รอยเตอร์ - แผนการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ในอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลมอาจถูกชะลอไปอีก 6 เดือน ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่อเมริกันและแหล่งข่าวการทูตเผยเมื่อวันพุธ (31 พ.ค.)
ขณะที่กำหนดเส้นตายในการตัดสินใจเริ่มใกล้เข้ามา แหล่งข่าวใกล้ชิดยืนยันว่า ทรัมป์ น่าจะยังยึดนโยบายเดียวกับผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนๆ ที่สั่งเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายปี 1995 ที่กำหนดให้มีการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปยังนครเยรูซาเลม ต่อไปอีก 6 เดือน
แหล่งข่าวชี้ว่า หากสหรัฐฯ ย้ายสถานทูตไปที่เยรูซาเลมก็จะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นฟูแผนเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
กฎหมายกำหนดให้ผู้นำสหรัฐฯ ต้องประกาศการตัดสินใจภายในวันศุกร์นี้ (2 มิ.ย.) ซึ่งเจ้าหน้าที่อเมริกันก็เชื่อว่า ทรัมป์ คงจะเลือกคงนโยบายเดิมของสหรัฐฯ ไว้มากกว่าจะสร้าง “เซอร์ไพรส์” ในนาทีสุดท้าย ขณะเดียวกันทำเนียบขาวก็คงจะยืนยันเจตนารมณ์ของ ทรัมป์ ที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้เมื่อช่วงก่อนเลือกตั้ง แต่จะไม่กำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามกับ ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวว่า ทรัมป์ จะเซ็นคำสั่งเลื่อนการย้ายสถานทูตออกไปอีกหรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบแค่ว่า “ถ้ามีการตัดสินใจเมื่อไหร่ เราจะแจ้งให้ทราบ”
แม้ผู้ช่วยของ ทรัมป์ จะมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นว่าสหรัฐฯ ควรที่จะตั้งสถานทูตในกรุงเทลอาวีฟต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยงความบาดหมางกับปาเลสไตน์, รัฐบาลชาติอาหรับ และพันธมิตรตะวันตก และยังจะเป็นผลดีต่อการเจรจาสันติภาพอีกด้วย
ทรัมป์ เลี่ยงที่จะพูดถึงแผนการย้ายสถานทูตขณะไปเยือนอิสราเอลและเขตเวสต์แบงก์เมื่อเดือน พ.ค. แต่ถึงกระนั้นผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อฝีมือ ทรัมป์ ว่าจะสามารถผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างยิวและปาเลสไตน์ได้สำเร็จ ในขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนๆ ยังทำไม่ได้
อิสราเอลได้เข้ายึดเยรูซาเลมฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นย่านคนอาหรับระหว่างสงคราม 6 วันเมื่อปี 1967 และได้ประกาศในปี 1980 ว่าพื้นที่เยรูซาเลมทั้งหมดถือเป็นเมืองหลวงหนึ่งเดียวของอิสราเอล
นครเยรูซาเลมเป็นที่ตั้งศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ใน 3 ศาสนา ได้แก่ ยูดาย อิสลาม และคริสต์ ซึ่งชาวปาเลสไตน์ก็ปรารถนาที่จะได้เยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ที่จะก่อตั้งขึ้นในอนาคต
รัฐบาลสหรัฐฯ ทุกชุดที่ผ่านมา รวมถึงสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ส่วนใหญ่ ยังไม่รับรองการผนวกนครแห่งนี้ และถือว่าสถานะสุดท้ายของเยรูซาเลมเป็นสิ่งที่จะต้องตกลงกันผ่านกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างชาวยิวและชาวปาเลสไตน์
อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้เซ็นคำสั่งชะลอการย้ายสถานทูตไปเมื่อเดือน ธ.ค. ซึ่งทำให้ ทรัมป์ มีเวลา 6 เดือนที่จะพิจารณาเรื่องนี้
ล่าสุด ซีเอ็นเอ็นเป็นสื่อเจ้าแรกที่ออกมาเผยว่า ทรัมป์ จะตัดสินใจเลื่อนกำหนดการย้ายสถานทูตออกไปอีก 6 เดือนเช่นเดิม
ทรัมป์ เริ่มผ่อนจุดยืนเรื่องการย้ายสถานทูตไปยังนครเยรูซาเลมหลังจากสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อเดือน ม.ค. และได้พบปะกับเหล่าผู้นำชาติอาหรับซึ่งเตือนว่า การบรรลุซึ่งสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์จะเป็นเรื่องยากมาก หากสหรัฐฯ ไม่ทำตัวเป็นคนกลางที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง