เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศจะใช้ปืนยิงใครก็ตามที่พยายามจะซื้อเขาด้วยเงินที่ได้จากยาเสพติด ในเหตุกระแสข่าวการเสียชีวิตของโรแลนโด เอสปิโนซา ซีเนียร์ (Rolando Espinosa Sr.) นายกเทศมนตรีเมืองอัลบูเอรา (Albuera) จ.เลย์เต (Leyte) หลังก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (11) ผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศตกลงสั่งซื้ออาวุธจากจีน พร้อมจะส่งรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์เดินทางไปกรุงปักกิ่งเพื่อทำการรับมอบ
สื่ออินไควเรอร์รายงานวันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า โรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ออกมาตอบโต้ในวันจันทร์ (12) ถึงคำกล่าวหาที่ว่า เขาเป็นผู้ปกป้องพวกค้ายาเสพติด เมื่อผู้นำฟิลิปปินส์ได้ออกคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสังหารโรแลนโด เอสปิโนซา ซีเนียร์ (Rolando Espinosa Sr.) นายกเทศมนตรีอัลบูเอรา (Albuera) จ.เลย์เต (Leyte) สามารถกลับเข้าสู่ตำแหน่งได้ใหม่อีกครั้ง
ผู้นำฟิลิปปินส์ออกมาปฏิเสธและยืนยันว่าเขาจะยิงทุกคนหรือใครก็ตามที่พยายามจะซื้อเขาด้วยเงินพัวพันกับกับธุรกิจค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย
“ไม่มีเรื่องที่ว่านี้ อย่ากลัวไป ผมไม่เคยรับเงินยาเสพติด” ดูเตอร์เตแถลงในระหว่างการเปิดเผยถึงการตัดสินใจการยกเลิกคำสั่งบรรเทาทางปกครอง (administrative relief)ต่อผู้กำกับการ มาร์วิน มาร์กอซ (Marvin Marcos)
นอกจากนี้ ดูเตอร์เตยังประกาศต่อว่า “ผมขอรับประกันต่อทุกคนเลย ไม่มีสิ่งใดผิดในเรื่องนี้ ผมแค่กำลังคิดอะไรบางอย่างออกเท่านั้น” อินไควเรอร์รายงานว่า ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวแถลงในระหว่างพิธีการมอบรางวัลบุคคลตัวอย่างคนรุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงของฟิลิปิปนส์ที่ทำเนียบมาลากันยัง
ทั้งนี้ พบว่ามาร์กอซเป็นหัวหน้าตำรวจแผนกอาชญากรรมสอบสวนและหน่วยแกะรอย CIDG ในอิสเทิร์น วิสายาส์ (Eastern Visayas) และในวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ออกปฏิบัติการบุกจู่โจมเรือนจำที่ขังเอสปิโนซา และนำมาสู่การทำให้เอสปิโนซาเสียชีวิต โดยอินไควเรอร์ระบุว่า เอสปิโนซาเป็นบิดาของราชายาเสฟติดชื่อดังฟิลิปปินส์ เคอร์วิน เอสปิโนซา (Kerwin Espinosa) ซึ่งในขณะนี้อยู่ภายใต้การอารักขาของตำรวจฟิลิปปินส์
ซึ่งก่อนหน้านี้มาร์กอซเคยถูกเคอร์วินออกมาแฉว่า เป็นหนึ่งในตำรวจที่ให้การคุ้มครองตัวเขา
อย่างไรก็ตาม สื่ออินไควเรอร์ชี้ว่า ในตอนแรก ผู้อำนวยการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ โรนัลด์ เดลา โรซา (Ronald dela Rosa)ออกมาแถลงข่าวปฎิเสธว่า ดูเตอร์เตไม่ได้ออกคำสั่งเขา ให้คืนตำแหน่งแก่มาร์กอซ
แต่ไม่นานหลังจากนั้น ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ออกมายอมรับกับสื่อด้วยตัวเองว่า เขาเป็นผู้ที่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ CIDG รายนี้กลับคืนสู่ตำแหน่งอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ดูเตอร์เตได้เคยออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รายนี้อยู่ภายใต้การถูกติดตาม
ที่ผ่านมาปัญหาสงครามต่อต้านยาเสพติดภายใต้โครงการของดูเตอร์เตได้รับเสียงคัดค้านไปทั่ว และจนถึงกับทำให้สหรัฐฯตัดสินใจไม่ขายอาวุธปืนไรเฟิลให้กับฟิลิปปินส์ แต่ล่าสุดดูเหมือนสถานการณ์ของดูเตอร์เตจะมีความหวังมากขึ้น เมื่อพบว่าทางปักกิ่งยินยอมที่จะจำหน่ายอาวุธให้กับทางฟิลิปปินส์แทน โดย RT สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมถึงเรื่องนี้ในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ว่า ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ได้กล่าวถึงปักกิ่งและอาวุธปืนผ่านทางแถลงการณ์ต่อกองกำลังในวันอาทิตย์ (11) ที่ผ่านมาว่า “จีนกำลังกดดันผมเรื่องอาวุธ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างได้ถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว ผมจะรับมอบอาวุธเหล่านี้ ทางปักกิ่งเร่งรัดในเรื่องนี้มาก” ดูเตอร์เตกล่าว
โดยสื่อรัสเซียรายงานว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ประกาศจะยอมซื้ออาวุธจากจีน และให้คำมั่นที่จะส่งรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อทำการรับมอบอาวุธเหล่านี้ภายใต้เงื่อนไขการชำระเป็นระยะเวลา 25 ปี
และในแถลงการณ์ ผู้นำฟิลิปปินส์ยังประกาศต่อว่า “ทางเราไม่ต้องออกไปร้องขอกับคนอื่นๆ เพราะทางจีนมีความเต็มใจที่จะมอบให้ ซึ่งอาวุธเหล่านี้ไม่ได้มาฟรี แต่เป็นข้อตกลงเงือนไขระยะเวลา 25 ปี”
นอกจากนี้รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ เดลฟิน โลเรนซานา (Delfin Lorenzana) ยังเปิดเผยต่อว่า และฟิลิปปินส์อาจจะทำการสั่งซื้ออาวุธปืนไรเฟิลกับรัสเซีย โดยโรเรนซานายืนยันว่า ทางกองทัพบกฟิลิปปินส์และหน่วยนาวิกโยธินฟิลิปปินส์จะทำการศึกษาต่อไปในรายละเอียดเพื่อจะให้ได้ข้อตกลงนี้มาไว้ในความครอบครองต่อไป
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา โลเรนซานาได้เดินทางไปเยือนรัสเซียตามคำสั่งของดูเตอร์เตเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่ง RT ระบุว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกของเจ้ากระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์เดินทางไปเยือนรัสเซียนับตั้งแต่ปี 1976 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ชาติ
โลเรนซานาให้ความเห็นว่า “หากอาวุธปืนไรเฟิลของรัสเซียมีประสิทธิภาพสูงกว่าตามที่พวกเขากล่าวอ้าง ทางเราอาจตัดสินใจทำการสั่งซื้อ และทางกองทัพบกและหน่วยนาวิกโยธินฟิลิปปินส์จะเป็นผู้ทำการศึกษา1 และประเมินตัวเลขของการสั่งซื้อ”
สื่อรัสเซียรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ ลงนามคำสั่งว่าฝ่ายรัสเซียและฟิลิปปินส์จะร่วมประชุมข้อตกลงความร่วมมือทางการทหารร่วมกัน
