ซีเอ็นบีซี - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านในวันพฤหัสบดี (8 มิ.ย.) ปฏิเสธถ้อยแถลงแสดงความเสียใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุเป็นคำพูดที่น่ารังเกียจ หลังผู้นำอเมริกาบอกว่ามันเป็นผลจากการสนับสนุนพวกก่อการร้าย
ในถ้อยแถลงแสดงความเสียใจ ทรัมป์บอกว่าเขาขออธิษฐานให้กับเหยื่อจากเหตุโจมตีดังกล่าว แต่บอกว่าบรรดารัฐที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายกำลังกลายเป็นเหยื่อของกลุ่มก่อการร้ายที่ตนเองให้การสนับสนุน
“เราขอแสดงความเสียใจและสวดมนต์ให้แก่เหยื่อผู้บริสุทธิ์ในเหตุโจมตีก่อการร้ายที่อิหร่าน ตลอดจนชาวอิหร่านทุกคนซึ่งกำลังเผชิญห้วงเวลาที่ยากลำบาก” ทรัมป์ ระบุในถ้อยแถลง “เราขอย้ำว่า รัฐใดก็ตามที่ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายย่อมเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อความเลวทรามที่พวกเขาส่งเสริมเสียเอง"
โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนจตรีต่างประเทศอิหร่าน เขียนลงบนทวิตเตอร์ตอบโต้ว่า "ถ้อยแถลงที่น่ารังเกียจจากทำเนียบขาว ประชาชนชาวอิหร่านปฏิเสธคำกล่าวอ้างความเป็นมิตรของสหรัฐฯ
มีประชาชนเสียชีวิต 13 รายและบาดเจ็บมากกว่า 40 คน ในเหตุโจมตีที่ทำการรัฐสภาของอิหร่านและสุสานของอยาตอลเลาะห์ คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่าน เมื่อวันพุธ (8 มิ.ย.) เหตุโจมตีในอิหร่านหนแรกที่พวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบ
ทรัมป์ กล่าวหา อิหร่าน มาช้านานว่าสนับสนุนก่อการร้ายและขู่ฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ระหว่างเตหะรานกับชาติมหาอำนาจ
แม้ว่าวอชิงตันจะแถลงแสดงความเสียใจ แต่อีกด้านหนึ่งทางวุฒิสภาสหรัฐฯก็เดินหน้าออกกฎหมายที่จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่ออิหร่าน โดยส่วนหนึ่งมาจากคำกล่าวหาว่ารัฐบาลเตหะรานสนับสนุนความเคลื่อนไหวต่างๆของพวกก่อการร้ายระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของอิหร่านตอบโต้ว่า ซาอุดีอาระเบีย คู่ปรับของพวกเขาในภูมิภาคและพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้เงินทุนสนับสนุนและแผ่กระจายลิทธิหัวรุนแรงที่เป็นรากฐานของไอเอส
ขณะเดียวกันกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่านได้กล่าวหาริยาดและวอชิงตัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีเมื่อวันพุธ (7 มิ.ย.) และประกาศแก้แค้น
ความเห็นของทรัมป์ ยังเรียกเสียงประณามจากชาวอิหร่านบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยนำมันไปเปรียบเทียบกับกรณีที่รัฐบาลของพวกเขามอบความสนับสนุนและร่วมจุดเทียนไว้อาลัยในอิหร่าน หลังเหตุวินาศกรรม 9/11
กระทรวงข่าวกรองของอิหร่านเปิดเผยว่าชาย 5 คนที่ลงมือโจมตีในเตหะราน เป็นชาวอิหร่านที่เคยเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย และเดินทางกลับประเทศเมื่อฤดูร้อนปีก่อน ถ้อยแถลงนี้บ่งชี้ว่ามีผู้ร่วมลงมือโจมตี 2 จุด ทั้งหมด 5 คน จากเดิมที่เชื่อกันว่าน่าจะมี 6 คน