รอยเตอร์ - มือปืนรายหนึ่งบุกเข้าไปในกาสิโนของรีสอร์ต เวิลด์ มะนิลา ในเมืองหลวงฟิลิปปินส์ช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (2 มิ.ย.) ก่อนปิดฉากยิงและจุดไฟเผาโต๊ะเล่นพนัน ก่อความตื่นตระหนกในประเทศที่อยู่ในความเฝ้าระวังขั้นสูง ตามหลังการประกาศกฎอัยการศึกทางภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจเชื่อว่าแรงจูงใจของการก่อเหตุน่าจะเป็นแค่การปล้นและไม่ใช่ปฏิบัติการก่อการร้ายตามที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กล่าวอ้าง
โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติบอกกับสถานีวิทยุ DZMM มือปืนซึ่งก่อเหตุเพียงลำพัง ไม่ได้เล็งปืนไรเฟิลจู่โจมเข้าใส่ผู้คนที่สถานบันเทิงครบวงจร รีสอร์ต เวิลด์ มะนิลา และบางทีอาจพยายามปล้นชิปแลกเงินของกาสิโน
เสียงปืนและเสียงปึงปังดังขึ้นไม่นานหลังเที่ยงคืน (ตามเวลาท้องถิ่น) ภายในอาคารของสถาบันเทิงครบวงจรที่อยู่ติดกับอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาตินินอย อากีโน และฐานทัพอากาศแห่งหนึ่ง กระพือความกังวลว่าอาจเป็นเหตุนักรบโจมตี
เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์บอกว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 25 ราย บางคนอาการสาหัส ในระหว่างที่พวกเขาเร่งรีบหลบหนี “อย่าตื่นตระหนก มันไม่ควรเป็นสาเหตุของความตื่นกลัว เราไม่เชื่อว่ามันเป็นก่อการร้าย” เดลา โรซากล่าว “เรากำลังเพ่งเล็งไปที่แง่มุมของการปล้น เพราะว่าเขาไม่ได้ทำร้ายคนอื่นๆ และพุ่งตรงไปที่ห้องเก็บชิพของกาสิโน เขาจอดรถที่ชั้น 2 และพุ่งเข้ามาในกาสิโน ยิงเข้าใส่จอทีวีขนาดยักษ์และราดน้ำมันเบนซินบนโต๊ะพนัน ก่อนจุดไฟเผา”
ผู้บัญชาการตำรวจรายนี้เผยว่า ตำรวจกำลังปฏิบัติการค้นหามือปืนรายดังกล่าวซึ่งมีลักษณะเป็นชาวต่างชาติ ชาวคอเคเซียน สูงราวๆ 6 ฟุต แต่ผู้ต้องสงสัยอาจหลบหนีไปแล้ว เพราะว่ากลุ่มควันบดบังกล้องวงจรปิด
รอยเตอร์อ้างผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า ตำรวจเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับสถานบันเทิงครบวงจร ขณะที่วิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ก่อนหน้านี้พบเห็นประชาชนกำลังหลบหนี ท่ามกลางเสียงปึงปังดังขึ้นหลายครั้ง
เจมี แอนน์ ซานติอาโก ซึ่งทำงานอยู่ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลซาน ฮวน เด ดิออส ที่อยู่ติดกับสถานที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งมารักษาตัวที่นี่ 13 คน แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บคนอื่นๆ กำลังถูกลำเลียงมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดมีอาการได้รับผลกระทบจากการสูดควันเข้าไปและบางส่วนได้รับบาดเจ็บมือไม้หัก แต่ไม่มีใครถูกยิง
ฟิลิปปินส์อยู่ในการเฝ้าระวังขึ้นสูงท่ามกลางวิกฤตความไม่สงบทางภาคใต้ของประเทศ ดินแดนที่ทหารกำลังสู้รบกับกบฏอิสลามิสต์ ซึ่งประกาศสวามิภักิด์ต่อไอเอส ที่บุกยึดเมืองมาราวี มาตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ต้องประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯกล่าวว่าวอชิงตันกำลังจับตาสถานการณ์ในฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด ขณะที่สถาทูตอเมริกาในมะนิลาออกประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐฯ ให้อยู่ในความระมัดระวังและทบทวนความปลอดภัยของตนเอง
ในขณะที่เหตุระทึกยังไม่คลี่คลาย พบเห็นรถกระบะตำรวจหลายสิบคัน รถตู้ของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษและยานยนต์หุ้มเกราะจำนวนหนึ่งจอดเรียงแถวตามท้องถนนสายต่างๆ ใกล้สถานบันเทิงครบวงจรที่มีทั้งโรงแรม กาสิโน และห้างสรรพสินค้า
พนักงานกาสิโนรายหนึ่งที่อยู่บนชั้น 3 ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ DZM ว่าเขาได้ยินเสียงปืนหลายนัดและเห็นผู้คนวิ่งขึ้นบันไดมาจากชั้น 2 ส่วน โรนัลด์ โรมูอัลโด พนักงานซ่อมบำรุงของรีสอร์ต เวิลด์ เผยว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งร่วงมาจากชั้นบนขณะพยายามหลบหนี “มีหลายคนได้รับบาดเจ็บ” เขากล่าว
กลุ่มจับตาความเคลื่อนไหวพวกญิฮาด ในนาม SITE Intelligence เผยว่าพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ โดยบอกว่าเหล่าทหารหมาป่าเดียวดาย (lone wolf) ของทางกลุ่มเป็นผู้ลงมือโจมตี
อย่างไรก็ตาม ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ตั้งข้อสังเกตว่าการออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบของพวกไอเอสต่อเหตุการณ์นี้ อาจมีจุดประสงค์เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต เคยพูดก่อนหน้านี้ เขาเกรงว่าอุดมการณ์ของไอเอสจะแผ่ขยายในมินดาเนา เกาะที่มีประชากร 22 ล้านคน และเตือนว่าดินแดนแห่งนี้อาจกลายเป็นแหล่งหลบซ่อนตัวของพวกผู้สนับสนุนไอเอสที่หลบหนีมาจากอิรักและซีเรีย
