กลุ่มสิทธิแฉ! กองกำลังอิรัก “ฆ่า-ทรมาน” พลเรือนทางใต้ของโมซุล

รอยเตอร์ - กลุ่มสิทธิระบุในวันนี้ (10) ว่า กองกำลังรัฐบาลอิรัก สังหารและทรมานพลเรือนทางตอนใต้ของเมืองโมซุล รายงานข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดในปฏิบัติการยึดคืนเมืองนี้จากกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่สนับสนุนโดยสหรัฐฯชิ้นแรก

กลุ่มแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า มีการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน เมื่อเดือนที่แล้ว ในเขตชูรา และเกย์ยารา ซึ่งกองกำลังความมั่นคงสงสัยว่า มีความสัมพันธ์กับกลุ่มนักรบญิฮาดสุดโต่งที่ยึดพื้นที่หนึ่งในสามของอิรักเมื่อปี 2014

“ชายกลุ่มหนึ่งในชุดเครื่องแบบตำรวจส่วนกลางทำการสังหารโดยมิชอบด้วยกฎหมายหลายครั้ง พวกเขาจับกุมและสังหารชาวบ้านในหลายหมู่บ้านทางตอนใต้ของโมซุลโดยเจตนาและไร้ความปรานี” ลินน์ มาลูฟ รองผู้อำนวยการด้านการวิจัยที่สำนักงานแอนเนสตีประจำเบรุต กล่าว

ฮิวแมนไรท์วอตช์ (HRW) ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสอย่างน้อย 37 คนถูกกองกำลังอิรักและเคิร์ดคุมตัวจากด่านตรวจ หมู่บ้าน ศูนย์คัดกรอง และค่ายผู้ลี้ภัยทั่วโมซุล และฮอวีจา ที่อยู่ถัดลงมาทางใต้

ทางญาติๆ ระบุว่า พวกเขาไม่ทราบว่า ชายกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ถูกจับไว้ที่ไหน และไม่สามารถติดต่อพวกเขาคนใดได้ขณะถูกควบคุมตัว อ้างจากรายงาน

HRW เตือนว่า การปฏิบัติเช่นนี้ “เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการล่วงละเมิดอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ” รวมถึงการทรมาน

โฆษกกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธว่า ไม่มีการล่วงละเมิดใดๆ และกล่าวว่า กองกำลังอิรักเคารพสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านโฆษกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อาจติดต่อขอความคิดเห็นได้

โฆษกรัฐบาลแคว้นเคอร์ดิสถานปฏิเสธรายงานของ HRW และอธิบายมันเป็นเพราะความล่าช้าในการแจ้งต่อครอบครัวและทรัพยากรที่จำกัด

“ไม่มีใครถูกควบคุมตัวไว้ในสถานที่ลับ พวกเขาถูกคุมตัวอยู่ในสถานที่ปรากฏชื่อ” ดินดาร์ เซบารี กล่าว

ปฏิบัติการโมซุลซึ่งมีทหาร กองกำลังความมั่นคง กลุ่มเพชเมอร์กาชาวเคิร์ด และกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์เข้าร่วม 100,000 คน และได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศที่นำโดยสหรัฐฯได้ก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว แต่จนถึงตอนนี้กลับยึดคืนได้เพียงฐานที่มั่นแห่งเล็กๆ ในเมืองนี้

รายงานของแอมเนสตีอธิบายหลายเหตุการณ์ในช่วงวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งมีชายหลายกลุ่มถูกเฆี่ยนตีด้วยสายเคเบิลและด้ามปืน ก่อนที่จะถูกยิงเสียชีวิต ในกรณีหนึ่งที่ชายคนหนึ่งถูกตัดศีรษะ รายงานเผย

แอมเนสตี ระบุว่า การล่วงละเมิดเหล่านี้อาจเกิดขึ้นซ้ำในเมืองและหมู่บ้านอื่นๆ ในขณะที่ปฏิบัติการจู่โจมโมซุลยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีการรับผิดชอบ