เอเจนซีส์/เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGR ออนไลน์ - ล่าสุดพบพลเรือนสหรัฐฯ บาดเจ็บ 11 คน แรงระเบิดสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานทูตสหรัฐฯ ชาวอัฟกัน 11 นาย โจมตีย่านสถานทูตต่างชาติกลางกรุงคาบูลวันพุธ (31 พ.ค.) กระทรวงมหาดไทยอัฟกานิสถานยืนยันวันนี้(1 มิ.ย)เสียชีวิตรวม 80 ราย บาดเจ็บอีก 463 ราย ประชาชนอัฟกันประจาน มีมหาดไทย-ตำรวจประเภทไหนปล่อยให้รถถังปฏิกูลอัดระเบิดหนัก 1,500 กก.เข้าใจกลางย่านสถานทูตต่างชาติ หน่วยข่าวกรองอัฟกันชี้เป็นฝีมือเครือข่ายฮัคคานีใกล้ชิดตอลิบาน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (1 มิ.ย.) ว่า ตัวเลขล่าสุดพบพลเมืองสหรัฐฯ ที่ทำงานในฐานะคอนแทรกเตอร์ในกรุงคาบูลได้รับบาดเจ็บ 11 ราย และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอัฟกัน 11 นายที่ทำงานให้กับสถานทูตเสียชีวิต ทั้งนี้ก่อนหน้านี้่ CBS NEWS สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ว่า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานทูตเสียชีวิต 9 ราย และสูญหาย 1 ราย ส่วนพลเมืองสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ 11 ราย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ออกมาประณามเหตุโจมตีครั้งร้ายแรง พร้อมกับแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวเหยื่อที่สูญเสีย และขอให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหายป่วยโดยไว
“ในโฉมหน้าแห่งการกระทำที่ไร้เหตุผล และขี้ขลาด พันธสัญญาของสหรัฐฯ ต่ออัฟากานิสถานนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง อเมริกาขอยืนเคียงข้างกับรัฐบาลอัฟกันและประชาชนอัฟกัน และจะยังคงสนับสนุนในความพยายามที่จะมีสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งของประเทศอัฟกานิสถาน”
นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ต่อสายพูดคุยกับประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน อัชราฟ กานี
สื่อสหรัฐฯ ชี้ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศความรับผิดชอบ แต่ทว่ากลุ่มก่อการร้ายตอลีบานออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยส่งแถลงการณ์ไปยังสำนักข่าวต่างๆ ซึ่งในแถลงการณ์ ทางกลุ่มยังประณามต่อการโจมตีที่มีเป้าหมายเป็นชีวิตพลเรือน
ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้นผู้ลงมือเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาเร่งรีบบนท้องถนนที่มีนักขับขี่และผู้โดยสารจำนวนมากอยู่อย่างคับคั่ง
หลังเกิดเหตุ สถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์อออกคำเตือนไปยังพลเรือนสหรัฐฯให้หลีกเลี่ยงเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ พร้อมได้ยกเลิกการให้บริการสถานทูตตลอดทั้งวัน ในขณะที่ ณอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ในการสรุปข่าวประจำวันระบุว่า สถานทูตสหรัฐฯประจำอัฟกานิสถานจะให้การสนับสนุน และจะนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ
โดยเอเอฟพีรายงานว่า ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.) หน่วยงานข่าวกรองอัฟกานิสถานออกมาระบุว่า เชื่อว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังคือ เครือข่ายฮัคคานี(Haqqani Network)ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มก่อการร้ายตอลิบาน
แรงระเบิดจำนวน 1,500 กก. ภายในตัวแท็งก์ของรถส้วมดูดปฎิกูลมีอำนาจร้ายแรง ที่พบว่า อ้างอิงจากการรายงานของสื่อ RFE/RL ว่า สามารถทำให้เกิดหลุมลึกขนาด 4 เมตร บริเวณด้านหน้าสถาทูตเยอรมัน และทำให้หน้าต่างของอาคารปลิวไปไกลร่วม 2 กม.
