เอเจนซีส์ - ลูกๆ ของ ลี กวนยู รัฐบุรุษผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ เปิดศึกสายเลือดเมื่อวันพุธ (14 มิ.ย.) โดยนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง ซึ่งเป็นบุตรคนหัวปี ถูกน้องชายและน้องสาวควงคู่ออกคำแถลงกล่าวหาว่าเขาละเมิดคำสั่งพ่อและใช้อำนาจโดยมิชอบ ด้านนายกฯโต้กลับว่า เสียใจที่น้องๆ เอาเรื่องในครอบครัวออกมาป่าวประกาศ พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ได้หวังอาศัยบารมีพ่อเพื่อปูทางส่งลูกชายของเขาเข้าสู่การเมือง
ลีกวนยู ผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่า เป็นผู้พลิกสิงคโปร์จากอดีตอาณานิคมอันยากจนของอังกฤษ ให้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มั่งคั่งและมีเสถียรภาพที่สุดของโลก
ขณะที่ ลีเซียนลุง บุตรชายคนโตของลี กวนยู ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศตั้งแต่ปี 2004 โดยเข้าคุมพรรคพีเพิลส์ แอ็กชัน ปาร์ตี (พีเอพี) ที่ผูกขาดการปกครองสิงคโปร์นับตั้งแต่แยกตัวจากอังกฤษในปี 1959
แต่เมื่อตอนบ่ายวันพุธ (14) ลี เซียนหยาง และ ลี เว่ยหลิง น้องชายและน้องสาวของลี เซียนลุง เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังจากเผยแพร่คำแถลงความยาว 6 หน้าทางออนไลน์ไปแล้วในช่วงเช้ามืดวันเดียวกันว่า พวกเขากังวลว่า สิงคโปร์ขาดระบบตรวจสอบและถ่วงดุลเพื่อป้องกันรัฐบาลใช้อำนาจโดยมิชอบ
คำแถลงทางออนไลน์ระบุว่า พวกเขารู้สึกว่า ถูกคุกคามจากการที่ลีเซียนลุงใช้ตำแหน่งและอิทธิพลในรัฐบาลและหน่วยงานรัฐบาลโดยมิชอบเพื่อสนับสนุนวาระส่วนตัว ลี เซียนหยางยังระบุว่าจะพาครอบครัวย้ายออกจากสิงคโปร์ในอนาคตอันใกล้
ลี เซียนหยางเป็นนักธุรกิจชั้นนำของประเทศ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสิงคโปร์
ในคำแถลงฉบับนี้ ความคับข้องใจหลักพุ่งเป้าไปที่บ้านของครอบครัว
คำแถลงระบุว่า ผู้อาวุโสลีที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อสองปีที่แล้ว เตือนไม่ให้มีการสร้างลัทธิบูชาบุคคลจากมรดกที่ตนทิ้งไว้ และแสดงความหวั่นเกรงว่า ถ้าไม่รื้อถอนบ้านแบบบังกาโลที่ตนและภรรยาอาศัยอยู่จนถึงบั้นปลายชีวิต จะมีการนำไปทำเป็นพิพิธภัณฑ์
สองพี่น้องตระกูลลีระบุว่า ลี เซียนลุงและภรรยา โฮชิง ที่ปัจจุบันเป็นประธานบริหารเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ บริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ขัดขืนคำสั่งของพ่อที่ต้องการให้รื้อบ้านเพราะหวังใช้เป็นเครื่องมือปูทางให้ ลี ฮองยี่ บุตรชายของพวกเขาเข้าสู่การเมือง
ลี ฮองยี่เคยทำงานเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของกูเกิลมาก่อน และจบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตส์ (เอ็มไอที) โดยขณะนี้ ลูกชายผู้นำสิงคโปร์ทำงานอยู่ในหน่วยงานเทคโลยีของรัฐบาล
ลี เซียนหยาง และลี เว่ยหลิง ยังบอกว่า สูญเสียความไว้ใจและความเชื่อมั่นต่อลีเซียนลุงทั้งในบทบาทพี่ชายและผู้นำประเทศ และรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากที่ถูกติดตามสอดส่องในประเทศของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ได้แสดงหลักฐานว่า รัฐบาลสิงคโปร์ใช้อำนาจโดยมิชอบกับพวกเขาอย่างไร และนี่ยังเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 15 เดือนที่ปัญหาในครอบครัวลีถูกนำมาขยายสู่สายตาประชาชน โดยในเดือนเมษายนปีที่แล้ว ลี เว่ยหลิงก็เคยกล่าวหานายกรัฐมนตรีใช้อำนาจโดยมิชอบ
ลี เซียนหยางให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีวิธีการมากมายในการส่งข้อความที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ ซึ่งเขาได้รับข้อความในลักษณะนั้นหลายครั้ง และย้ำว่า ไม่คิดจะทำอะไรแบบนี้ถ้าไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองถูกคุกคาม
ทางด้านผู้นำสิงคโปร์ที่อยู่ระหว่างพักผ่อนตากอากาศในต่างประเทศ แถลงโต้กลับทางเฟซบุ๊กว่า เสียใจที่น้องๆ นำเรื่องในครอบครัวออกมาตีแผ่แทนที่จะพูดคุยกันเอง และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้นทั้งหมด พร้อมกล่าวว่า เขาจะยังคงส่งเสริมคุณธรรมนิยมเป็นค่านิยมหลักในสังคมสิงคโปร์ต่อไป
ลี เซียนลุงสำทับว่า นับจากที่พ่อจากไปในเดือนมีนาคม 2015 ตนในฐานะบุตรชายคนโต พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อคลี่คลายปัญหาในหมู่พี่น้อง เพื่อแสดงความเคารพต่อบิดา และทิ้งท้ายว่า จะพิจารณาปัญหานี้อย่างละเอียดขึ้นเมื่อเดินทางกลับประเทศในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ลี เซียนลุง นำพรรคพีเอพีกวาดชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2015 หรือหกเดือนหลังการอสัญกรรมของบิดา ซึ่งทำให้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากเทการสนับสนุนให้ทายาทของผู้ก่อตั้งประเทศ
อย่างไรก็ดี แม้ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในการสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้สิงคโปร์ แต่ลีกวนยูถูกวิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า จำกัดเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน รวมถึงปิดปากสื่อ จำคุกศัตรูทางการเมือง และฟ้องร้องผู้วิจารณ์
เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อหลักของสิงคโปร์ส่วนใหญ่รายงานข่าวความขัดแย้งในตระกูลลี โดยชูประเด็นที่นายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของน้องๆ เป็นหลัก