xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านปินส์หลายหมื่นผวาอพยพหนีตาย หลังกลุ่มสมุน IS อาละวาดยึดเมืองมาราวี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ทหารจากกองทัพฟิลิปปินส์ยืนเฝ้าระวังระหว่างดำเนินการตรวจค้นยานพาหนะที่กำลังอพยพชาวบ้านออกจากเมืองมาราวี ทางภาคใต้ของประเทศในวันพุธ(24พ.ค.) หลังจากกลุ่มอิสลามิสต์ติดอาวุธที่ภักดีต่อ “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ก่อเหตุอาละวาดทั่วเมือง
รอยเตอร์ - ชาวบ้านหลายหมื่นคนต้องอพยพหลบหนีการสู้รบในฟิลิปปินส์ในวันพุธ (24 พ.ค.) ขณะที่ทหารพยายามขับไล่พวกนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่เข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง จับตัวประกันชาวคริสเตียน บุกยึดและจุดไฟเผาอาคารต่างๆ รวมถึงปล่อยนักโทษจำนวนมาก

กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุอาละวาดครั้งนี้ผ่านสำนักข่าวอามัก เครือข่ายประชาสัมพันธ์ของพวกเขา และประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ปกป้องการตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองมาราวี เพื่อป้องกันการแผ่ขยายของพวกหัวรุนแรง

ความรุนแรงปะทุขึ้นในมาลาวีเมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร (23 พ.ค.) หลังกองกำลังด้านความมั่นคงจู่โจมแหล่งกบดานของกลุ่มมาอูเต ซึ่งประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส จากนั้นพวกนักรบก็กระจายตัวกันอย่างรวดเร็ว ไปเผาตึก ยึดสะพาน โรงพยาบาล เรือนจำ โบสถ์ และวิทยาลัย ขณะที่ ดูเตอร์เต ยอมรับได้รับรายงานว่าบางทีพวกหัวรุนแรงอาจตัดศีรษะผู้บัญชาการตำรวจนายหนึ่ง

ประธานาธิบดีรายนี้บอกว่า พวกไอเอสต้องถูกขับไล่พ้นไปจากฟิลิปปินส์ ซึ่งมีชาวคริสต์เป็นชนกลุ่มใหญ่และเขาจะใช้ทุกวิถีทางเท่าที่มีกำราบกลุ่มมาอูเต และอาบู ไซยาฟ ไม่ว่าจะเกิดผลลัพธ์อะไรตามมา

ทหารและกองโจรต่างก็ตั้งด่านตรวจและปิดกั้นถนนในเส้นทางทั้งในและรอบๆ เมืองมาราวี ในขณะที่ชาวบ้านหลายหมื่นคนของเมืองที่มีประชากร 200,000 คนขึ้นรถอพยพหลบหนี ทำให้เมืองแห่งนี้แทบกลายสภาพเป็นดินแดนร้าง

รถกระบะและรถบรรทุกซึ่งอัดแน่นไปด้วยผู้คนและข้าวของต่างๆ ต่อแถวยาวเหยียดค่อยๆ คืบคลานไปตามท้องถนนมุ่งหน้าสู่เมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง โดยระหว่างนั้นทหารที่ประจำการ ณ จุดตรวจ ก็จะดำเนินการตรวจหาอาวุธและระเบิด

กองทัพเผยว่าสามารถช่วยเหลือประชาชน 120 คนจากโรงเรียนและโรงพยาบาล และกำลังพยายามหาจุดซ่อนตัวของพวกนักรบมาอูเต ระหว่างที่รอกำลังเสริมที่เข้ามาล่าช้าเนื่องจากถูกพวกกบฏขัดขวาง

พลซุ่มยิงของมาอูเตและทุ่นระเบิดเป็นอุปสรรคขัดขวางปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ทำให้ทางกองทัพคาดหมายว่าสถานการณ์อาจยืดเยื้อไปอีกอย่างน้อยๆ 3 วัน

โบสถ์คาทอลิกเปิดเผยว่าพวกนักรบใช้ชาวคริสต์และบาทหลวงรายหนึ่งเป็นโล่มนุษย์ และข่มขู่ผ่านเหล่าคาร์ดินัลว่าจะประหารตัวประกันจนกว่ากองกำลังของรัฐบาลจะถอนทัพออกไป

กองทัพเผยว่าจนถึงตอนนี้มีนักรบ 13 คนและสมาชิกกองกำลังด้านความมั่นคง 7 นาย เสียชีวิตในเหตุปะทะ และมีทหารได้รับบาดเจ็บ 33 นาย ส่วน มูจิฟ ฮาตามัน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองมินดาเนา เผยว่าพวกนักรบปล่อยตัวนักโทษ 107 คน ในนั้นเป็นสมาชิกกบฏมาอูเต

ดูเตอร์เต ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลานาน 60 วันในมินดาเนา ตั้งแต่เมื่อคืนวันอังคาร (23) หลังจากกลุ่มนักรบติดอาวุธที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส ออกก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่ในวันเดียวกัน

ดูเตอร์เต พูดถึงกฎอัยการศึกเวอร์ชันของเขาเองว่า หมายถึงกองกำลังความมั่นคงสามารถที่จะเข้าตรวจคนและจับกุมประชาชนได้โดยไม่ต้องมีหมายจับ พร้อมขู่ว่าจะบังคับใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่บนเกาะมินดาเนาเท่านั้น

เขาบอกด้วยว่าจะมีการประกาศเคอร์ฟิวส์ หรือการห้ามประชาชนออกนอกบ้านในบางช่วงเวลา ในบางจังหวัดของเกาะมินดาเนา ขณะที่ดูเตอร์เตกล่าวไว้ในคลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่ทางออนไลน์โดยรัฐบาลว่า อาจขยายเวลาใช้กฎอัยการศึกในมินดาเนาออกไปเป็น 1 ปีหากจำเป็น

ทางกองทัพไม่ได้ชี้แจงว่าเหตุใดปฏิบัติการจู่โจมอพาร์ตเมนต์ที่ซ่อนตัวแห่งหนึ่งถึงออกมาผิดพลาดจนสถานการณ์ลุกลามบายปลาย โดยปฏิบัติการดังกล่าวมีเป้าหมายจับกุม อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มอาบูไซยาฟ และไอเอสสาขาฟิลิปปินส์

กองทัพอ้างว่าพวกเขาเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ แต่พวกชาวบ้านที่หลบหนีกลับพูดอีกแบบ “เมืองยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มติดอาวุธ พวกเขาควบคุมถนนสายหลักๆและสะพาน 2 แห่งที่มุ่งสู่มาราวี” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น