รอยเตอร์ - หน่วยรบพิเศษอิรักเข้าควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของโมซุลได้อีกสองเขตเมื่อวันเสาร์ (12) หลังระดมโจมตีหนักหน่วงและทำลายรถที่ไอเอสใช้เป็นคาร์บอมบ์ได้อย่างน้อย 10 คัน นอกจากนี้ หน่วยทหารราบและหน่วยรถถังยังบุกเข้ายึดบริเวณใกล้เคียง ทำลายเครื่องยิงจรวด 3 เครื่อง และสังหารผู้ก่อการร้าย 30 ราย แม้ต้องเผชิญการต่อต้านจากนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ที่ใช้สารพัดวิธี ทั้งโล่มนุษย์ การขุดอุโมงค์ดักโจมตีรอบเมือง และการแฝงตัวในหมู่ชาวบ้านที่ต้องการอพยพ
กองทัพอิรักบุกเข้าสู่โมซุลด้านตะวันออกตั้งแต่เมื่อ 10 วันก่อน และพยายามขยายพื้นที่ควบคุมในเมืองนี้ ที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) เข้ายึดตั้งแต่กลางปี 2014 และประกาศตั้งรัฐอิสลามในพื้นที่บางส่วนของอิรักและซีเรียที่อยู่ติดกัน
ยุทธการที่ดำเนินมาเกือบ 4 สัปดาห์เพื่อขับไล่ไอเอสออกจากโมซุล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในอิรัก เป็นการผนึกกำลังระหว่างนักรบฝ่ายต่างๆ และทหารอิรักรวม 100,000 นาย โดยได้รับการสนับสนุนภาคพื้นดินจากทหารตะวันตกหลายพันนาย รวมถึงการสนับสนุนทางอากาศจากกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ
ยุทธการนี้ต้องพบการต่อต้านดุเดือดจากนักรบไอเอสไม่กี่พันคน ที่ใช้ทั้งคาร์บอมบ์ มือปืนซุ่มยิง นักรบโจมตี และทีมจรวด
พลโท อับดุล วาฮับ อัล-ไซดี จากหน่วยรบพิเศษของอิรัก เผยว่า หน่วยรบพิเศษเข้ายึดเขตอัล-อาร์บาจิยาได้ทั้งหมด และคาดว่าอีกไม่นานจะสามารถเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดในเขตอัล-กาดิซิยา อัล-ทานิยาที่อยู่ติดกัน พร้อมเสริมว่าได้ทำลายรถที่มือระเบิดฆ่าตัวตายเตรียมใช้ก่อการกว่า 10 คัน รวมทั้งสังหารมือปืนซุ่มยิงและทีมอาวุธได้อีกจำนวนหนึ่ง
ไซดิแจงว่า บริเวณครึ่งหนึ่งของฝั่งตะวันออกของโมซุลที่คั่นด้วยแม่น้ำไทกริส ประกอบด้วยเขตต่างๆ 50 เขต ซึ่งรายงานจากกองทัพบ่งชี้ว่าทหารอิรักสามารถควบคุมหรือเข้าสู่บริเวณดังกล่าวไม่ถึง 1 ใน 4 มิหนำซ้ำหลายครั้งยังถูกไอเอสโต้กลับในช่วงกลางคืนและต้องเข้าแย่งชิงกลับมา
ไอเอสนั้นใช้เครือข่ายอุโมงค์รอบเมือง รวมทั้งใช้วิธีปะปนในหมู่พลเมือง 1.5 ล้านคนที่ยังอยู่ในโมซุล เพื่อเปิดฉากโจมตีหรือซุ่มโจมตีโดยที่กองกำลังอิรักไม่ทันได้ตั้งตัว
ไซดิสำทับว่า ความท้าทายใหญ่สุดที่ขัดขวางการรุกของกองทัพอิรักคือ การที่ผู้ก่อการร้ายใช้พลเมืองเป็นโล่มนุษย์ เช่นการกบดานในบ้านชั้นบนและบังคับให้ชาวบ้านอยู่ชั้นล่าง หรือการแฝงตัวอยู่ในหมู่ชาวบ้านที่กำลังอพยพเพื่อหาโอกาสโจมตีทหารที่คอยช่วยเหลือในการอพยพ
กองทัพอิรักยังรายงานว่า หน่วยทหารราบที่ 1 และหน่วยรถถังที่ 9 เข้าโจมตีพวกญิฮาดในย่านซาลามบริเวณชายขอบด้านตะวันออกของเมือง
นอกจากนั้น กองกำลังความมั่นคงและกองทัพอิรักยังรุกเข้าใกล้แนวรบด้านใต้และด้านเหนือของโมซุลมากขึ้น โดยหวังเปิดแนวรบใหม่ภายในโมซุลเพื่อเพิ่มความกดดันให้ไอเอส
กองกำลังที่เข้าโจมตีครอบคลุมกองทัพ หน่วยรบพิเศษ และตำรวจอิรัก ขณะที่ด้านนอกเมืองนั้นนักรบเพชเมอร์กาของเคิร์ดยึดพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนกำลังรบกึ่งทหารชีอะห์โจมตีทางตะวันตก
กองกำลังเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนทางอากาศจากสหรัฐฯ ซึ่งมีทั้งเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์อาปาเช กองกำลังพันธมิตรยังส่งที่ปรึกษาทางการทหารเดินทางไปกับกองทัพอิรักด้วย
ขณะเดียวกัน องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานระบุว่า มีประชาชนราว 49,000 คนต้องทิ้งถิ่นฐานจากการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการทางทหารที่ซับซ้อนที่สุดของอิรักในระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษนับจากการรุกรานของอเมริกาเมื่อปี 2003 เพื่อโค่นล้ม ซัดดัม ฮุสเซน