เอเจนซีส์ – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Co-operation Council) GCC ที่มีสมาชิก 6 ชาติ ได้ออกแถลงการณ์ในวันพุธ(2 มี.ค)ประกาศให้ฮิซบอลเลาะห์ถูกจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย หลังจากที่ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ริยาร์ดได้ประกาศระงับความช่วยเหลือทางการทหารกับเลบานอนมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ตอบโต้ที่เบรุตไม่ยอมประณามเหตุโจมตีสถานทูตในกรุงเตหะรานในต้นปีนี้
ดิอิโคโนมิสต์ รายงานเมื่อวานนี้(2 มี.ค)ว่า ท่ามกลางวิกฤตในตะวันออกกลาง ความตรึงเครียดระหว่างซาอุฯและอิหร่านยิ่งเพิ่มความคุกรุ่นมากขึ้น ทำให้ประเทศกลาง เช่น เลบานอน ตกอยู่ในสภาพลำบาก และต้องแบกรับปัญหาความตรึงเครียด ล่าสุดกองทัพเลบานอนถูกริยาร์ดระงับเงินช่วยเหลือ 4 พันล้านดอลลาร์ในการช่วยฝึกฝนกองกำลัง และการจัดหายุทธโธปกรณ์เข้าเสริมกองทัพ
เลบานอนประเทศเล็กๆในตะวันออกกลางต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจในตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน โดยล่าสุดเบรุตได้ถูกริยาร์ดสั่งตัดความช่วยเหลือทางการฝึกฝนเจ้าหน้าที่กองทัพและยุทโธปกรณ์จำนวนถึง 4 พันล้านดอลลาร์
ซึ่งทางซาอุดีอาระเบียได้ตัดใจประกาศยกเลิกในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการที่ริยาร์ดไม่พอใจเลบานอนจากปัญหาความขัดแย้งกับอิหร่าน และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งอยู่ใต้ปีกเลบานอน และได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน
โดยมีรายงานว่า "ฮิซบอลเลาะห์" หรือ "พรรคแห่งพระเจ้า" เป็นองค์กรทางการเมืองและการทหารของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ เคลื่อนไหวในเลบานอน ได้รับแรงบันดาลใจในการเคลื่อนไหว จากการปฏิวัติอิหร่าน โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือการปฏิวัติระบอบปกครองของเลบานอนในปัจจุบัน จากสังคมที่มีความเชื่อแบบหลากหลาย ให้เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบรัฐอิสลามแบบอิหร่านอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1982 เพื่อตอบโต้การรุกรานของกองกำลังอิสราเอล ที่เข้ามายังประเทศเลบานอน จนกระทั่งในปี 2000 กลุ่มฮิสบอลเลาะห์ สามารถขับไล่กองกำลังอิสราเอลออกจากเลบานอนได้สำเร็จ แต่ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลยังไม่ยุติ และยังคงมีการปะทะเกิดขึ้น บริเวณแนวชายแดนของสองประเทศอยู่บ่อยครั้ง
โดยอิโคโนมิสต์ชี้ว่า เป็นเพราะรัฐบาลซาอุฯผิดหวังที่เบรุตไม่ยอมกล่าวประณามในเหตุโจมตีสถานทูตซาอุฯประจำกรุงเตหะรานจากฝีมืออิหร่านเมื่อเดือนมกราคม 2016 ทำให้ริยาร์ดประกาศห้ามไม่ให้พลเมืองของตนซึ่งถือว่ามีเศรษฐกิจที่ดีกว่าในประเทศอื่นๆในภูมิภาค เข้าไปท่องเที่ยวในเลบานอน และนอกจากนี้ความไม่พอใจของริยาร์ดยังมีไปยังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยประณามว่ากลุ่มก่อการร้ายได้ลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ รวมไปถึงส่งทหารรับจ้างของกลุ่มไปก่อสงครามในเยเมนและซีเรีย
ซึ่งดิอีโคโนมิสต์ชี้ว่า ส่งผลทำให้คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Co-operation Council) GCC ที่มีสมาชิก 6 ชาติที่มีริยาร์ดเป็นหัวหอก ได้ออกแถลงการณ์ในวันพุธ(2 มี.ค)ประกาศให้ฮิซบอลเลาะห์ถูกขึ้นบัญชีดำเป็นกลุ่มก่อการร้าย
และในรายงานของกัลฟ์นิวส์ชี้ว่า การประกาศขึ้นบัญชีดำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางและครอบคลุมในเลบานอน จะทำให้ในอนาคตทาง GCC จะออกนโยบายคว่ำบาตรออกมาในอนาคต
กัล์ฟนิวส์รายงานต่อว่า GCC ที่มี 6 ประเทศสมาชิกหลักคือ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน คูเวต โอมาน และกาตาร์ ได้เคยออกนโยบายคว่ำบาตรฮิซบอลเลาะห์มาแล้วครั้งแรกสุดในปี 2013 เมื่อทางกลุ่มได้ส่งนักรบไปยังซีเรียเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด
โดยเลขาธิการทั่วไปของ GCC อัลดุล ลาติฟ อัล ซายานี (Abdul Latif Al Zay ani) ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “นับวันที่คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับจะเห็นการกระทำก่อการร้ายของฮิซบอลเลาะห์ในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเหตุสงครามซีเรีย เยเมน และอิรัก ที่ขัดกับความต้องการ และกฎหมายของประชาคมโลก รวมไปถึงการเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคอาหรับ”
นอกจากนี้ในแถลงการณ์นี้ อัล ยาซานียังชี้ว่าทาง GCC จะใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นออกมาซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการต่อต้านก่อการร้ายที่สอดคล้องกับกฎหมายนานาชาติ และภายใต้ข้อปฎิบัติของ GCC
สื่อตะวันออกกลางชี้ว่า อย่างไรก็ตาม เลขาธิการทั่วไป GCC ไม่ได้ระบุถึงมาตรการที่แน่ชัดในการลงมือปฎิบัติ แต่ทว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาทางซาอุดีอาระเบียได้ประกาศแบล็กลิสต์บริษัท 4 แห่ง และพลเมืองเลบานอน 3 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฮิซบอลเลาะห์
