บีบีซีนิวส์/เอพี/เอเจนซีส์ – นักรบหัวรุนแรงจำนวนอย่างน้อยที่สุด 50,000 คนจากกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ถูกสังหารเสียชีวิต นับตั้งแต่ที่พันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯเริ่มต้นทำการสู้รบในอิรักและซีเรียเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ทหารอเมริการะดับอาวุโสผู้หนึ่งเปิดเผยที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.)
ระหว่างสนทนากับนักข่าวจำนวนไม่มากกลุ่มหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทหารผู้นี้ซึ่งขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับมอบอำนาจให้แถลงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ พูดถึงตัวเลขอย่างน้อยที่สุด 50,000 คนนี้ว่า เป็น “การประมาณการแบบอนุรักษนิยม” นั่นคืออาศัยเฉพาะข้อมูลที่ค่อนข้างชัดเจน
ตัวเลขดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติการซึ่งนำโดยสหรัฐฯที่อยู่ในรูปแบบการถล่มโจมตีทางอากาศและการใช้กำลังทหารรบพิเศษจำนวนน้อยเข้าไปสนับสนุนกองกำลังอาวุธท้องถิ่น เป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯได้กล่าวเตือนซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า กลุ่มไอเอสนั้นสามารถที่จะหานักรบใหม่ๆ เข้ามาแทนที่พวกซึ่งถูกฆ่าตายไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ ของการรณรงค์สู้รบของกลุ่มนี้
เจ้าหน้าที่ผู้นี้บอกด้วยว่า การถล่มโจมตีทางอากาศของพันธมิตรนานาชาติอาจจะเข้มข้นดุเดือดเพิ่มขึ้นในหลายๆ พื้นที่อย่างเช่นเมืองโมซุล ซึ่งกองกำลังอาวุธฝ่ายรัฐบาลอิรักกำลังทำศึกรุกใหญ่เพื่อยึดเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแห่งนี้กลับคืนมา ทว่านั่นก็ต้องแลกกับความเสี่ยงที่จะทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย
การรณรงค์โจมตีของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นสร้างความเสียหายให้กลุ่มไอเอส เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าว “ผมไม่ได้ต้องการที่จะแสดงถึงตัวเลขที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่ปริมาณขนาดนี้ต้องถือว่ามีความสำคัญ มันมีผลกระทบต่อข้าศึก”
เท่าที่ผ่านมา สหรัฐฯมักลังเลไม่ค่อยเปิดเผยตัวเลขเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของฝ่ายข้าศึก
แต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพีอ้างคำพูดของ พล.ท.ฌอน แมคฟาร์แลนด์ (Lt Gen Sean MacFarland) ที่บอกว่า มีนักรบของข้าศึกราว 45,000 คนถูกสังหารในสมรภูมิที่อิรักและซีเรีย
ก่อนหน้านั้น ในเดือนกุมภาพันธ์ โจช เออร์เนสต์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว ได้แถลงว่า มีนักรบไอเอสราว 25,000 คนกำลังปฏิบัติการอยู่ในซีเรียและอิรัก เขาบอกว่าตัวเลขนี้เป็นการประมาณการของฝ่ายข่าวกรองอเมริกัน
กลุ่มไอเอสได้สูญเสียพื้นที่ยึดครองไปเป็นจำนวนมาก ภายหลังจากขยายตัวออกได้สูงที่สุดในช่วงกลางปี 2014 และเวลานี้กำลังตกอยู่ในท่ามกลางห่ากระสุนของกองกำลังอาวุธรัสเซีย, ตุรกี, อิรัก, ซีเรีย, และชาวเคิร์ด ตลอดจนแสนยานุภาพทางอากาศของสหรัฐฯและอังกฤษ
ปัจจุบัน กองกำลังไอเอสถูกปิดล้อมแน่นกระชับขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองโมซุล และเมืองร็อกเกาะฮ์ ซึ่งตั้งอยู่ในซีเรีย รวมทั้งพื้นที่มั่นสำคัญของชาวชนเผ่าอาหรับสุหนี่ในหุบเขาลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส ซึ่งแผ่ขยายจากภาคตะวันออกของซีเรียไปจรดภาคตะวันตกของอิรัก
กองทัพสหรัฐฯอยากเพิ่มบทบาทในเมืองโมซุล?
