xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มไอเอสโดนตัดเส้นทางเสบียง ทัพอิรัก-เคิร์ดปิดล้อมโมซุลทุกทิศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์ – นักรบชีอะต์ของอิรักยกพลปิดเส้นทางเสบียงที่เขื่อมต่อระหว่างโมซุล ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของไอเอสในอิรัก กับพื้นที่ยึดครองในซีเรียที่ผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้สถาปนาเป็นรัฐอิสลาม

กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กำลังต่อสู้กับ "ป็อปปูลาร์ โมบิไลเซชัน" กองกำลังพันธมิตรของอิรักกลุ่มชีอะต์ซึ่งมีอิหร่านหนุนหลัง ในเมืองทัล อาฟาร์ ห่างจากโมซุลทางตะวันตก 60 กิโลเมตร

การปิดถนนสายตะวันตกที่มุ่งหน้าสู่ทัล อาฟาร์ จะเท่ากับเป็นการปิดล้อมโมซุลที่ขณะนี้ถูกโอบล้อมทั้งด้านเหนือ ใต้ และตะวันออกโดยกองกำลังของรัฐบาลอิรักและเพชเมอร์กาของชาวเคิร์ด

หน่วยรบพิเศษของอิรักที่ได้รับการฝึกจากกองทัพอเมริกัน ฝ่าแนวต้านของไอเอสเข้าสู่ด้านตะวันออกของโมซุลตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว และขณะนี้กำลังต่อสู้เพื่อขยายพื้นที่การยึดครอง

คนขับรถบรรทุกคนหนึ่งที่เดินทางจากร็อกเกาะห์ ที่มั่นสำคัญของไอเอสในซีเรีย เมื่อสามวันก่อน บอกว่า ถนนไปยังทัล อาฟาร์ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป และว่า เขาเห็นรถบรรทุก 3 คันถูกเผาใกล้จุดที่มีการต่อสู้

ด้านโฆษกของกลุ่ม "ป็อปปูลาร์ โมบิไลเซชัน" แถลงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยกพลถึงทางหลวงสายหลักตามแผนปิดกั้นโมซุล

ขณะเดียวกัน กองทัพอิรักแถลงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (20) ว่า กองทัพอากาศที่ให้การสนับสนุนป็อปปูลาร์ โมบิไลเซชันในการต่อสู้ใกล้ทัล อาฟาร์ ทำการโจมตีและสังหารผู้ก่อการร้าย 15 คน รวมถึงกลุ่มที่ซ่อนอยู่ในอุโมงค์ใกล้ฐานทัพอากาศทัล อาฟาร์

ปฏิบัติการชิงคืนโมซุลเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม โดยได้รับการสนับสนุนภาคพื้นดินและอากาศจากกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ขณะที่ "ป็อปปูลาร์ โมบิไลเซชัน" เข้าร่วมในช่วงปลายเดือนเดียวกัน ด้วยการโจมตีและยึดฐานทัพอากาศทางใต้ของเมืองทัล อาฟาร์เมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมา

การรบในทัลอาฟาร์อาจดึงตุรกีเข้ามาร่วมวงด้วย เนื่องจากกลัวว่า กองกำลังที่อิหร่านสนับสนุนอาจเข้ายึดเมืองนี้ที่คนส่วนใหญ่เป็นชาวเติร์ก สุหนี่ และชีอะต์ และยังอยู่ใกล้พรมแดนซีเรียและตุรกี

ประธานาธิบดี ตายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ประกาศว่า อังการาจะตอบโต้ หากกลุ่มนักรบก่อความรุนแรงใน ทัล อาฟาร์ พร้อมย้ำว่ากองกำลังที่เข้าควบคุมต้องตระหนักถึงความหลากหลายของพลเมืองในเมืองดังกล่าว

ปฏิบัติการชิงโมซุลเป็นการรบครั้งใหญ่ที่สุดในอิรักในรอบ 13 ปีนับจากที่อเมริกานำทัพบุกโค่นล้มซัดดัม ฮุสเซนในปี 2003

กองทัพอิรักประเมินว่า มีนักรบไอเอสในโมซุลประมาณ 5,000-6,000 คน ขณะที่กองกำลังของอิรักและพันธมิตร ซึ่งได้แก่ เพชเมอร์กาและนักรบชีอะต์ มีจำนวนรวมกันราว 100,000 คน

การชิงคืนโมซุลถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการล้มล้างกลุ่มรัฐอิสลาม ด้วยเหตุนี้ อาบู บัคร์ อัล-บักดาดี ผู้นำไอเอสที่เชื่อกันว่า หนีไปยังบริเวณใกล้ชายแดนซีเรีย จึงป่าวประกาศกับนักรบว่า ศึกครั้งนี้จะถอยไม่ได้

ชาวบ้านในโมซุลเผยว่า มีการโจมตีทางอากาศอย่างหนักทางตะวันตกของเมือง ซึ่งมีแม่น้ำไทกริสกั้นกลาง และการโจมตีดังกล่าวดูเหมือนพุ่งเป้าเขตอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ พวกไอเอสแฝงตัวอยู่ในหมู่พลเรือน 1 ล้านคนที่ยังติดค้างอยู่ในเมือง เพื่อซุ่มโจมตีกองทัพอิรัก และเคลื่อนย้ายไปทั่วเมืองผ่านอุโมงค์ที่แอบขุดไว้ เพื่อโจมตีด้วยคาร์บอมบ์ รวมทั้งใช้วิธีซุ่มยิงและยิงด้วยปืนครก

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19) สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า จำนวนผู้บาดเจ็บทั้งในส่วนพลเรือนและทหารกำลังล้นเกินความสามารถในการรับมือของกลุ่มบรรเทาทุกข์ของรัฐบาลและนานาชาติ เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บเกือบ 200 คน ซึ่งถือว่า สูงที่สุดนับจากเริ่มปฏิบัติการชิงโมซุล

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขอิรักสำทับว่า สัดส่วนพลเรือนที่บาดเจ็บเพิ่มขึ้นถึงระดับ 20% ในช่วงเดือนแรกของปฏิบัติการ แม้ส่วนหนึ่งนั้นมีแนวโน้มเกิดจากการที่ทัพอิรักเข้าถึงพื้นที่ใหม่ๆ ที่ชิงมาได้จากไอเอสก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น