 เริ่มทวีความตึงเครียดหนัก เมื่อฝ่ายพันธมิตรสหรัฐฯ รุกคืบเข้าไปถึงร็อกเกาะห์ ซึ่งถือเป็น “เมืองหลวง” ของรัฐคอลีฟะห์ที่พวกไอเอสสถาปนาขึ้น และเสี่ยงที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกับทหารดามัสกัสซึ่งมีรัสเซียหนุนหลังอยู่
ล่าสุดสถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น เมื่ออิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตี “ฐานที่มั่นกลุ่มก่อการร้าย” ในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียวานนี้ (18) เพื่อแก้แค้นเหตุโจมตีกรุงเตหะรานที่พวกไอเอสประกาศอ้างความรับผิดชอบ
กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบเคิร์ด-อาหรับที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ บุกตะลุยเข้าไปถึงตัวเมืองร็อกเกาะห์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กองทัพรัฐบาลซีเรียไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามชิงคืนร็อกเกาะห์ แต่ก็รุกคืบเข้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเพื่อมุ่งไปสู่แหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับพวกเอสดีเอฟ
กองทัพซีเรียแถลงวานนี้ (18) ว่า “เครื่องบินจากกลุ่มพันธมิตรนานาชาติได้โจมตีเครื่องบินขับไล่ลำหนึ่งของเราที่ย่านเรซาฟา (Resafa) ทางตอนใต้ของจังหวัดร็อกเกาะห์เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ระหว่างที่เครื่องบินของเรากำลังปฏิบัติภารกิจต่อต้านกลุ่มไอเอส”
ซีเรียยังเตือนให้สหรัฐฯ “ระวังผลร้ายแรงที่จะติดตามมาจากพฤติกรรมก้าวร้าวครั้งนี้”
กลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ แถลงยืนยันในเวลาต่อมาว่า เครื่องบินขับไล่ของซีเรียถูกสหรัฐฯ ยิงตก เนื่องจากเข้าไปทิ้งระเบิดโจมตีกองกำลังเอสดีเอฟ
“เมื่อเวลา 18.43 น. (17.43 GMT) เครื่องบินขับไล่ SU-22 ของกองทัพซีเรียได้ทิ้งระเบิดใกล้ๆ กับฐานที่มั่นของนักรบเอสดีเอฟ และถูกเครื่องบินขับไล่ F/A-18E ซูเปอร์ฮอร์เน็ต ของสหรัฐฯ ยิงตก ซึ่งเป็นไปตามกฎการปะทะ (rules of engagement) และแผนปกป้องกองกำลังที่เป็นหุ้นส่วนของพันธมิตรสหรัฐฯ”
ฝ่ายสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านั้น 2 ชั่วโมง ทหารที่ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้โจมตีกองกำลังเอสดีเอฟในเมืองจายดีน (Jaaydine) ทางตอนใต้ของตับเกาะห์ (Tabqa) “เป็นเหตุให้นักรบเอสดีเอฟได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และต้องล่าถอยออกจากเมือง”
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอน รายงานว่า เหตุปะทะครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่กองทัพซีเรียเคลื่อนพลเข้าไปถึงย่านเรซาฟา เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังจังหวัดเดอีร์เอซซอร์
“รัฐบาลซีเรียพยายามที่จะเข้าถึงเดอีร์เอซซอร์ โดยใช้ร็อกเกาะห์เป็นทางผ่าน” รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์สังเกตการณ์ บอกกับเอเอฟพี
สงครามที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2011 ทำให้รัฐบาลดามัสกัสสูญเสียการควบคุมแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะที่จังหวัดฮอมส์และเดอีร์เอซซอร์
เอสดีเอฟสามารถบุกทะลวงเข้าไปถึงตัวเมืองร็อกเกาะห์ได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. หลังทำการปิดล้อมเมืองทางฝั่งตะวันออก เหนือ และตะวันตกอยู่นานหลายเดือน โดยมีกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนด้านการโจมตีทางอากาศ ที่ปรึกษาทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) แถลงว่า กองทัพได้ยิง “ขีปนาวุธพิสัยกลาง” หลายลูกไปถล่ม “ฐานที่มั่นกลุ่มก่อการร้าย” ในจังหวัดเดอีร์เอซซอร์ของซีเรียเมื่อวานนี้ (18) เพื่อแก้แค้นที่นักรบไอเอสโจมตีอาคารรัฐสภาและสุสาน อยาตอลเลาะห์ รูฮอลเลาะห์ คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน จนมีผู้เสียชีวิตไปถึง 17 คน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.
สถานีโทรทัศน์อิหร่านได้เผยแพร่ภาพจรวดที่ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่อิหร่านส่งขีปนาวุธไปโจมตีเป้าหมายนอกประเทศ หลังสิ้นสุดสงครามระหว่างอิรักกับอิหร่านเมื่อช่วงปี 1980-1988
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านชี้นิ้วกล่าวโทษซาอุดีอาระเบียว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีกรุงเตหะราน ขณะที่ IRGC ก็ประกาศจะแก้แค้นเหตุนองเลือดครั้งนี้อย่างสาสม