เอเอฟพี - ชาวมุสลิมอินโดนีเซียกว่า 200,000 คนร่วมละหมาดวันศุกร์ที่จตุรัสใจกลางกรุงจาการ์ตาวันนีี้ (2 ธ.ค.) พร้อมอ่านถ้อยคำจากพระคัมภีร์อัลกุรอาน นับเป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 เพื่อเรียกร้องให้มีการจับกุมผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นอิสลาม
ผู้ประท้วงซึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวและหมวกแบบชายชาวมุสลิมได้นัดชุมนุมกันที่จตุรัสรอบๆ อนุสาวรีย์แห่งชาติ (Monas) โดยมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกว่า 20,000 นายตรึงกำลังควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงเหมือนเมื่อเดือนที่แล้วที่ประชาชนนับแสนได้ออกมาประท้วงขับไล่นายบาซูกิ จาฮาจา ปุรนามา ผู้ว่าฯ กรุงจาการ์ตาซึ่งเป็นชาวคริสต์
ปุรนามา หรือ “อาฮก” กำลังถูกดำเนินคดีฐานดูหมิ่นอิสลาม หลังจากที่เขาได้ยกข้อความในพระคัมภีร์อัลกุรอานมาอ้างขณะการหาเสียง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในแดนอิเหนาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลก
องค์กรมุสลิมกว่า 10 แห่งกล่าวหา อาฮก ว่าดูหมิ่นอิสลาม หลังจากที่เขาอ้างว่าศัตรูทางการเมืองกำลังนำข้อความจากอัลกุรอานมาล่อลวงประชาชน โดยข้อความส่วนนั้นมีเนื้อหาในทำนองว่า ชาวมุสลิมไม่ควรเลือกผู้นำที่ไม่ใช่มุสลิม
กรณีนี้ถูกมองว่าเป็นเครื่องทดสอบความอดทนอดกลั้น และการยอมรับในความเชื่อที่แตกต่างของชาวอินโดนีเซีย ขณะที่ความเป็นพหุวัฒนธรรมกำลังถูกบั่นทอน และเริ่มมีเหตุโจมตีชนกลุ่มน้อยเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์มองว่ากระแสต่อต้าน “อาฮก” เป็นกลยุทธ์ทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการทำลายคะแนนนิยมของผู้ว่าฯ รายนี้ด้วย
การที่รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งดำเนินคดีกับอาฮกซึ่งเป็นคนเชื้อสายจีน และเป็นผู้ว่าฯ จาการ์ตาคนแรกที่ไม่ใช่มุสลิมในรอบ 50 ปี ดูเหมือนจะไม่สามารถบรรเทาความโกรธเกรี้ยวของสังคมลงได้ โดยเฉพาะเครือข่ายมุสลิมหัวอนุรักษ์ที่ยังออกมากดดันให้ตำรวจจับกุมผู้ว่าฯ รายนี้
กลุ่มผู้ประท้วงได้ชูป้ายข้อความที่เขียนว่า “จับอาฮกเข้าคุก” ขณะที่เดินขบวนไปตามท้องถนนซึ่งมุ่งสู่อนุสาวรีย์เอกราชใจกลางเมืองหลวง
“จงปกป้องศาสนาของเรา” รีเซียะ ชีฮับ ผู้นำกลุ่มแนวร่วมปกป้องอิสลาม (Islamic Defenders’ Front - FPI) ประกาศต่อฝูงชนที่ยืนฟังคำปาฐกถาของเขา
“จงยับยั้งการดูหมิ่นศาสนาทุกรูปแบบ และนำตัวผู้ที่ฝ่าฝืนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซียซึ่งเป็นพันธมิตรของอาฮกได้เข้าพบผู้นำศาสนาและผู้นำทางการเมืองหลายคนในช่วงไม่กี่วันมานี้เพื่อบรรเทาสถานการณ์
วิโดโด ยังได้ไปร่วมละหมาดวันศุกร์กับผู้ชุมนุมในวันนี้ (2) พร้อมกล่าวขอบคุณประชาชนที่แสดงออกอย่างสันติ และขอให้พวกเขาเดินทางกลับบ้าน
เช้าตรู่วันนี้ (2) ตำรวจอิเหนาได้ควบคุมตัวบุคคล 8 คนที่ต้องสงสัยว่าเตรียมกระทำการอันเข้าข่าย “กบฏ” โดยมีรายงานว่าในกลุ่มนี้ยังรวมถึงน้องสาวของอดีตประธานาธิบดีคนหนึ่ง และนายพลวัยเกษียณ
ตำรวจไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่าคนกลุ่มนี้กระทำความผิดอย่างไร แต่ผู้สังเกตการณ์บางคนได้ออกมาแสดงความกังวลก่อนหน้านี้ว่า ศัตรูของอาฮก และ วิโดโด อาจยุยงให้ผู้ประท้วงก่อจลาจลเพื่อสั่นคลอนความมั่นคงของรัฐบาล
การชุมนุมขับไล่อาฮกเมื่อวันที่ 4 พ.ย. มีชาวมุสลิมอิเหนาเข้าร่วมประมาณ 100,000 คน โดยสถานการณ์เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยในช่วงกลางวัน แต่พอพลบค่ำก็เกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกนับร้อย
เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุรุนแรงซ้ำอีก ทางการและผู้นำมุสลิมได้ตกลงว่าจะจำกัดพื้นที่ชุมนุมเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์แห่งชาติ และจะยุติกิจกรรมตั้งแต่ช่วงบ่าย
อาฮก อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หากพบว่ามีความผิดฐานฝ่าฝืนกฎหมายหมิ่นศาสนาของอินโดนีเซีย