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในขณะพูดเรื่องพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯอาจเพิ่มการโจมตีทางอากาศในหลายพื้นที่อย่างเช่นเมืองโมซุล เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันอาวุโสผู้นี้บอกด้วยว่า ไม่ขอให้รายละเอียดเกี่ยวกับข้อเสนอเจาะจงใดๆ ในเรื่องนี้ที่อาจจะกำลังมีการพูดคุยหารืออยู่กับคณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่เขาเปิดเผยว่ากำลังมีการพิจารณาเรื่องต่างๆ บางเรื่อง เป็นต้นว่า การจัดส่งทรัพยากรเพิ่มเติมเข้าไป
เมื่อถูกซักถามขอทราบรายละเอียด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า กองทหารปฏิบัติการพิเศษที่ส่งเข้าไปประจำการอยู่ในเวลานี้ถือว่าเพียงพอแล้ว ทว่าประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งซึ่งกำลังมีการหารือกันอยู่ก็คือ กำลังอะไรบ้างที่อาจมีความจำเป็นในการเข้าช่วยเหลือกองทัพอิรักยึดโมซุลเอาไว้ให้ได้อย่างมั่นคง ในทันทีที่พวกนักรบไอเอสถูกผลักดันให้ออกไปจากเมืองใหญ่แห่งนี้
ในอีกด้านหนึ่ง นาวาอากาศเอก จอห์น ดอร์เรียน (Air Force Col. John Dorrian) ผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกผู้หนึ่งให้กองทหารสหรัฐฯในอิรัก ก็กล่าวในทำนองเดียวกันว่า การรณรงค์ทางทหารนำโดยสหรัฐฯ กำลังลดทั้งจำนวนและสมรรถนะสู้รบของกลุ่มไอเอส
ดอร์เรียนบอกว่า ในเวลานี้จะพบเห็นนักรบไอเอสที่มีอายุน้อยลง บางคนเป็นเด็กวัยรุ่นเท่านั้น แทนที่จะเป็นผู้ใหญ่โตเต็มที่เหมือนเมื่อก่อน
เขากล่าวต่อไปว่า ยานพาหนะที่ถูกนำมาดัดแปลงให้กลายเป็นวัตถุระเบิดอย่างคาร์บอมบ์นั้น เวลานี้ก็มีความซับซ้อนปราณีตน้อยลงกว่าในอดีต เขาชี้ว่าในช่วงแรกๆ วัตถุระเบิดจะถูกติดตั้งอยู่บนยานหุ้มเกราะ ทว่าระยะหลังๆ นี้ไอเอสกำลังใช้รถยนต์ธรรมดาเท่านั้น
“สิ่งที่บอกให้เราทราบจากเรื่องเช่นนี้ก็คือ พวกเขากำลังเริ่มขาดแคลนทรัพยากรเหล่านี้แล้ว” ดอร์เรียนกล่าว ขณะพูดให้สัมภาษณ์ผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์จากอิรัก “นี่ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์เวลานี้ ไม่ได้ยังคงเป็นสถานการณ์อันตรายเป็นพิเศษแล้ว มันยังไม่ได้กำลังจะเงียบสงบลงหรอก แต่มันก็กำลังจะเป็นไปเช่นนั้น”
ช่วงเวลา 7 สัปดาห์ที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักเปิดยุทธการชิงคืนเมืองโมซูล พวกเขากำลังบุกฝ่าเข้าไปในส่วนตะวันออกของเมือง และพวกเขาก็กำลังเผชิญการต้านทานอย่างดุเดือดรุนแรงจากเหล่านักรบไอเอสซึ่งเข้าควบคุมเมืองนี้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้กองกำลังฝ่ายรัฐบาลอิรักประสบกับการสูญเสียอย่างสำคัญทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พวกเขาเคลื่อนลึกเข้าไปในเมืองใหญ่แห่งนี้