เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่เยอรมนีเปิดเผยในวันพุธ (14 มิ.ย.) ระบุชายวัย 37 ปีที่ถูกกล่าวหาว่ายิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีรถไฟใต้ดินในมิวนิก อาศัยอยู่กับพ่อในโคโลราโด ส่วนตอนก่อเหตุนั้นกำลังท่องเที่ยวทริปยุโรป
ฮูเบียทุส อันเดร ผู้บังคับการตำรวจมิวนิก บอกนักข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกระบุว่าเป็นพลเมืองเยอรมนีที่เกิดในบาวาเรีย ได้บินจากเอเธนส์มาที่มิวนิกเมื่อวันจันทร์ โดยได้หลับนอนอยู่ที่สนามบินทั้งคืน
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกตำรวจว่า ชายคนนั้นขึ้นรถไฟใต้ดินมุ่งหน้าเข้าเมืองเมื่อวันอังคาร และยังคุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษด้วย จากนั้นจู่ๆ เขาก็เริ่มชกต่อยคนอื่นที่ใบหน้า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสุ่มเลือก
อันเดรบอกว่า ตำรวจได้รับแจ้งเหตุนี้ พอผู้ต้องสงสัยออกจากรถไฟที่สถานีแห่งหนึ่ง ตำรวจ 2 นายก็ได้เข้าไปสอบถามเขา กล้องวงจรปิดแสดงภาพให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่นายหนึ่งกำลังถือแผ่นกระดาษและใช้ปากกาจดอะไรบางอย่าง แล้วทันใดนั้นผู้ต้องสงสัยก็ผลักเจ้าหน้าที่ไปทางรถไฟที่กำลังเข้าเทียบสถานี จากนั้นผู้ต้องสงสัยได้ชิงปืนของเจ้าหน้าที่ แล้วเอามายิงจนหมดแม็กกาซีน เจ้าหน้าที่คนที่โดนแย่งปืนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าหน้าที่อีกคนโดนยิงเข้าที่ศีรษะ คนที่ยืนอยู่แถวนั้นได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย
เจ้าหน้าที่คนที่โดนยิงได้ยิงสวนไป โดนเข้าที่ก้นของคนร้าย และถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังหลบหนีออกจากสถานีได้ แต่ก็ไปจนมุมโดนจับได้ที่นอกสถานี เพราะมีเจ้าหน้าที่คนอื่นตามมาสมทบที่จุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่คนที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และยังคงอยู่ในสภาพที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนที่โดนลูกหลงจนบาดเจ็บบริเวณที่เกิดเหตุนั้นได้รับการรักษาจนอาการคงที่แล้ว
อันเดรบอกว่า ตำรวจได้ติดต่อไปหาพ่อของผู้ต้องสงสัยที่ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาแล้ว ดูเหมือนผู้ต้องสงสัยจะมีประวัติอาชญากรอยู่ที่นั่นด้วย
แม้จะไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่แหล่งข่าวที่เป็นตำรวจเยอรมนีได้ยืนยันเรื่องที่สื่อเมืองเบียร์รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้ชื่อ อเล็กซานเดอร์ และเคยใช้ชีวิตอยู่ในรัฐโคโลราโด หนังสือพิมพ์บิลไซตุ้งยังรายงานด้วยว่า ที่พักอาศัยในรัฐดังกล่าวของคนร้าย อยู่ที่เมือง “ฟอร์ต คอลลินส์” แต่แหล่งข่าวไม่อาจยืนยันได้ในเรื่องนี้
นอกจากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ประมาณ 200 คน ตำรวจยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกหลายมุมมอง เพื่อนำมาทำความเข้าใจว่าเหตุร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไร และจนถึงตอนนี้คนร้ายก็ยังปฏิเสธที่จะพูดคุยกับตำรวจ