เอเจนซีส์ – เตหะรานเดือด หลังถูกอเมริกาดัดหลัง รอให้ปล่อยตัวนักโทษเรียบร้อยจึงค่อยประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่จากกรณีการทดสอบขีปนาวุธเมื่อปลายปีที่แล้ว ทั้งที่อิหร่านเพิ่งเริงร่าที่มหาอำนาจโลกยุติมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจได้แค่วันเดียว
ฮุสเซน จาเบอร์ อันซารี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน แถลงในวันจันทร์ (18) ว่า โครงการขีปนาวุธของอิหร่านไม่ได้ออกแบบมาเพื่อติดอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด ดังนั้น มาตรการลงโทษครั้งล่าสุดจึงถือว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทว่า วอชิงตันกลับคิดคนละอย่าง โดยเมื่อวันอาทิตย์ (17) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ สั่งขึ้นบัญชีดำมาบรูกา เทรดดิ้ง กับเจ้าของคือ ฮุสเซน โพร์มาชแบนด์ ฐานช่วยอิหร่านผลิตคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับโครงการขีปนาวุธ นอกจากนั้น ยังมีบุคคลและบริษัทอื่น ๆ รวมทั้งหมด 11 แห่งที่ถูกลงโทษในครั้งนี้ โดยสถาบันการเงินและบริษัทต่าง ๆ ถูกห้ามไม่ให้ทำธุรกิจหรือเกี่ยวข้องกับบริษัทหรือบุคคลที่อยู่ในบัญชีดำของอเมริกา
รัฐบาลอิหร่านประณามคำสั่งคว่ำบาตรครั้งล่าสุดนี้ โดยระบุว่าเป็นคำสั่งที่ “ไม่ชอบธรรม” พร้อมประกาศจะเดินหน้าพัฒนาระบบป้องปรามทางทหารตามแบบแผนต่อไป
“สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะตอบโต้มาตรการยั่วยุและชวนเชื่อเช่นนี้ ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาโครงการขีปนาวุธถูกกฎหมายอย่างจริงจังยิ่งกว่าเก่า และยกระดับศักยภาพในการป้องกันประเทศ” ถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ยังตอกกลับวอชิงตันด้วยว่า อาวุธที่สหรัฐฯ ขายให้ชาติพันธมิตรในตะวันออกกลางเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละปี “ถูกนำไปใช้ก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์ เลบานอน และล่าสุด ก็คือ ชาวเยเมน”
“การที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรโครงการพัฒนาขีปนาวุธของอิหร่านจึงปราศจากความชอบธรรม ทั้งในด้านของศีลธรรมและกฎหมาย” เขากล่าว
หนังสือพิมพ์เคย์ฮาน และ วาตัน เอ เอ็มรูซ ซึ่งเป็นสื่อฮาร์ดไลน์ของอิหร่าน ได้ยกเรื่องบทลงโทษของสหรัฐฯ มาพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง กลบสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี ฮัสซัน รอฮานี ที่ประกาศยกย่องการยกเลิกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์ (17)
“คว่ำบาตรกลับมาแล้ว!” ข้อความพาดหัวของ เคย์ฮาน ระบุ พร้อมอ้างคำแถลงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ซึ่งเตือนว่าบทลงโทษใหม่ ๆ ที่บังคับใช้กับอิหร่านไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะถือว่าละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กับแหล่งข่าวในสภาคองเกรส เผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ชะลอการคว่ำบาตรนี้มานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเจรจาให้อิหร่านปล่อยตัวนักโทษอเมริกัน 5 คนตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษที่กำลังตึงเครียด
ทั้งนี้ การทดสอบขีปนาวุธนำวิถีความแม่นยำสูงที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ของอิหร่านเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ถือว่าละเมิดคำสั่งห้ามของสหประชาชาติ
โอบามาแถลงถ่ายทอดทางทีวีเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า ด้วยเหตุนี้อเมริกาจึงประกาศมาตรการลงโทษบุคคลและบริษัทที่ช่วยส่งเสริมโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งอเมริกาจะยังคงระแวดระวัง รวมทั้งจะไม่ลังเลในการปกป้องความมั่นคงของประเทศชาติและพันธมิตร
การประกาศนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากชาวอเมริกัน 3 คนที่ถูกอิหร่านกักขัง ซึ่งรวมถึง เจสัน เรซาเอียน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ขึ้นเครื่องบินของสวิตเซอร์แลนด์ออกจากอิหร่าน
ขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่า ตกลงยกเลิกการอายัดเงิน 400 ล้านดอลลาร์และดอกเบี้ย 1,300 ล้านดอลลาร์ของกองทุนของอิหร่านที่เตรียมไว้ซื้อยุทโธปกรณ์จากอเมริกาในช่วงก่อนการปฏิวัติอิหร่านปี 1979
แหล่งข่าววงในเผยว่า มาตรการคว่ำบาตรที่ประกาศเมื่อวันอาทิตย์เกือบทำให้ข้อตกลงแลกตัวนักโทษล่มเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน โดยในตอนแรกวอชิงตันตั้งใจประกาศมาตรการนี้ในวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา ทว่าขณะนั้น จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กำลังเจรจาเรื่องแลกตัวนักโทษกับอิหร่านอย่างเคร่งเครียด
นอกจากนั้น ไม่กี่วันก่อนที่จะมีการประกาศมาตรการลงโทษครั้งล่าสุด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ได้เตือนเคร์รีว่า หากวอชิงตันยังเดินหน้าประกาศแซงก์ชัน ข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษอาจเป็นโมฆะ
ด้วยเหตุนี้ คณะบริหารของโอบามาจึงตัดสินใจชะลอการประกาศแซงก์ชัน จนกระทั่งข้อตกลงการแลกเปลี่ยนนักโทษดังกล่าวลุล่วงลง จากนั้นจึงคว่ำบาตรอีกรอบ
อดัม ซูบิน รักษาการปลัดกระทรวงคลังฝ่ายข่าวกรองด้านการก่อการร้ายและการเงินของสหรัฐฯ กล่าวว่า มาตรการลงโทษล่าสุดแสดงให้เห็นว่า วอชิงตันจะยังคงลงโทษ หากเตหะรานละเมิดข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ที่ตกลงกับมหาอำนาจโลกและยูเอ็น
ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนนักโทษ ซึ่งทางอเมริกานั้นยอมยกเลิกข้อกล่าวหาหรือปล่อยตัวชาวอิหร่านอย่างน้อย 9 คนก่อนกำหนดมีขึ้นเมื่อวันเสาร์ วันเดียวกับที่อเมริกา และสหประชาชาติ (อียู) ยกเลิกมาตรการลงโทษอิหร่านอันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน