xs
xsm
sm
md
lg

InClips:สื่อแดนปลาดิบเดือด “ปูติน” ปฎิเสธลั่น “รัสเซียไม่เคยทับซ้อนดินแดนกับญี่ปุ่น” แถมข่มขู่ “โตเกียวต้องจำนนรับสนธิสัญญาสันติภาพโซเวียต-ญี่ปุ่น มรดกสงครามโลกครั้งที่ 2” งานยากอาเบะรับคุยนางาโตะซัมมิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์/เอเอฟพี – ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ออกเดินทางมุ่งหน้ามายังญี่ปุ่นเพื่อเข้าประชุมหารือระดับทวิภาคีที่เมืองนางาโตะ(Nagato) ในวันพรุ่งนี้(15 ธ.ค)ร่วมกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ โดยก่อนหน้าการออกเดินทาง ผู้นำรัสเซียได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่นในกรุงมอสโก ปฎิเสธชัดเจนว่า ทางรัสเซีย “ไม่เคยมีปัญหาดินแดนทับซ้อน” นอกฝั่งทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นเหมือนอย่างที่ทางโตเกียวเข้าใจ พร้อมกับเร่งรัดให้ทางโตเกียวยอมจำนน ในการยอมรับสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างอดีตสหภาพโซเวียตและญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

เอเอฟพีรายงานวันนี้(14 ธ.ค)ว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับทวิภาคีระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นที่เมืองนางาโตะ(Nagato) โดยมีผู้เข้าร่วมการหารือคือประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และอาเบะ โดยสื่อเอเอฟพีชี้ว่า ในขณะนี้ผู้นำรัสเซียได้เดินทางออกมาจากกรุงมอสโกมุ่งหน้ามายังญี่ปุ่นแล้ว

การหารือที่จะเกิดขึ้น เอเอฟพีชี้ว่า น่าจะเป็นปัญหาหมู่เกาะพิพาททางตอนเหนือสุดนอกฝั่งเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ที่รู้จักในชื่อหมู่เกาะคูริล(Kuril) ซึ่งถูกกองกำลังอดีตสหภาพโซเวียตเข้าบุกยึดตั้งแต่ปี 1945 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และโตเกียวเรียกร้องให้ทางรัสเซียทำการส่งมอบคืนมานับตั้งแต่นั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนความหวังการเจรจาในการที่จะได้หมู่เกาะคูริลกลับคืนจากทางฝั่งรัสเซียในการเจรจาที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้(15 ธ.ค)อาจเป็นงานยากสำหรับอาะเบะไปแล้ว เพราะเดอะเจแปนไทม์ส สื่อญี่ปุ่นรายงานเมื่อวานนี้(13 ธ.ค)ว่า ผู้นำรัสเซียได้ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางมาร่วมการประชุมกับโตเกียวว่า ทางรัสเซียไม่เคยมีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับญี่ปุ่นเหมือนอย่างที่โตเกียวกล่าวอ้าง

โดยปูตินกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นว่า “ทางเราเชื่อว่า ทางเราไม่มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนแม้แต่น้อย แต่เป็นทางฝั่งญี่ปุ่นที่เข้าใจไปว่า มีปัญหาสิทธิครอบครองพื้นที่ทับซ้อนร่วมกับรัสเซีย ซึ่งทางเราพร้อมที่จะพูดคุยในประเด็นนี้”

และในตลอดช่วงการให้สัมภาษณ์ เดอะเจแปนไทม์สระบุว่า ดูเหมือนผู้นำรัสเซียออกมาอ้างว่า จุดยืนของโตเกียวที่มีต่อ 4 เกาะพิพาท ซึ่งรวมไปถึง อิโตโรฟุ (Etorofu ) และคุนาชิริ( Kunashiri) และการบรรลุข้อตกลงสันติภาพนั้นเกินไปกว่ากรอบของการประกาศแถลงร่วมในปี 1956 และนี่ถือเป็นสิ่งที่ต้องแยกออกไป

โดยในการให้สัมภาษณ์ ***ปูตินได้ระบุเงื่อนไขว่า การบรรลุข้อตกลงสันติภาพนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือความยืดหยุ่นของโตเกียวเอง ***ผู้นำรัสเซียชี้

ซึ่งในเรื่องปัญหาดินแดนพิพาท ประธานาธิบดีรัสเซียได้ยกข้อตกลงร่วมระหว่างอดีตสหภาพโซเวียตและญี่ปุ่นปี 1956 ที่มีเนื้อหาว่า 2 เกาะที่เล็กกว่า คือหมู่เกาะชิโกตัน(Shikotan) และหมู่เกาะฮาโบไม(Habomai) จะถูกส่งมอบคืนให้ทางญี่ปุ่นได้ก็ต่อเมื่อสนธิสัญญาสันติภาพนั้นถูกบรรลุแล้ว

และทางปูตินยังยืนยันต่อว่า ทางรัสเซียจะพยายามทุกวิถีทางที่จะบรรลุข้อตกลงในปัญหาพื้นที่ทับซ้อน และจะทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้ง 2 ชาติมาอยู่ในระดับปกติให้ได้

โดยในการสัมภาษณ์ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า “การไม่เกิดขึ้นของสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นถือเป็นเสมือนสิ่งแปลกปลอมทางประวัติศาสตร์ ผลตกทอดมาตั้งแต่อดีต และสิ่งแปลกปลอมที่ว่านี้ควรที่จะถูกทำให้หมดไป แต่ทว่าจะทำจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร ถือเป็นคำถามที่ยาก”

ซึ่งทางปูตินย้ำว่า การไม่มีอยู่ของสนธิสัญญาสันติภาพนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้ง 2 ชาติ

“ทางเรา แน่นอนที่สุด จะพยายามเพื่อที่จะทำให้เกิดการบรรลุสนธิสัญญานี้ขึ้นมา” ปูตินกล่าวต่อ และเสริมว่า “เพราะทางเราต้องการปรับให้ความสัมพันธ์มาอยู่ระดับปกติอย่างสมบูรณ์”

เดอะเจแปนไทม์สรายงานเพิ่มเติมว่า ปูตินถือเป็นผู้นำรัสเซียในรอบ 11 ปีที่จะเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเริ่มการเยือนเป็นเวลา 2 วันนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี(15 ธ.ค)เป็นต้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำรัสเซียวางแผนที่จะเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นในปี 2014 แต่ต้องถูกเลื่อนออกไปเนื่องมาจากปัญหาวิกฤตผนวกดินแดนที่ทางเครมลินประกาศผนวกให้ไครเมีย เดิมเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน ให้กลายเป็นดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซียในช่วงต้นปี 2014 และส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซียตั้งแต่นั้นมา

ซึ่งญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรชาติตะวันตก และได้เข้าร่วมการคว่ำบาตรกับรัสเซียด้วย และทำให้ทางผู้นำรัสเซียออกมาตัดพ้อผ่านการให้สัมภาษณ์ล่าสุดว่า “ญี่ปุ่นเข้าร่วมขบวนการคว่ำบาตรต่อสหพันธรัฐรัสเซีย และจะทำให้ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างเราเดินหน้าได้ต่อเช่นไรที่เกินไปกว่าระดับพื้นฐาน ในขณะที่ระดับสูงกว่าอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของรัฐบาล” ปูตินตั้งคำถาม

ในขณะเดียวกันแหล่งข่าวรัสเซียได้เปิดเผยถึงหนทางบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นนั้นดูมีอุปสรรคมาก ซึ่งรวมไปถึงปัญหาความขัดแย้งการที่ทางฝ่ายรัสเซียเข้าครอบครองบรรดาหมู่เกาะนอกฝั่งฮอกไกโด และนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญต่อผลที่จะเกิดขึ้น

โดยแหล่งข่าวรัสเซียกล่าวว่า “การเจรจาสำคัญใดๆเกี่ยวข้องกับปัญหาข้อตกลงสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อภายใต้เงื่อนไขที่ทางญี่ปุ่นต้องยอมรับอย่างเป็นทางการถึงผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเท่านั้น” โดยทางเจ้าหน้าที่รัสเซียได้เรียกร้องให้ทางโตเกียวยอมรับว่า หมู่เกาะเหล่านั้นเป็นสิทธิอย่างชอบธรรมของรัสเซีย

เดอะเจแปนไทม์สรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่รัสเซียซึ่งติดตามปูตินมาร่วมประชุมซัมมิตนางาโตะ ชี้ต่อว่า ทั้งสองประเทศสมควรเริ่มต้นด้วยการสร้างความมั่นใจร่วมกันก่อนเป็นลำดับแรก และต่อมาในการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีก่อนที่จะหาทางเพื่อบรรลุข้อตกลงสันติภาพในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ค้างอยู่

และนอกจากนี้สื่อแดนปลาดิบยังชี้ต่อว่า และหลังจากการเยือนของปูตินแล้ว จะไม่มีการออกแถลงการณ์การเมืองออกมา เพราะผู้นำรัสเซียและญี่ปุ่นได้เคยออกแถลงการณ์ร่วมกันในปี 2013 ซึ่งยังไม่ได้ถูกนำมาปฎิบัติเนื่องจากเกิดปัญหาที่ทางโตเกียวตัดสินใจประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับรัสเซียเสียก่อน และได้สั่งรับการเจรจาระดับทวิภาคี แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงต่างประเทศรัสเซียอีกคนให้ความเห็น

นอกจากนี้แหล่งข่าวกระทรวงต่างประเทศรัสเซียยังเปิดเผยต่อในถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจบนพื้นที่ทับซ้อนว่า ทั้งอาเบะและปูตินถูกคาดหวังว่า จะประกาศในแผนการความร่วมมือดังกล่าว พร้อมกันนี้เชื่อว่า ผู้นำทั้งสองจะสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศของแต่ละฝ่ายเริ่มต้นการเจรจาทั้งในด้านเงื่อนไข และรูปแบบในความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ซึ่งในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวญี่ปุ่นที่ทำเนียบประธานาธิบดีเครมลิน กรุงมอสโก ปูตินได้นำสุนัขทูตสันถวไมตรีสายพันธุ์อาคิตะเพศเมียระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย ยุเมะ(Yume) ออกมาให้นักข่าวญี่ปุ่นได้ชม พร้อมกับชานชมยูเมะว่า เป็นสุนัขที่มีสุขภาพดี และเป็นสุนัขอารักขาที่เข้มงวด

โดยก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์(11 ธ.ค)มีรายงานว่า ทางเครมลินออกมาปฎิเสธที่จะรับสุนัขสายพันธุ์อาคิตะตัวที่ 2 จากโตเกียวที่ตั้งใจจะมอบให้กับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินในโอกาสเดินทางเยือนญี่ปุ่น เพื่อที่จะให้เป็นคู่ของยูเมะ










กำลังโหลดความคิดเห็น