รอยเตอร์ - รัฐบาลอิหร่านออกมาประณามคำสั่งคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กรณีเตหะรานทดสอบขีปนาวุธเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว โดยระบุว่าเป็นคำสั่งที่ “ไม่ชอบธรรม” พร้อมประกาศจะเดินหน้าพัฒนาระบบป้องปรามทางทหารตามแบบแผน (conventional military deterrent) ต่อไป
เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) วอชิงตันได้ประกาศคว่ำบาตรบริษัทและพลเมืองอิหร่านที่มีส่วนสนับสนุนโครงการขีปนาวุธรวมทั้งสิ้น 11 ราย หลังยืดเวลามานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจาปล่อยตัวนักโทษชาวอเมริกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้
บทลงโทษล่าสุดยังมีขึ้น หลังจากที่ชาติมหาอำนาจของโลกได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านเมื่อวันเสาร์ (16) เพื่อตอบแทนที่เตหะรานปฏิบัติตามข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์
“สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านจะตอบโต้มาตรการยั่วยุและชวนเชื่อเช่นนี้ ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาโครงการขีปนาวุธถูกกฎหมายอย่างจริงจังยิ่งกว่าเก่า และยกระดับศักยภาพในการป้องกันประเทศ” ถ้อยแถลงจากกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุ
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้วเข้าข่ายละเมิดมติยูเอ็นที่ห้ามมิให้อิหร่านพัฒนาขีปนาวุธซึ่งสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ แต่ทางการอิหร่านก็อ้างว่า จรวดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้กับหัวรบตามแบบแผน (conventional) เท่านั้น
ฮอสเซน อันซารี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ยังตอกกลับวอชิงตันด้วยว่า อาวุธที่สหรัฐฯ ขายให้ชาติพันธมิตรในตะวันออกกลางเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละปี “ถูกนำไปใช้ก่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์ เลบานอน และล่าสุดก็คือชาวเยเมน”
“การที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรโครงการพัฒนาขีปนาวุธของอิหร่านจึงปราศจากความชอบธรรม ทั้งในด้านของศีลธรรมและกฎหมาย” เขากล่าว
หนังสือพิมพ์เคย์ฮาน และ วาตัน เอ เอ็มรูซ ซึ่งเป็นสื่อฮาร์ดไลน์ของอิหร่าน ได้ยกเรื่องบทลงโทษของสหรัฐฯ มาพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง กลบสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี ฮัสซัน รอฮานี ที่ประกาศยกย่องการยกเลิกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่านเมื่อวันอาทิตย์(17)
“คว่ำบาตรกลับมาแล้ว!” ข้อความพาดหัวของ เคย์ฮาน ระบุ พร้อมอ้างคำแถลงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ซึ่งเตือนว่าบทลงโทษใหม่ๆ ที่บังคับใช้กับอิหร่านไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะถือว่าละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์