รอยเตอร์ - ตำรวจอินโดนีเซียเข้าสลายการชุมนุมครั้งใหญ่ของชาวมุสลิมเคร่งจารีตหลายแสนคนในช่วงค่ำวันศุกร์(4พ.ย.) โดยยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่ฝูงชนที่เรียกร้องให้ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาลาออก หลังกล่าวหาว่าเขาดูหมิ่นพระคัมภีร์อัลกุรอาน เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ศพและบาดเจ็บ 12 ราย
อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก แต่ส่วนใหญ่เป็นอิสลามสายกลางและการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมมากมายขนาดนี้ไม่ค่อยพบเห็นนัก
พวกนักวิจารณ์บอกว่าการประท้วงถูกปลุกปั่นโดยกลุ่มหัวรุนแรงที่หวังผลความตึงเครียดทางการเมืองก่อนหน้าศึกเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาในเดือนกุมภาพันธ์ โดยการชุมนุมขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆเพราะว่ารัฐบาลล้มเหลวในการควบคุมมัน
ตำรวจบอกว่าจำนวนผู้ประท้วงในจาการ์ตา เพิ่มขึ้นเป็นราว 150,000 คนไม่กี่ชั่วโมงหลังเสร็จสิ้นการสวดมนต์วันศุกร์ โดยพวกเขามารวมตัวกันรอบๆทำเนียบประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ทว่าพอเข้าสู่ช่วงเย็น ฝูงชนก็เริ่มควบคุมยาก บางส่วนปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ จุดไฟเผารถยนต์ 2 คันและมีเหตุไฟไหม้บริเวณใกล้กับอนุสรณ์สถานแห่งชาติของเมือง
เจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำใส่ และพอเข้าสู่หัวค่ำ ผู้ประท้วงจำนวนมากได้ออกจากพื้นที่ชุมนุมไปแล้ว แต่ก็มีอีกหลายร้อยคนที่ยังปักหลักค้างคืนข้างๆอาคารรัฐสภา ขณะที่ทางเหนือของเมืองหลวง สือมวลชนรายงานว่าได้มีเหตุปะทะระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงหลายสิบคน และร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งถูกปล้นสะดม
ผู้ประท้วงจำนวนมหาศาลที่สวมชุดขาวแบบอิสลาม ชุมนุมเรียกร้องให้นายบาสุกี ทจาฮาจา เพอร์นามา ผู้ว่าการจาการ์ตาลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้นายเพอร์นามา ถือเป็นนักการเมืองเชื้อสายจีนและนับถือศาสนาคริสต์คนแรกที่ได้เป็นผู้นำเมืองที่มีประชากร 10 ล้านคนแห่งนี้ และเขาลงสมัครหวังนั่งเก้าอี้อีกสมัย ซึ่งต้องแข่งกับผู้สมัครมุสลิม 2 คน
คนเชื้อสายจีนมีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์จากประชากรกว่า 205 ล้านคนของอินโดนีเซีย และปกติแล้วพวกเขามักไม่เข้าสู่แวดวงทางการเมือง
ชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน เคยเผชิญกับการตามประหัตประหารและความรุนแรงในอดีต โดยเฉพาะเมื่อครั้งกรุงจาการ์ตาถูกปกคลุมไปด้วยความยุ่งเหยิงทางการเมืองและสังคม หลังประธานาธิบดีซูฮาร์โตถูกโค่นล้ม
บรรยากาศในกรุงจาการ์ตาเต็มไปด้วยความตึงเครียดในวันศุกร์(4พ.ย.) ด้วยบางบริษัทแนะนำให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ทั้งแม้เมืองหลวงของอินโดนีเซียจะติดอันดับต้นๆของโลกด้านการจราจรติดขัดในช่วงโมงเร่งด่วนอยู่ก่อนแล้ว แต่การประท้วงทำให้การเข้าถึงย่านธุรกิจหลายแห่งถูกตัดขาด
กลุ่มมุสลิมหลายสิบกลุ่มกล่าวหานายเพอร์นามาว่าดูหมิ่นศาสนา หลังเขาเล่นมุกตลกบอกว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาใช้โคลงกลอนในพระคัมภีร์อัลกุรอานหลอกลวงผู้มีสิทธิ์ออกเสียง โดยโคลงกลอนดังกล่าวบอกเป็นนัยว่าชาวมุสลิมไม่ควรเลือกผู้นำที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม
"เขาไม่ใช่คนมุสลิม แต่เขาลบหลู่พระคัมภีร์" หนึ่งในผู้ประท้วงกล่าว "อย่าอ้างถึงสิ่งใดๆในพระคัมภีร์ โดยเฉพาะจากความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ผมเรียกร้องขอพระผู้เป็นเจ้า จงคุมขังเขา"
ตำรวจกำลังดำเนินการสืบสวนคดีนายเพอร์นามา แม้ว่าเขาได้ออกมาขอโทษแล้วและยืนยันว่าไม่ได้วิจารณ์โคลงกลอนในพระคัมภีร์ แต่ถูกฝ่ายตรงข้ามใช้มันเล่นงานเขา
นายเพอร์นามา เคยเป็นรองผู้ว่าการของนายวิโดโด อดีตผู้ว่าการ ที่ตอนนี้ก้าวเป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ระหว่างปี 2012-2014 เขามีชื่อเสียงในฐานะนักปฏิรูปที่ตรงไปตรงมาและไม่อดทนต่อการคอรัปชัน ที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอความยุ่งเหยิงของเมือง และเขายังคงได้รับความนิยมอยู่แม้ถูกประท้วงขับไล่
วิโดโด ซึ่งเป็นคนมุสลิม ประกาศว่าจะไม่แทรกแซงกระบวนการทางกฎหมายต่อนายเพอร์นามา แต่นายยูซูฟ คัลลา รองประธานาธิบดีเผยกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์(4พ.ย.) ว่าเขาและเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นๆได้พบปะกับตัวแทนผู้ประท้วง และให้สัญญาว่ากระบวนการทางกฎหมายกับนายเพอร์นามา จะดำเนินการอย่างหนักแน่นและรวดเร็ว
เหล่านักวิจารณ์บอกว่ารัฐบาลของนายวิโดโด ไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอสำหรับยับยั้งความตึงเครียดทางศาสนาและเชื้อชาติ และในขณะที่มีการประท้วงอยู่ใจกลางกรุงจากาตาร์ ประธานาธิบดีกลับเลือกที่จะไปตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางรถไฟที่สนามบินของเมืองหลวงแทน
