รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย กล่าวในวันอังคาร (22 พ.ย.) ว่า เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะ “ป้องกันไม่ให้ลัทธิหัวรุนแรงเติบโตขยายตัว” ทั้งนี้หลังจากมีรายงานหลายกระแสว่า พวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงกำลังแผนการจัดการประท้วงซึ่งจะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลของเขา
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่หลายรายออกมาระบุว่า ในคณะรัฐบาลกำลังมีการเตือนภัยกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่มีชาวมุสลิมกว่า 100,000 คนนำโดยพวกอิสลามิสต์สายแข็งกร้าว ออกมาชุมนุมขบวนในท้องถนนของกรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ปลด บาสุกิ จาฮาจา ปุรนามา ผู้ว่าการของนครหลวงแดนอิเหนาคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นชาวคริสต์และมีเชื้อสายจีน โดยพวกเขากล่าวหาว่าปูร์นามากล่าวดูหมิ่นศาสนาอิสลาม
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ติโต คาร์นาเวียน ก็กล่าวเตือนในวันจันทร์ (21) ถึงภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นกับรัฐสภา ในระหว่างที่จะมีการชุมนุมขึ้นมาอีก โดยคาดหมายกันว่าจะจัดขึ้นในวันศุกร์ (25) นี้ และในวันศุกร์หน้า (2 ธ.ค.)
“หลายกลุ่มเตรียมวิธีการที่ไม่เปิดเผยจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะบุกเข้าไปและยึดรัฐสภาเอาไว้” สื่อของอินโดนีเซียอ้างอิงคำแถลงของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเตือนด้วยว่า “ถ้า (การปฏิบัติการเหล่านี้) มีเจตนาเพื่อโค่นล้มรัฐบาลแล้ว นี่ก็เป็นการละเมิดกฎหมาย”
วิโดโดนั้นกล่าวประณาม “ตัวแสดงทางการเมืองหลายราย” เป็นผู้รับผิดชอบทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาในระหว่างการประท้วงเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อของใครอย่างเจาะจง
ในวันอังคาร (22) ประธานาธิบดีแดนอิเหนาผู้นี้ได้พบปะกับผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เป็นพันธมิตรทางการเมือง นับเป็นคนสำคัญล่าสุดที่เขาหารือด้วยในการพบปะกับบุคคลระดับท็อปทั้งทางการเมือง, ศาสนา, และทางทหารอย่างต่อเนื่องเป็นชุดใหญ่ เพื่อส่งสัญญาณแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของรัฐบาลของเขา และความสนับสนุนที่ได้รับจากพวกผู้บังคับบัญชาหน่วยงานด้านความมั่นคง
“ผมต้องเน้นย้ำจิตวิญญาณแห่งการยอมรับความหลากหลาย” เขากล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวภายหลังการพบปะซึ่งมีขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดี
“รัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้ลัทธิหัวรุนแรงเติบโตขยายตัวในประเทศนี้” เขาย้ำ
ขณะที่ทั้งวิโดโด ซึ่งเป็นผู้นำของพรรคเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี และผู้นำของฝ่ายค้าน ปราโบโว สุเบียนโต ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
ในวันอังคาร (22) ประธานาธิบดีวิโดโดยังพยายามลดทอนความวิตกกังวลในหมู่นักลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“สถานการณ์ทางการเมืองมีความร้อนแรงขึ้นนิดหน่อยในช่วงไม่นานมานี้ แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติมากในช่วงใกล้ๆ การเลือกตั้งเช่นนี้” เขากล่าวในระหว่างการปราศรัย โดยอ้างอิงถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นในจาการ์ตาที่กำลัจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมกับยืนยันว่าไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะมองการณ์ในแง่ลบ
สำหรับชนวนเหตุที่ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในคราวนี้ คือการแสดงความเห็นของนายกเล็ก ปุรนามา ซึ่งบอกว่าฝ่ายที่คัดค้านเขาได้ใช้คัมภีร์อัลกุรอานในการหาเสียงทางการเมือง
ปุรนามา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “อาฮก” กำลังลงแข่งขันเพื่อเป็นนายกเทศมนตรีจาการ์ตาอีกสมัยหนึ่ง ในการเลือกตั้งที่กำหนดมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยคู่แข่งสำคัญของเขา 2 คนที่เป็นชาวมุสลิมนั้น คนหนึ่งเป็นบุตรชายของอดีตประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโน ขณะที่วิโดโดเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของนายกเทศมนตรีนครจาการ์ตาผู้นี้
ในวันอังคาร (22) ตำรวจยังได้เริ่มเปิดการสอบสวนเรื่องที่ปุรนามาถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นคัมภีร์กุรอาน และสอบปากคำเขาด้วย เป็นที่คาดหมายกันว่าฝ่ายอัยการจะนำคดีนี้ขึ้นฟ้องศาลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งถ้าเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาหมิ่นศาสนา ก็อาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
ตำรวจแถลงด้วยว่า กำลังสอบสวนการรณรงค์ทางสื่อสังคมซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนแห่กันไปถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ในวันศุกร์ (25 ) นี้ เพื่อแสดงการประท้วงวิธีการดำเนินการของรัฐบาลต่อการร้องทุกข์กล่าวโทษปุรนามา
เจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายรายได้ออกมาเรียกร้องประชาชนอย่าได้สนับสนุนการรณรงค์นี้ พร้อมกับยืนยันว่าสามารถรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น