รอยเตอร์ – ทรัมป์ทวิตเรียกร้องสภารับฟังคำให้การของอดีตที่ปรึกษาของตนเอง เพื่อหักล้างคำแถลงของอดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอและซีไอเอ พร้อมกล่าวหาบุคคลทั้งสองให้การเท็จ ด้านสมาชิกรีพับลิกันเริ่มหมดความอดทน วอนทรัมป์เพลามือและทวิตอย่าง “ฉลาดขึ้น” รวมทั้งขอให้กลับไปสนใจงานบริหารประเทศแทน ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า โคมีย์เตรียมไปให้การยืนยันกับคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาว่า ประมุขทำเนียบขาวเคยขอให้ยุติการสอบสวนอดีตลิ่วล้อที่แอบติดต่อกับรัสเซียจริง
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีไม่ใยดีต่อการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ตลอดจนคณะกรรมาธิการหลายชุดในรัฐสภา เกี่ยวกับการแทรกแซงของรัสเซียต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงปลายปีที่แล้ว และความเป็นไปได้ที่อาจมีการสมรู้ร่วมคิดกับทีมหาเสียงของตนเอง
แต่เมื่อเช้าวันพุธ (31 พ.ค.) ทรัมป์กลับเขียนข้อความทางทวิตเตอร์ อ้างอิงจดหมายของ "คาร์เตอร์ เพจ" อดีตที่ปรึกษาของตนเอง ที่ต้องการไปให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว รวมทั้งยังอ้างอิงถึงสิ่งที่เขามองว่า เป็นการให้การเท็จของเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง
ประมุขทำเนียบขาวกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน นอกจากรายงานที่ไม่ระบุที่มาที่ไปว่า สมาชิกพรรคเดโมแครตประณามเพจรุนแรงเรื่องรัสเซีย แต่กลับไม่ต้องการให้เขาไปให้การเพื่อปกป้องตัวเอง รวมทั้งเพื่อพิสูจน์ว่า คำให้การของ "เจมส์ โคมีย์" อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอและ "จอห์น เบรนแนน" อดีตผุ้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เป็นคำให้การเท็จ
การแสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ของทรัมป์มีขึ้นขณะที่บรรดาที่ปรึกษาของเขากำลังวางแผนตั้ง “วอร์รูม” เพื่อหักล้างคำถามที่ประเดประดังเข้าสู่ทำเนียบขาว เรื่องการติดต่อระหว่างรัสเซียกับทีมหาเสียงของทรัมป์
ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันพุธว่า จะไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีนี้อีก และขอให้นักข่าวไปสอบถามกับ มาร์ก คาโซวิตซ์ ทนายความจากภายนอกของทรัมป์แทน
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการติดทวิตเตอร์ของทรัมป์อาจทำให้ความพยายามของทำเนียบขาวในการรับมือข่าวฉาวยากลำบากขึ้น โดยเฉพาะหากข้อความของประธานาธิบดีพาดพิงถึงการสอบสวน
อดัม ชิฟฟ์ สมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาล่าง เขียนข้อความตอบโต้ทางทวิตเตอร์ โดยอ้างอิงคำพูดที่ทรัมป์ยอมรับกับเอ็นบีซีว่า เขาคิดถึง “เรื่องรัสเซีย” ตอนที่สั่งปลดโคมีย์เมื่อวันที่ 9 เดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครตต่างเชื่อว่า การปลดโคมีย์มีเป้าหมายในการขัดขวางการสอบสวนของเอฟบีไอในกรณีรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันพุธว่า โคมีย์จะยืนยันรายงานข่าวเรื่องทรัมป์ขอให้ตนยุติการสอบสวน "ไมเคิล ฟลินน์" อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาวคนแรกในคณะบริหารชุดนี้ กรณีการติดต่อกับรัสเซีย ในการให้การกับคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาครั้งหน้า
นอกจากนั้น บรรดาเพื่อนร่วมพรรครีพับลิกัน ซึ่งรวมถึง "มิตช์ แมคคอนเนล" ผู้นำเสียงข้างมากในรัฐสภา ยังเรียกร้องให้ทรัมป์ทวิตน้อยลง และสื่อสารให้ฉลาดขึ้น
ฌอน ดัฟฟี สมาชิกสภาล่างสังกัดพรรครีพับลิกัน แสดงความเห็นว่า ทรัมป์ควรยุติการแสดงความคิดเห็นหรือการทวิตเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีรัสเซีย และหันไปสนใจกับการบริหารประเทศแทน
ทางด้านเพจบอกว่า คณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาล่างเลื่อนกำหนดการให้การของตนในสัปดาห์หน้าโดยไม่ให้คำอธิบายใดๆ ขณะที่ชิฟฟ์แถลงว่า เขาและไมค์ คอนนาเวย์ สมาชิกรีพับลิกันที่รับผิดชอบการสอบสวนของคณะกรรมาธิการฯ ต้องการตรวจสอบเอกสารก่อนเรียกพยานมาให้การเพิ่มเติม
ที่ผ่านมารัสเซียยืนกรานปฏิเสธข้อสรุปของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ระบุว่ามอสโกแทรกแซงการเลือกตั้งประมุขทำเนียบขาวเพื่อให้การสนับสนุนทรัมป์ ขณะที่ทรัมป์เองยืนยันว่า ไม่มีการสมรู้ร่วมคิดกับเครมลิน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการหลายชุดของรัฐสภาได้ติดต่อขอข้อมูลจากผู้ช่วยและที่ปรึกษาหลายคนของทรัมป์เพื่อใช้ในการสอบสวน โดยนอกเหนือจากเพจยังมีฟลินน์, พอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียง, บอริส เอปสไตน์ อดีตเจ้าหน้าที่สื่อสารของทำเนียบขาว, ไมเคิล โคเฮน ทนายความส่วนตัว และโรเจอร์ สโตน ที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ
เมื่อวันพุธ คณะกรรมาธิการสภาล่างได้อนุมัติหมายเรียกฟลินน์และโคเฮน รวมทั้งยังอนุมัติหมายเรียกเพื่อขอบันทึกจากหน่วยงานข่าวกรองที่แสดงหลักฐานคำขออย่างเป็นทางการของคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้เปิดเผยชื่อผู้ช่วยของทรัมป์ที่ถูกดักฟังการสื่อสารลับสุดยอดโดยไม่เจตนา นอกจากนี้ ฟลินย์ยังได้รับหมายเรียกจากคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภา