เอเอฟพี - ญี่ปุ่นเริ่มปฏิบัติการล่าวาฬในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือในวันนี้ (14 มิ.ย.) ในความเคลื่อนที่จะสร้างความไม่พอใจให้แก่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์และผู้ที่เรียกร้องให้หยุดการล่านี้อย่างแน่นอน
เรือสามลำกำลังออกจากท่าเรือในภารกิจนาน 3 เดือนเพื่อจับวาฬมิงค์ 43 ตัว และวาฬเซย์ 134 ตัว อ้างจากรัฐบาล
ภารกิจใหม่นี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ (11) ญี่ปุ่นเริ่มการล่าวาฬชายฝั่งประจำปีตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกทางตอนเหนือ โดยตั้งมีเป้าหมายที่จะจับวาฬมิงค์ 47 ตัวจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
ญี่ปุ่นเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการล่าวาฬของคณะกรรมาธิการล่าวาฬระหว่างประเทศ แต่ใช้ช่องโหว่ในข้อตกลงชั่วคราวนี้ที่อนุญาตให้มีการล่าเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
โตเกียวอ้างว่า พวกเขากำลังพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าประชากรวาฬมีมากพอที่จะปล่อยให้มีการล่าเชิงพาณิชย์หาแหล่งอาหารดั้งเดิมนี้ต่อไปได้
แรงกดดันต่อญี่ปุ่นจากต่างชาติให้ยุติการล่าวาฬทำให้กลุ่มอนุรักษนิยมและนักการเมืองแข็งกร้าวมากขึ้น และทำให้มันเป็นประเด็นอ่อนไหวสำหรับการทูตที่เป็นมิตรของญี่ปุ่น
ความต้องการบริโภคเนื้อวาฬของชาวญี่ปุ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปี ทำให้เกิดคำถามว่าภารกิจการล่าวาฬยังคงมีความสมเหตุสมผลทางเศรษฐกิจอยู่หรือไม่
เมื่อปี 2014 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศขององค์การสหประชาชาติ (ไอซีเจ) มีคำสั่งให้โตเกียวยุติการล่าดังกล่าวในน่านน้ำแอนตาร์กติก และระบุว่า โครงการนี้ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ตามปรกติ
ญี่ปุ่นยกเลิกการล่าในปี 2014-2015 และรื้อฟื้นมันขึ้นมาใหม่ในปีถัดมาภายใต้โครงการใหม่ โดยระบุว่า โครงการใหม่นี้เป็นวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง
การล่าวาฬในแอนตาร์กติกทำให้ได้เห็นการปะทะกันในทะเลหลวงระหว่างนักล่าวาฬชาวญี่ปุ่นและนักเคลื่อนไหวด้านสัตว์