xs
xsm
sm
md
lg

ชมคลิป ภาพ และพระราชดำรัส “สมเด็จพระบรมฯ” เสด็จฯ จ.ปัตตานี เพื่อสืบสานพระราชกรณียกิจในหลวงรัชกาลที่ ๙

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



 
“คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และอิหม่ามนั้นเป็นบุคคลสำคัญ และมีเกียรติ ด้วยเป็นผู้ที่ได้รับการเลือกสรรจากอิสลามิกชนให้เป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษา ทั้งในด้านศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม และการดำเนินชีวิต ให้ถูกตรงตามบทบัญญัติแห่งศาสนา…
 
“ส่วนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นรากฐานในการสร้างเสริมความดี ความเจริญให้แก่เยาวชน โดยการให้การศึกษาที่ดีที่ครบถ้วน ทั้งด้านวิชาสามัญ และวิชาศาสนา หน้าที่ดูแลและแนะนำสั่งสอนอิสลามิกบริษัท และหน้าที่ในการศึกษาอบรมในเยาวชนนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะบุคคลที่ได้รับการแนะนำสั่งสอน และศึกษาที่ดีพร้อมทั้งหลักวิชาและหลักธรรม ย่อมสามารถดำเนินชีวิตและประกอบสัมมาอาชีพ สร้างสรรค์ความดีความเจริญให้แก่ตนเอง และสังคมส่วนรวมได้แท้จริง
 
“ดังนั้น ผู้นำศาสนาก็ดี ผู้บริหารโรงเรียนก็ดี จึงควรจะได้ภาคภูมิใจในผลงานที่ได้ปฏิบัติมา และร่วมมือสนับสนุนกันและกันให้ยิ่งใกล้ชิด งานทุกอย่างในหน้าที่จะได้ดำเนินรุดหน้า และอำนวยประโยชน์ในการสร้างคนดีมีคุณภาพ ให้บรรลุผลตามเป้าหมายโดยสมบูรณ์
 
พระราชดำรัส สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ณ ที่ทำการองค์การองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปัตตานี ในการพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น และอิหม่ามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2559
 

 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 19.46 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อไปทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานถ้วยรางวัลการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ และเยี่ยมพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ณ มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
 
ในการนี้ นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายกิตติกร กิตติพานประยูร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปัตตานี พล.ต.วิชาญ สุขสง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยข้าราชการเฝ้าฯ รับเสด็จ
 

 
จากนั้นได้ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ทรงถวายพานพุ่ม และวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นได้ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี และทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานถ้วยรางวัล และโล่ที่ระลึก การทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ แก่ผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศ และผู้ให้การสนับสนุน รวมจำนวน 27 ราย และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำศาสนา และทรงฉายพระรูปร่วมกับผู้ให้การสนับสนุน และคณะกรรมการตัดสินการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ ประจำปี 2558
 
ต่อจากนั้น ได้ประทับรถยนต์พระที่นั่งจากมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปยังที่ทำการ อบจ.ปัตตานี ในการพระราชทานโล่เกียรติคุณ และเงินรางวัลแก่ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 7 รางวัล และอิหม่ามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น จำนวน 23 ราย ต่อด้วยพระราชทานรางวัลแก่ผู้แทนโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียน ครูและนักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ ที่มีผลงานการปฏิบัติงานดีเด่น ประจำปี 2558 จำนวน 28 ราย ตามลำดับ
 

 
ทั้งนี้ ในการเสด็จฯ ไปยัง จ.ปัตตานี ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในครั้งนี้ เป็นไปตามหมายกำหนดการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ไว้แต่เดิม และถือเป็นพระราชกรณียกิจต่อเนื่องจากที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิม โดยครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2505 ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้มีพระราชดำรัสให้แปลคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย และวันที่ 16 มี.ค.2511 เป็นวันแรกที่พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับความหมายภาษาไทยได้ถูกจัดพิมพ์ขึ้นถวาย และได้พระราชทานแก่มัสยิดทั่วประเทศ
 
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชดำรัสในงานเฉลิมฉลอง 14 ศตวรรษแห่งอัลกุรอานไว้ว่า…
 
“คัมภีร์อัลกุรอาน มิใช่จะเป็นคัมภีร์ที่สำคัญในศาสนาอิสลามเท่านั้น แต่ยังเป็นวรรณกรรมสำคัญของโลกเล่มหนึ่ง ซึ่งมหาชนรู้จักยกย่อง และได้แปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างแพร่หลาย”
 



























 

กำลังโหลดความคิดเห็น