เอเจนซีส์ - แหล่งข่าวโตเกียวยืนยัน ญี่ปุ่นจะยังคงมาตรการคว่ำบาตรกับทางรัสเซียต่อไป ร่วมกับกลุ่มประเทศ G7 ที่ยังคงมีนโยบายประท้วงการผนวกไครเมียของผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และในขณะเดียวกันจะเริ่มต้นร่วมมือทางเศรษฐกิจกับรัสเซียเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศหมีขาวด้วยตัวเลข 300 พันล้านเยน ในนโยบาย 2 แพร่งของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะที่สร้างความอึมครึมให้กับชาติสมาชิกกลุ่ม G7 ที่เกรงว่าญี่ปุ่นอาจถอนตัวจากแนวร่วมตอบโต้รัสเซีย
เดอะเจแปนไทม์ส สื่อญี่ปุ่นรายงานวันนี้(26 ธ.ค)ว่า แหล่งข่าวโตเกียวได้ให้สัมภาษณ์ในวันอาทิตย์(25 ธ.ค) เปิดเผยว่า ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะหาทางอธิบายต่อชาติสมาชิกกลุ่มG7 ถึงความจำเป็นของโตเกียวที่ต้องใช้นโยบายทาง 2แพร่งของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ต่อการรับมือกับรัสเซีย ที่ทางฝั่งโตเกียวต้องการทั้งแก้ปัญหาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองชาติ และรวมไปถึงสยบความกลัวภายในกลุ่มประเทศ G7 ที่เกรงว่าญี่ปุ่นจะถอนตัวจากการคว่ำบาตรรัสเซียในปัญหาไครเมียปี 2014
โดยสื่อญี่ปุ่นชี้ว่า ถึงแม้ทางอาเบะจะเชื่อมั่นต่อการพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่น-รัสเซีย แต่อาเบะจะไม่ยอมทิ้งหลักการตอบโต้การบุกยึดไครเมียของรัสเซียเด็ดขาด แหล่งข่าวโตเกียวยืนยัน
ซึ่งในการประชุมซัมมิต G7 ล่าสุดที่มีญี่ปุ่นเป็นประธานในเดือนพฤษภาคมล่าสุด โดยมี มติของที่ประชุมออกมาประกาศประณามการผนวกไครเมียของรัสเซียในปี 2014
“ทางเราไม่สามารถหยุดการประณามรัสเซียได้จนกว่าเอกราชย์ของไครเมียจะได้รับกลับคืน” หนึ่งในแหล่งข่าวโตเกียวกล่าว ในขณะที่แหล่งข่าวโตเกียวอีกคนได้ให้ความเห็นว่า ความจำเป็นที่จะยังคงการคว่ำบาตรในปัจจุบันต่อไปคาดว่า จะเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทางกลุ่มชาติ G7 จะร่วมถกในปีหน้า ซึ่งจะถูกจัดขึ้นในอิตาลี
แต่ทว่าในการหารือร่วมระหว่างอาเบะและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินล่าสุดในการประชุมซัมมิตนางะโตะ ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคมล่าสุด ผู้นำแดนปลาดิบได้รับปากกับปูตินในการให้ความช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศแดนหมีขาว ด้วยการสัญญาจะให้แพกเก็จความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจำนวน 300 พันล้านเยน
ซึ่งพบว่า ในระดับทวิภาคี โตเกียวได้ระงับความร่วมมือระดับรัฐด้านการผ่อนคลายมาตรการทางวีซ่า และจำกัดการนำเข้าสินค้าจากไครเมีย
และในขณะเดียวกันโตเกียวได้ขอรัสเซียเริ่มต้นการเจรจาปัญหาหมู่เกาะคูริลซึ่งเป็นดินแดนพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ซึ่งเจแปนไทม์ส์ชี้ว่า พบว่าทางรัสเซียป้อนงบประมาณน้อยมากต่อหมู่เกาะพิพาทที่ยึดไปจากญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