ระเบิดครั้งร้ายแรงเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) สร้างความโกรธแค้นให้กับประชาชนอัฟกันจำนวนมาก โดยต่างตั้งคำถามว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีอัชราฟ กานีป ล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยหนึ่งในประชาชนชาวอัฟกันที่อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดกล่าวว่า “เห็นแก่พระเจ้าเถอะ เรามีรัฐมนตรีมหาดไทยประเภทไหน และบรรดาผู้บัญชาการตำรวจอัฟกานิสถาน ที่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้น” และกล่าวต่อว่า “ปล่อยให้กลุ่มติดอาวุธเข้ามาได้ถึงใจกลางกรุง และยังสามารถทำการโจมตีด้วยระเบิดได้อีกด้วย!!”
ในขณะที่อีกรายกล่าวด้วยโทสะว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างนั่งภายในสำนักงานด้วยความปลอดภัย และไม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” พร้อมกล่าวต่อว่า “แล้วจะให้พวกเราชาวอัฟกันต้องทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ จะหนีออกไปจากประเทศนี้ หรือจะผูกระเบิดเข้ากับตัวเอง และกดให้มันตายไปเลย”
ซึ่งสื่อ RFE/RL รายงานว่า หลายคนต่างสงสัยว่า เหตุใดรถดูดปฎิกูลที่มีระเบิดจำนวนมหาศาลอยู่ด้านในจึงสามารถหลุดรอดเข้ามาด้านในถึงเขตเซฟตีโซนของเมืองหลวงอัฟกานิสถานได้
นอกจากนี้ ในวันพุธ (31 พ.ค.) ยังมีรายงานว่า ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีนักข่าวและเจ้าหน้าที่ขับรถของสื่ออังกฤษ บีบีซี รวมอยู่ในนั้น
โดยสื่อดิอินดีเพนเดนต์ชี้ว่า ทีมนักข่าว 4 คนของบีบีซีและเจ้าหน้าที่นักขับชาวอัฟกัน โมฮัมเหม็ด นาเซอร์ (Mohammed Nazir) ติดอยู่ในเหตุการณ์ระเบิดเช่นกัน
พบว่านาเซอร์เสียชีวิต ส่วนนักข่าวบีบีซี 4 คนที่เดินทางมาด้วยกันได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงขั้นชีวิต
โดยในแถลงการณ์ของบีบีซี ได้กล่าวไว้อาลัยโมอัมเหม็ด นาเซอร์ว่า “เราสูญเสียเพื่อนร่วมงานที่ดีไปหนึ่งคนในวันนี้ นาเซอร์เป็นเจ้าหน้าที่นักขับที่ทำงานอย่างหนัก เป็นคนที่อ่อนโยนและมีวิญญาณที่ประเสริฐ และเพื่อนร่วมงานอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ”
ทั้งนี้รายงานยังพบว่า นักข่าวที่ทำงานให้กับสื่อท้องถิ่นอัฟกานิสถาน โตโตนิวส์(Tolo news)อย่างน้อย 1 รายได้รับการยืนยันว่า เสียชีวิต
นอกจากนี้ดิอินดีเพนเดนต์รายงานต่อว่า แหล่งข่าวเยอรมันได้ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอัฟกันประจำสถานทูตเยอรมัน 1 นายเสียชีวิต และมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตอีกจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ
กระทรวงมหาดไทยเยอรมันแถลงเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ว่า หลังเหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นในกรุงคาบูล ทำให้กระบวนการเนรเทศผู้อพยพชาวอัฟกันซึ่งได้รับการปฏิเสธให้ลี้ภัยในเยอรมีน ต้องถูกระงับชั่วคราวในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้ ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย.) รอยเตอร์รายงานว่า ในวันพฤหัสบดี (1) ทางการอัฟกานิสถานจัดให้มีการไว้อาลัยต่อผู้สูญเสียและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทยอัฟกานิสถานแถลงยืนยันในวันนี้ ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 80 ราย และยอดผู้ได้รับบาดเจ็บ 463 ราย