เอเจนซีส์/เอพี - รัสเซียได้จัดส่งระบบต่อต้านอากาศยานและมิสไซล์ S-400 ที่ถือว่าทันสมัยสูงสุดในกองทัพรัสเซีย และจรวดมิสไซล์อิสคานเดอร์ (Iskander) ที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และพิสัยทำการในระยะ 500 ไมล์ ไปยังเขตคาลินินกราด (Kaliningrad) พื้นที่นอกแผ่นดินใหญ่รัสเซีย บนคาบสมุทรบอลติก เพื่อประจันหน้ากับระบบขีปนาวุธสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไม่พอใจที่นาโตขยายพื้นที่ทางทหาร
ดิ เอ็กซเพรส สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ว่า มีรายงานล่าสุดว่า ดูเหมือนผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน จะเริ่มต้นส่งสัญญาณเตรียมพร้อมทำสงครามกับโลกตะวันตก หลังจากหัวหน้าทางความมั่นคงรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยว่า เครมลินได้สั่งการส่งจรวดมิสไซล์อิสคานเดอร์ (Iskander) ที่มีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และพิสัยทำการในระยะ 500 ไมล์ พร้อมกับระบบต่อต้านอากาศยาน S-400 ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูงเข้าไปบนแผ่นดินยุโรปแล้ว
ซึ่งพิสัยทำการในระยะ 500 ไมล์ของจรวดมิสไซล์อิสคานเดอร์นั้น สื่ออังกฤษชี้ว่า สามารถโจมตีจากเขตคาลินินกราด (Kaliningrad) ที่มีพรมแดนติดโปแลนด์ และลิธัวเนีย บนคาบสมุทรบอลติก พื้นที่นอกแผ่นดินใหญ่รัสเซีย ได้ไกลถึงกรุงเบอร์ลิน เยอรมัน โปแลนด์ และ สวีเดน
ในขณะที่ระบบต่อต้านอากาศยานและมิสไซล์ S-400 ที่มาพร้อมความสามารถใช้กับเป้าหมายได้ทั้งเป้าหมายระยะใกล้และระยะไกลทุกรูปแบบ
โดยเอพีรายงานว่า ในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ที่ผ่านมา สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียได้รายงานถึงการส่งระบบต่อต้านอากาศยานและมิสไซล์ S-400 ลงคาลินินกราด โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ได้เปิดเผยว่า หน่วยกำลังรบบอลติกจะมีการติดอาวุธ แต่ไม่ระบุว่าเป็นประเภทใด
และพบว่า นอกเหนือจากระบบต่อต้านอากาศยานและมิสไซล์ S-400 และจรวดมิสไซล์อิสคานเดอร์แล้ว ทางรัสเซียได้ยังได้ส่งจรวดร่อนซูเปอร์โซนิก โอนิคส์ (supersonic Oniks cruise missiles) ยังได้ถูกใช้ในหน่วยกำลังรบบอลติก ซึ่งจรวดร่อนซูเปอร์โซนิก โอนิคส์ มีรัศมีทำการไกลถึง 450 กม. และยังสามารถใช้ยังเป้าหมายเรือรบข้าศึกได้มีประสิทธิภาพดีเท่าๆ กับเป้าหมายภาคพื้น
ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา เอพีชี้ว่า จรวดร่อนซูเปอร์โซนิก โอนิคส์ ถูกใช้ในสมรภูมิรบซีเรีย
ทั้งนี้ วิคตอร์ โอเซอรอฟ (Viktor Ozerov) หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการป้องกันประเทศประจำสภาสูงรัสเซีย ได้ออกมายืนยันกับสำนักข่าวรัสเซีย RIA เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ถึงคำสั่งการส่งระบบต่อต้านอากาศยานและมิสไซล์ S-400 และจรวดมิสไซล์อิสคานเดอร์ที่มีความสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ไปประจำยังเขตคาลินินกราด
โดยโอเซอรอฟได้แถลงว่า “เรากำลังเผชิญหน้ากับ 2 ภารกิจสำคัญ หนึ่ง - คือ การเจาะและทำลายระบบการต่อต้านอากาศยาน และ สอง - การสร้างหลักประกันการคุ้มกันจากการถูกโจมตี”
และในการให้สัมภาษณ์กับ RIA หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการป้องกันประเทศประจำสภาสูงรัสเซีย ยังกล่าวต่อว่า “และเพื่อต่อต้านกับภัยคุกคามเหล่านี้ ทำให้ทางรัสเซียต้องให้ความสนใจต่อระบบต่อต้านอากาศยาน และมิสไซล์ของรัสเซียในภาคพื้นยุโรป และทำให้ทางเราตัดสินใจส่งไฮเทควอร์แฟร์ไปประจำเพิ่มขึ้น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในดินแดนรัสเซีย”
ดิ เอ็กซเพรส รายงานเพิ่มเติมว่า โอเซอรอฟ ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวทางการทหารล่าสุดนี้ เพื่อตอบโต้การติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธของวอชิงตันในภาคพื้นยุโรป
ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไม่พอใจที่เห็นการขยายตัวทางการทหารของนาโต โดยในการให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซีย ทีวีทูเดย์ ล่าสุด ในวันจันทร์ (21 พ.ย.) ปูติน กล่าวว่า “ทำไมทางรัสเซียถึงมองการแผ่อิทธิพลของนาโตด้วยความรู้สึก” และกล่าวต่อว่า “เป็นเพราะรัสเซียกังวล…ต่อการตัดสินใจของนาโต พร้อมประกาศจะตอบโต้นาโตต่อการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออกของยุโรป
ทั้งนี้ สื่ออังกฤษรายงานว่า นาโตมีแผนที่จะส่งกองกำลังรบ 4,000 นาย พร้อมฝูงเครื่องบินรบ รถถัง และปืนใหญ่ไปยังประเทศที่เคยอยู่ใต้ปีกของอดีตสหภาพโซเวียตบนคาบสมุทรบอลติก และโปแลนด์ ในปีหน้า