มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันเมื่อวันอังคาร (6 ธ.ค.) จากแรงขายทำกำไรก่อนหน้าสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลเชื้อเพลิงสำรอง ส่วนดาวโจนส์ทุบสถิติอีกครั้ง ขณะที่หุ้นการเงินดีดตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ศึกเลือกตั้ง ปัจจัยตลาดทุนฉุดทองคำปิดลบ นักลงทุนเมินสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 86 เซ็นต์ ปิดที่ 50.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
บิลล์ บารุช หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของ iiTRADER ให้ความเห็นว่า “เรากำลังเห็นการขายทำกำไรก่อนหน้าสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลคลังน้ำมันสำรอง เช่นเดียวกับความสงสัยต่อกรณีสมาชิกโอเปกจะดำเนินการตามข้อตกลงลดกำลังผลิตหรือไม่”
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (อีไอเอ) จะเผยแพร่ข้อมูลคลังปิโตรเลียมรายสัปดาห์ในวันพุธ (7 ธ.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล แต่สต๊อกเบนซินน่าจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล เช่นเดียวกับน้ำมันกลั่น ที่ประกอบด้วยน้ำมันทำความร้อนและดีเซลที่น่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (6 ธ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ขณะที่หุ้นการเงินยังคงได้ประโยชน์จากผลเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 35.54 จุด (1.8 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,251.78 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 7.52 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,212.23 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 24.11 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,333.00 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคาร ภาคที่ดีดตัวร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติม หลังมีความเห็นในแง่บวกเกี่ยวกับสภาวะการดำเนินธุรกิจจากเจพีมอร์แกนเชสและแบงก์ออฟอเมริกา ณ ที่ประชุมสัมมนาของเหล่าธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นของแบงก์ออฟอเมริกา, โกลแมนแซคส์ และซิตีกรุ๊ป ต่างปิดบวกมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (6 ธ.ค.) ขยับลง 2 วันติด หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและการซื้อขายในแดนบวกของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผลักนักลงทุนเมินถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 6.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,170.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์